รวมญาติตระกูลบี (ตอนที่ 11 และตอนจบ)

15 กุมภาพันธ์ 2016

วิตามินบี 12

วิตามินบี 12 หรือที่เรียกว่า Cyanocobalamin เป็นวิตามินที่ใหญ่และซับซ้อนที่สุดในบรรดาวิตามินทั้งหลาย เป็นวิตามินที่ละลายน้ำให้มีสีแดง มีหน้าที่ช่วยในการ

• เปลี่ยนอาหารให้เป็นน้ำตาลกลูโคสเพื่อใช้สร้างพลังงาน
• รักษาเซลล์ประสาทให้แข็งแรง
• สร้างกรดนิวคลีอิก (Nucleic acids) ที่เป็นสารพันธุกรรม
• ร่วมกับวิตามินบี 9 ในการควบคุมการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง
• ร่วมกับวิตามินบี 6 และวิตามินบี 9 ในการควบคุมระดับกรดอะมิโนโฮโมซีสเตอีน (Amino acid homocysteine) ในเลือด ที่เป็นสารบ่งชี้ภาวะโรคหัวใจ

The European Food Safety Authority ได้ยืนยันถึงประโยชน์ของวิตามินบี 12 ไว้ว่า

• ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง
• ช่วยในการแบ่งตัวของเซลล์
• ช่วยในการเผาผลาญให้เกิดพลังงาน
• ช่วยให้ระบบภูมิต้านทานทำหน้าที่ได้ปกติ
• ช่วยในเรื่องการทำงานของประสาทและจิตใจ
• ลดอาการเหนื่อยล้าและอ่อนเพลีย

นอกจากนี้ผลการวิจัยบางฉบับระบุว่า วิตามินบี 12 ยังอาจช่วยลดความเสี่ยงในอาการดังต่อไปนี้

• ร่วมกับวิตามินบี 9 ในการลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม
• ร่วมกับวิตามินบี 9 ในการลดความเสี่ยงในการพิการแต่กำเนิด (Birth defect)
• ช่วยรักษาโรคโลหิตจางอย่างร้ายแรง (Pernicious anemia)
• ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular disease) เพราะวิตามินบี 12 ช่วยลดสารโฮโมซีสเตอีน

สำหรับปริมาณความต้องการวิตามินบี 12 นั้น ในสหรัฐอเมริกาได้กำหนดปริมาณในผู้ใหญ่เป็น 2.4 mcg ต่อวัน ในหญิงมีครรภ์ให้เพิ่มอีก 0.20 mcg ต่อวัน ในหญิงให้นมบุตรให้เพิ่มอีก 0.40 mcg ต่อวัน ส่วนในสหภาพยุโรปได้กำหนดปริมาณอยู่ที่ 1.4 mcg ต่อวัน

ผู้สูงอายุมักขาดวิตามินบี 12 ซึ่งอาจเกิดจากการกินอาหารไม่เพียงพอ หรือมีกรดในกระเพาะน้อยทำให้การดูดซึมวิตามินบี 12 ไม่ดีเท่าที่ควร

อาการของผู้ขาดวิตามินบี 12 ได้แก่ อาการอ่อนเพลีย หายใจลำบาก ท้องเสีย กระวนกระวายใจ ชา เป็นเหน็บ (Tingling) ที่มือและเท้า และหากมีการขาดวิตามินบี 12 อย่างรุนแรงจะเป็นสาเหตุให้ประสาทถูกทำลาย

ทั้งนี้ แหล่งของวิตามินบี 12 ได้แก่ เครื่องในสัตว์ ปลา ไข่ และผลิตภัณฑ์นม

แหล่งข้อมูล

1. Vitamin B12. [2016, February 14].