วิตามิน ตอนที่ 2 1 (Vitamin Part 2 1)

การเตรียมตัวก่อนพบแพทย์



วิตามินตอนที่2.1

บทนำ

บทความเรื่องวิตามินในตอนที่ 1 ได้กล่าวถึงวิตามินที่ละลายในไขมันคือ วิตามินเอ (Vitamin A) วิตามินดี (Vitamin D) วิตามินอี (Vitamin E) และวิตามินเค (Vitamin K) ซึ่งบทความนี้ “วิตามิน ตอน 2.1 หรือ Vitamin Part 2.1” จะกล่าวถึงวิตามินกลุ่มต่อไป คือ “วิตามินที่ละลายในน้ำ(Water soluble vitamins)” โดยจะกล่าวถึง ประโยชน์ ปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน และแหล่งที่พบในอาหาร

แต่เนื่องจากวิตามินที่ละลายในน้ำมีทั้งหมด 11 ชนิด ดังนั้นจึงจะแบ่งการเชียนเป็นตอนที่ 2.1 และ 2.2 โดยมีรายละเอียด “ตอนที่ 2.1” ที่จะกล่าวถึงในบทความนี้ คือ วิตามินบี หรือ วิตามินรวม (Vitamin B complex) ซึ่งประกอบด้วยวิตามินบีชนิดย่อย 8 ชนิด, และ

“ตอนที่ 2.2” ที่จะกล่าวแยกต่างหากในอีกบทความ คือ “อินโนซิทอล (Inositol) โคลีน (Choline) และวิตามินซี (Vitamin C)”

ชนิดของวิตามินที่ละลายในน้ำ:วิตามินบี

วิตามินที่ละลายในน้ำชนิด วิตามินบี/วิตามินบีรวม มีดังต่อไปนี้

1. วิตามินบี 1 (Vitamin B1) หรือ ไทอะมิน (Thiamin หรือ Thiamine)

อนึ่ง พบว่า การขาดวิตามินบี1นี้ อาจเกิดจากการหุงต้มไม่ถูกวิธี วิตามินในอาหารจึงละลายไปในน้ำและในความร้อนจากการปรุงอาหาร เช่น

นอกจากนี้ การขาดวิตามินบี1 ยังอาจเกิดจากการทานอาหารที่มีสารทำลายวิตามินบี 1 เช่น เมี่ยง หมากพลู ชา ปลาร้า เป็นต้น และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งขัดขวางในการดูดซึมวิตามินบี 1 จากระบบทางเดินอาหาร ก็ทำให้ขาดวิตามินบี 1 ได้เช่นกัน

2. วิตามินบี 2 (Vitamin B2) หรือ ไรโบฟลาวิน (Riboflavin)

3. วิตามินบี 3 (Vitamin B3) หรือ ไนอะซิน (Niacin)

4. วิตามินบี 5 (Vitamin B5) หรือ กรดแพนโทเทนิก (Pantothenic acid)

5. วิตามินบี 6 (Vitamin B6) หรือ ไพริดอกซิน (Pyridoxine)

6. วิตามินบี 7 (Vitamin B7) หรือ วิตามินเอช (Vitamin H) หรือ ไบโอติน (Biotin)

7. วิตามินบี 12 (Vitamin B12) หรือ ไซยาโนโคบาลามิน (Cyanocobalamin)

8. กรดโฟลิค (Folic acid) หรือ โฟเลท/โฟเลต(Folate) หรือ วิตามินบี9(Vitamin B9)

ตารางที่ 1 ปริมาณวิตามินละลายน้ำที่ควรได้รับต่อวันในแต่ละช่วงอายุ

หมายเหตุ: ปริมาณสารอาหารที่ควรได้รับต่อวัน (Recommended Dietary Allowance หรือ RDA) แสดงด้วยตัวเลขธรรมดา, ปริมาณสารอาหารที่เพียงพอในแต่ละวัน(Adequate Intake หรือ AI) จะมีเครื่องหมาย * กำกับอยู่ข้างบน โดยค่า RDA และ AI เป็นปริมาณที่แนะนำ สำหรับต่ละบุคคลทั้ง 2 ค่า ความแตกต่างอยู่ที่ค่า RDA จะเป็นปริมาณที่ครอบคลุมความต้องการของบุคคลในกลุ่ม (ร้อยละ 97-98) สำหรับทารกซึ่งดื่มน้ำนมแม่และมีสุขภาพดีใช้ค่า AI ซึ่งหมายถึงค่าเฉลี่ยของปริมาณสารอาหารที่ได้รับจากน้ำนมแม่ สำหรับค่า AI ตามเพศและวัยอื่นๆ เชื่อว่าเป็นค่าที่เพียงพอต่อความต้องการของบุคคลในกลุ่ม แต่ยังขาดข้อมูล หรือความไม่แน่นอนของข้อมูลที่จะนำไปกำหนดปริมาณที่บริโภคตามเปอร์เซ็นต์ความเชื่อมั่น

ก. Niacin equivalent (NE), 1 mg niacin = 60 mg tryptophan; 0-6 เดือน = performed niacin (ไม่ใช่ NE)

ข. Dietary folate equivalent (DFE), 1 DFE = มคก.โฟเลตจากอาหาร = 0.6 มคก.กรดโฟลิกจาก อาหารเพิ่มคุณค่า (fortified food)

สรุป

วิตามินบี ช่วยปกป้องเซลล์ (Cell) เป็นส่วนหนึ่งของโคเอนไซม์ (Co-enzyme) ที่ช่วยในการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย แต่จะถูกทำลายได้ง่ายเมื่อได้รับความร้อนหรือแสง และเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ ดังนั้นไม่ควรนำผักที่หั่นแล้วมาแช่น้ำ และ/หรือไม่ควรปอกหรือหั่นผักผลไม้วางทิ้งไว้ เพราะจะทำให้ผักผลไม้มีวิตามินบีลดลง ทั้งนี้เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินบีจากผักผลไม้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

บรรณานุกรม

  1. อาหารหลัก 5 หมู่. [2018,May19]
  2. บทที่ 6 วิตามิน แร่ธาตุและน้ำ www.facagri.cmru.ac.th/2013/wp-content/uploads/.../6วิตามิน-แร่ธาตุ-น้ำ.pdf [2018,May19]
  3. การเสริมวิตามิน – แร่ธาตุ และCRN ปิระมิด www.med.cmu.ac.th/dept/nutrition/DATA/COMMON/vitmin%20crn%20pyramid.pdf [2018,May19]