ลมชัก ลมชักอันตรายต่อสมองหรือไม่

23 กันยายน 2016

อาการชักมักทำให้ผู้พบเห็นตกใจ และเข้าใจว่าผู้มีอาการชักจะมีความผิดปกติของสมอง หลังจากมีอาการชัก เช่น ระดับสติปัญญาจะไม่ปกคิ อาจส่งผลให้สูญเสียหน้าที่ของสมอง ถ้าลูกมีอาการชักก็กังวลว่าลูกจะโง่หรือไม่ เรามาติดตามกันีกว่า ลมชักจะมีผลเสียต่อสมองหรือไม่ อย่างไร

ผู้มีอาการชักส่งผลเสียต่อสมอง ถ้า

• สาเหตุของโรคลมชักเกิดจากความพิการของสมองแต่กำเนิด เช่น ถุงน้ำขนาดใหญ่ในสมอง เนื้อสมองไม่มี เป็นต้น
• การชักแบบชักเกร็งกระตุกทั้งตัว (ลมบ้าหมู: generalized tonic clonic seizure) การชักแบบลมบ้าหมูถ้าชักบ่อยๆ และเป็นเวลานานในแต่ละครั้ง
• มีอาการชักมาน แต่มารับการรักษาล่าช้ามาก ปล่อยให้มีอาการชักมานานจนรักษายาก หรือเกิดผลเสียต่อสมองแล้วค่อยมารับการรักษา ดังน้นคนที่มีอาการชัก ควรรีบมารับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ
• การชักชนิดต่อเนื่อง นานมากกว่า 30 นาทีโดยไม่สามารถควบคุมอาการชักได้ หรือระหว่างหยุดชักระดับความรู้สึกตัวก็ไม่ฟื้นเป็นปกติ
• สาเหตุการชักจากไข้สมองอักเสบ (encephalitis) สมองขาดออกซิเจน (hypoxic ischemic encephalopathy) อุบัติเหตุตอสมองรุนแรง (severe traumatic brain injury) เป็นต้น
• ทานยากันชักหลายชนิด ขนาดสูง จนเกิดผลเสียต่อสมอง เพราะระดับยาที่สูงและผลข้างเคียงจากฤทธิ์ยากันชัก
• อุบัติเหตุต่อสมองที่รุนแรงจากการชัก เช่น ชักแบบทั้งตัว หมดสติและล้มลงกับพื้น ศีรษะกระแทกพื้นอย่างรุนแรง จนเกิดเลือดออกในสมอง

ทำอย่างไรไม่ให้สมองได้รับอันตรายจากการชัก

• ถ้าสงสัยว่ามีอาการชักให้รีบพบแพทย์ อย่าปล่อยให้มีอาการผิดปกตินานแล้วค่อยมารับการรักษา
• ติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอ อย่าซื้อยาทานเอง เพราะต้องพบแพทย์เพื่อประเมินผลการรักษาและผลข้างเคียงของยากันชัก
• อย่าหยุดยากันชักเอง เพราะอาจทำให้เกิดอาการชักแบบต่อเนื่อง ไม่หยุด ก็จะเป็นอันตรายต่อสมองได้
• หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้ชัก เพราะถ้าชักบ่อย ๆควบคุมอาการไม่ได้ ก็มีผลเสียต่อสมองได้
• ระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุต่อสมองจากการชัก
• ถ้ามีอาการข้างเคียงจากยากันชัก เช่น ง่วงนอนตลอด เดินเซ วิงเวียนศีรษะ ให้รีบปรึกษาแพทย์

โรคลมชักรักษาให้หายได้ ถ้ารีบรักษาและปฏิบัติตัวที่เหมาะสม