วิธีกำจัดถุงใต้ตา

ถุงใต้ตา ที่มีลักษณะเหมือนถุงหรืออาการบวมบริเวณใต้ตา แม้ไม่มีอันตรายใด ๆ แต่ปัญหาถุงใต้ตาก็สร้างความกังวลใจให้กับสาว ๆ ได้ไม่น้อย ซึ่งหากรู้สาเหตุยิ่งรักษาได้ตรงจุด

ถุงใต้ตา

ถุงใต้ตา เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ อาทิ การพักผ่อนไม่เพียงพอ โรคภูมิแพ้ การระคายเคือง การรับประทานอาหารที่ก่อให้เกิดอาการบวม และอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญคือ เกิดจากความร่วงโรยของวัย เพราะเมื่ออายุมากขึ้น เนื้อเยื่อ หรือกล้ามเนื้อบริเวณใต้ดวงตาจะอ่อนแอลง ไขมันและของเหลวที่อยู่โดยรอบก็จะเคลื่อนตัวมาอยู่รวมกันบริเวณเปลือกตาล่างจนมีลักษณะบวมอย่างเห็นได้ชัด

โดยปกติแล้วถุงใต้ตามักไม่เป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง แต่ถ้าถุงใต้ตาเกิดจากอาการตาบวม (Periorbital Puffiness) อันเกิดจากการติดเชื้อการอักเสบของเนื้อเยื่อบริเวณใต้ดวงตา หรือเกิดจากการแพ้ซึ่งจะทำให้มีอาการคันร่วมด้วย หรืออาจเป็นสัญญาณความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ก็เป็นสัญญาณอันตรายที่ต้องได้รับการรักษา

วิธีรักษาถุงใต้ตา ทำได้อย่างไรบ้าง ?

ถุงใต้ตาสามารถรักษาได้หลายวิธี และอาจไม่จำเป็นต้องใช้วิธีทางการแพทย์เสมอไป โดยวิธีที่สามารถช่วยลดถุงใต้ตาที่กวนใจมีดังนี้

นอกจากวิธีที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองแล้ว ก็ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลเร็วและช่วยให้ถุงใต้ตาหายไปได้อย่างถาวร นั่นก็คือการใช้วิธีการรักษาทางการแพทย์อย่างเช่น การผ่าตัดบริเวณเปลือกตา (Blepharoplasty) ซึ่งจะเป็นวิธีการผ่าตัดเพื่อนำเอาถุงใต้ดวงตาออกและตกแต่งดวงตาใหม่ โดยวิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตา และตกแต่งเปลือกตาที่อาจขัดขวางการมองเห็นของผู้ป่วยบางรายได้ แต่ก็ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ดีเสียก่อน เพราะการผ่าตัดอาจก่อให้เกิดอาการติดเชื้อ ตาแห้ง หรือกระทบต่อการมองเห็น ท่อน้ำตา หรือเกิดรูปร่างเปลือกตาที่ผิดแปลกไปจากปกติได้

จะเห็นได้ว่าถุงใต้ตาไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แถมยังสามารถหายได้เองตามธรรมชาติอีกด้วย ฉะนั้นใครที่มีปัญหาก็ไม่ต้องกังวลใจกันมากจนเกินไป ทั้งนี้หากอาการถุงใต้ตาเริ่มมีความผิดปกติเช่น มีลักษณะเหมือนอาการดวงตาบวม ก็ควรไปพบแพทย์ เพราะนั่นอาจเป็นความผิดปกติซึ่งเกิดขึ้นกับสุขภาพโดยที่เราคาดไม่ถึงได้