ยุงกัด ความเสี่ยงและกลวิธีการรักษาป้องกัน

หลังถูกยุงกัด คุณจะพบตุ่มนูนเป็นเนื้อแข็งสีขาวหรือสีแดงและมีอาการคันปรากฏขึ้นบนผิวหนัง โดยตุ่มนั้นจะคงอยู่ประมาณ 1 วัน หรือนานกว่านั้น แล้วจะค่อย ๆ จางหายไป ในบางครั้งจะพบตุ่มพองใสเป็นจุดเล็ก ๆ แทนตุ่มนูนบวม หรืออาจมีจุดสีเข้มคล้ายจ้ำเลือดปรากฏขึ้นบนผิวหนังแทน

ยุงกัด

แต่ในบางกรณี ผู้ที่ถูกยุงกัดอาจมีอาการแสดงที่รุนแรงกว่า เนื่องจากไม่เคยถูกยุงชนิดนั้นกัดมาก่อน หรืออาจป่วยด้วยโรคความผิดปกติเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน และอาการที่ปรากฏในเด็กมักรุนแรงกว่าในผู้ใหญ่ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ หากอาการที่ปรากฏดัต่อไปนี้รุนแรงขึ้นหรือไม่ทุเลาลง ควรติดต่อแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา เช่น

แม้ตุ่มยุงกัดและอาการทั่วไปจะค่อย ๆ จางหายไปในเวลาไม่นาน แต่ควรสังเกตอาการที่เกิดขึ้นหลังถูกยุงกัด และไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาทันที หากผู้ป่วยพบอาการที่เป็นสัญญาณของการติดเชื้อ เช่น

ยุงกัด อันตรายอย่างไร ?

แม้จะมีวงจรชีวิตที่สั้น แต่ยุงเป็นพาหะนำโรคภัยต่าง ๆ มาแพร่กระจายสู่คนได้ เนื่องจากยุงตัวเมียจะใช้ปากเจาะลงไปบนผิวหนังของสัตว์เลือดอุ่นรวมทั้งมนุษย์ เพื่อดูดกินเลือดและนำโปรตีนในเลือดมาใช้ในกระบวนการสืบพันธุ์ขยายพันธุ์ ในขณะที่ยุงตัวผู้จะไม่กัดและดูดเลือด เพราะไม่จำเป็นต้องวางไข่แพร่ขยายพันธุ์ดังเช่นยุงตัวเมีย

จากการดูดเลือดจากคนสู่คนหรือสัตว์มาสู่คน ยุงจึงอาจนำเชื้อโรคและไวรัสต่าง ๆ มาแพร่สู่คนจนเกิดการเจ็บป่วยและโรคระบาดต่าง ๆ ได้มากมาย โดยเฉพาะโรคที่ระบาดในประเทศไทยและแถบเอเชีย เช่น

นอกจากนี้ เมื่อถูกยุงกัด การเกาบริเวณตุ่มที่คันจากยุงกัดอาจเสี่ยงต่อการเกิดแผลและการติดเชื้อได้เช่นกัน

กลวิธีการรักษาดูแลอาการหลังถูกยุงกัด

เคล็ดลับการป้องกันยุงกัด

แม้การป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัดเลยจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เพราะยุงเป็นสัตว์ที่มีขนาดเล็ก และมีการแพร่ขยายพันธุ์ได้ทั่วไป แต่คนทั่วไปสามารถลดความเสี่ยงที่จะเผชิญกับปัญหายุงกัดและการติดเชื้อโรคต่าง ๆ ที่มียุงเป็นพาหะได้ เช่น