on
รวมรุ่นไวรัสตับอักเสบ (ตอนที่ 3)
7 กันยายน 2017
อาการของไวรัสตับอักเสบเอ (ต่อ)
- เหนื่อยล้า (Fatigue)
- ปวดข้อ
- ดีซ่าน (ตาขาวและผิวมีสีเหลือง)
- ปัสสาวะเข้ม
- อุจจาระสีซีด
การวิเคราะห์โรคไวรัสตับอักเสบเอทำได้ด้วยการตรวจเลือด ส่วนการรักษานั้น ไม่มีวิธีเฉพาะแต่เป็นการรักษาตามอาการ (Supportive care) และป้องกันอาการแทรกซ้อน เช่น ภาวะขาดน้ำ (Dehydration) และ อ่อนเพลียหมดแรง (Exhaustion) นอกจากนี้ยังมีการให้สารน้ำและอาหารทางหลอดเลือด หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ และให้พักผ่อน
สำหรับอาการแทรกซ้อนจากการติดเชื้อพบได้น้อย คนส่วนใหญ่มักฟื้นตัวได้ดี โดยร้อยละ 85 ของผู้ติดเชื้อจะหายเป็นปกติได้ภายใน 3 เดือน ส่วนที่เหลือจะหายได้ในระยะเวลา 6 เดือน
ในส่วนของการป้องกันนั้น
- ผู้ที่มีทราบว่ามีการติดเชื้อ HAV ควรได้รับสารภูมิต้านทาน (Immune globulin) ภายใน 2 สัปดาห์หลังจากการติดเชื้อ
- ควรระวังการกินอาหารและน้ำที่สะอาดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ โดยเฉพาะอาหารทะเล เช่น หอยที่ไม่สุก
- มีสุขอนามัยที่ดีด้วยการล้างมือให้สะอาดหลังการเข้าห้องน้ำ การเปลี่ยนผ้าอ้อม ก่อนการทำอาหารหรือกินอาหาร ทั้งนี้เพราะเชื้อ HAV สามารถมีชีวิตบนนิ้วมือได้ถึง 4 ชั่วโมง
หน่วยงานป้องกันโรคติดต่อในสหรัฐอเมริกา (CDC) ได้แนะนำว่าบุคคลที่มีปัจจัยเสี่ยงดังต่อไปนี้ ควรที่จะฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ HAV
- บุคคลที่เดินทางไปท่องเที่ยวหรือทำงานในประเทศที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ HAV
- บุคคลที่มีโรคตับเรื้อรัง
- บุคคลที่การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ (Clotting factor disorders)
- ผู้ชายที่ร่วมเพศกับผู้ชายด้วยกัน
- บุคคลที่เสพยาผิดกฏหมาย
- บุคคลที่ทำงานเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อ HAV หรือทำงานในห้องแล้ป
- บุคคลที่เคยติดเชื้อไวรัสตับอับเสบมาเมื่อไม่นาน
ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนป้องกันจะมี 2 เข็ม ห่างกันระยะเวลา 6-12 เดือน
แหล่งข้อมูล:
- Viral hepatitis: Types, symptoms, treatment, and prevention. [2017, September 6].