สักคิ้ว ศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจ

การสักคิ้ว เป็นการเสริมความงามและบุคลิกภาพสำหรับผู้ที่ไม่มีขนคิ้ว มีขนคิ้วน้อย  มีขนคิ้วบางส่วนไม่เป็นระเบียบ หรือไม่เป็นทรงสวยงามตามความชอบของบุคคลนั้น คล้ายกับการสักริมฝีปากหรือสักขอบตา เพื่อลดเวลาในการแต่งหน้า เพราะคิ้วที่สักแล้วจะคงอยู่เป็นเวลาหลายปี การสักคิ้วไม่ใช่วิธีการใหม่ แต่ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการเพิ่มเทคนิคให้ดูสมจริงและมีมิติมากขึ้น

สักคิ้ว

อย่างไรก็ตาม การสักเป็นเทคนิคเสริมความงาม ซึ่งไม่ได้ใช้เครื่องมือทางการแพทย์ ไม่ใช่การรักษาหรือบำบัด เป็นการให้บริการในสถานประกอบการนอกโรงพยาบาล ผู้ที่ต้องการสักคิ้วจึงควรศึกษาข้อมูลและวิธีการให้ดีก่อนตัดสินใจ

ข้อจำกัดสำคัญในการสักคิ้ว

การเตรียมตัวก่อนไปสักคิ้ว

ศึกษาผลกระทบทางสุขภาพ

ปรึกษาแพทย์ก่อนสัก เพราะการสักอาจมีผลกระทบต่อโรค อาการเจ็บป่วยที่กำลังเผชิญ หรืออาจส่งผลต่อการรักษาใด ๆ ในอนาคตได้ เช่น ผู้ที่มีอาการแพ้ต่อสีที่ใช้ในการสัก หรือผู้ที่มีรอยแผลเป็นนูน (คีลอยด์) ไม่ควรสัก

ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการสักคิ้ว

เมื่อมั่นใจแล้วว่าการสักจะไม่ส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพในอนาคต ควรศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อน ดังนี้

ขั้นตอนในการสักคิ้ว

ระยะเวลาที่ใช้ในการสักคิ้ว

การสักคิ้วใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 1 ชั่วโมง

หลังการสักคิ้ว

การดูแลตนเองหลังสักคิ้ว

ความเสี่ยง และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการสักคิ้ว

แม้จะมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อย แต่ผู้ที่สักคิ้วควรหมั่นสังเกตอาการที่เป็นสัญญาณปัญหาสุขภาพ หากพบสิ่งผิดปกติ ควรสอบถามสถานประกอบการที่ไปสักมา หรือปรึกษาแพทย์

โดยปัญหาที่อาจพบได้หลังการสักคิ้ว ได้แก่

ลบรอยสัก ทำอย่างไร

หากสักคิ้วแล้วไม่เป็นที่น่าพอใจ หรือไม่ต้องการมีรอยสักที่คิ้วอีกต่อไป ผู้ที่สักต้องไปเลเซอร์ลบรอยสักจากแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีใบอนุญาตถูกต้องในการรักษาด้วยเลเซอร์ ซึ่งแพทย์จะเลือกใช้เลเซอร์ตามชนิดและสีของรอยสัก โดยต้องโกนขนในบริเวณที่จะเลเซอร์ออกก่อน อาจทายาชาเฉพาะบริเวณที่จะใช้เลเซอร์ลบรอยสัก ซึ่งใช้เวลาทำเลเซอร์ในแต่ละครั้งประมาณ 10-30 นาที

แม้พลังงานในเลเซอร์จะช่วยกำจัดรอยสักที่ไม่ต้องการออกไป แต่การเลเซอร์ลบรอยสักก็มีข้อจำกัด เช่น