ยาแก้ไอ (Tips cough)

การเตรียมตัวก่อนพบแพทย์

ทำไมคนเราจึงไอ?

การที่คนเราเกิดมีอาการไอ ก็เนื่องจาก

จะเห็นว่า การรักษาอาการไอที่เกิดจากตัวอย่างยาทั้ง 2 กลุ่มนี้ ทำได้โดยหลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการไอ ด้วยการหยุดยาหรือปฏิบัติตัวให้ถูกต้องเมื่อจะต้องใช้ยา ที่แตกต่างจากอาการไอที่เกิดจากอาการแพ้ หรือการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอาจจำเป็นต้องได้รับยาแก้แพ้ หรือยาฆ่าเชื้อ (ยาปฏิชีวนะ) ร่วมด้วย เพื่อช่วยให้หายจากอาการไอได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น แต่บางครั้งก็อาจมีความจำเป็นต้องใช้ยาแก้ไอด้วยเช่นกัน

จุดนี้เป็นจุดที่สำคัญมากทีเดียวในการบำบัดบรรเทาอาการไอ เพราะไม่เพียงรักษาอาการไอโดยการกินยาแก้ไอเพียงอย่างเดียว แต่ต้องรักษาต้นเหตุที่ทำให้ไอด้วย จึงจะสามารถทำให้หายจากอาการไอได้ เช่น มีอาการไอเพราะเป็นโรคหวัด ต้องรักษาโรคหวัดด้วย อาการไอจึงจะหายได้ แต่ถ้ากินแต่ยาแก้ไอเพียงอย่างเดียว ไม่รักษาตัว ปล่อยให้โรคหวัดลุกลาม มีโรคแทรกซ้อน (เช่น ปอดอักเสบ) อาการไอก็กลับจะหนักขึ้น จะหายก็ต่อเมื่อได้รักษาโรคแทรกให้หายแล้วเท่านั้น

จุดประสงค์ของการใช้ยาแก้ไอ

จุดประสงค์การใช้ยาแก้ไอ คือ

ยาแก้ไอที่เราพบได้ในท้องตลาดจะมีทั้งชนิดน้ำ ชนิดเม็ด มีทั้งที่เป็นยาแผนปัจจุบัน และยาแผนโบราณที่ปรุงขึ้นจากตัวยาสมุนไพร มีทั้งที่เป็นยาสามัญประจำบ้าน และยาอันตราย นอกจากนี้ยังมีพวกยาลูกอมแก้ไอ ช่วยให้ชุ่มคอโล่งคอ

หลักการใช้ยาแก้ไอ

หลักการใช้ยาแก้ไอ คือ

ชนิดยาแก้ไอ

ชนิดของยาแก้ไอชนิดน้ำ ที่แนะนำให้ซื้อใช้เองที่มีขายในท้องตลาด ได้แก่

1. ยาแก้ไอน้ำดำ (Brown mixture) ขององค์การเภสัชกรรม เป็นยาสามัญประจำบ้าน ใช้แก้ไอ ทำให้ชุ่มคอ เหมาะสำหรับการไอแบบแห้งๆ หรือไอระคายคอ เช่น ไอจากโรคหวัด การแพ้อา กาศ การเจ็บคอ คันคอ

ยาแก้ไอน้ำดำ ไม่เหมาะที่จะใช้กับการไอแบบมีเสมหะข้นเหนียว ขนาดที่ใช้

ยานี้ตั้งทิ้งไว้จะตกตะกอน ควรเขย่าขวดก่อนจะใช้ทุกครั้ง

2. ยาแก้ไอน้ำเชื่อม (Cough Syrup) ขององค์การเภสัชกรรม เป็นยาสามัญประจำบ้าน มีสรรพ คุณและการใช้เช่นเดียวกับยาแก้ไอน้ำดำทุกอย่าง ยกเว้นมีกลิ่นหวานกว่าเหมาะสำหรับเด็ก วิธีกินยาเช่นเดียวกับยาแก้ไอน้ำดำ

3. ยาแก้ไอแก้หวัดน้ำเชื่อม มียี่ห้อต่างๆ เช่น ยาแก้ไอแก้หวัดไพริตอน (Piriton expectorant) ยาแก้ไอแก้หวัดคลอรีเอต (Chloreate expectorant) ฯลฯ ใช้แก้ไอ ขับเสมหะ แก้หวัด เพราะมียาแก้แพ้ที่มีชื่อว่า คลอร์เฟนิรามีน ผสมอยู่ด้วย

ยาแก้ไอน้ำเชื่อม เหมาะที่จะใช้แก้ไอเนื่องจากโรคหวัด หรือแพ้อากาศ ไม่ควรใช้กับอาการไอแบบมีเสมหะเหนียว หรือไอจากโรคหืด เพราะจะทำให้เสมหะเหนียวเข้มข้นยิ่งขึ้น ไอออกยาก ทำให้ไอและหอบมากขึ้น ขนาดที่ใช้

วันละ 3-4 ครั้ง ยานี้กินแล้ว อาจทำให้ง่วงนอนได้ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำ งานเกี่ยวกับเครื่องจักรต่างๆ หรือขับขี่รถยนต์ หรือเรือ

4. มิสต์สกิลแอมม่อน (Mist Scill Ammon) ขององค์การเภสัชกรรม เป็นยาแก้ไอละลายเสมหะ เหมาะที่จะใช้กับอาการไอแบบมีเสลดเหนียว เช่น หลอดลมอักเสบ ปอดบวม โรคหืด ฯลฯ

ขนาดที่ใช้ของยามิสต์สกิลแอมม่อน คือ

วันละ 3-4 ครั้ง ยานี้มีรสเฝื่อน อาจกินยากสักนิด ยานี้ตั้งทิ้งไว้จะตกตะกอน จึงควรเขย่าขวดก่อนกินทุกครั้ง

5. ยาแก้ไอชวนป๋วยปี่แป่โหล่ว ยาตัวนี้เป็นยาแผนโบราณ เป็นยาน้ำที่ทำจากสมุนไพรจีน มีรสหอมหวานอร่อย และช่วยให้ชุ่มคอ

ยาชวนป๋วยปี่แป่โหล่ว เหมาะที่จะใช้แก้ไอ ขับเสมหะ หรือใช้จิบให้ชุ่มคอใช้ได้ทั้งไอมีเสมหะและไอแห้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าดื่มน้ำอุ่นก่อนแล้วจิบยาแก้ไอนี้ตาม จะชุ่มคอมาก ขนาดที่ใช้

วันละ 3-4 ครั้ง หรือจิบเวลามีอาการไอ

6. ยาแก้ไอที่นับว่าวิเศษมากอีกตัวหนึ่ง เป็นยาแก้ไอที่ราคาถูกที่สุดในโลก และหาได้ง่ายในที่ทุกแห่ง ซึ่งพวกเราหลายคนอาจนึกไม่ถึง ก็คือ ‘น้ำสะอาด’ ที่เราใช้ดื่มกันทุกวันนี้นี่เอง

น้ำอุ่นๆนี่แหละช่วยระงับการไอและช่วยละลายเสมหะที่ข้นเหนียวให้ใสขึ้น และถูกขับออกได้ง่ายขึ้น การดื่มน้ำอุ่นมากๆ บ่อยๆ เวลามีอาการไอ จะช่วยรักษาอาการไอได้มากทีเดียว

ข้อสังเกต

นอกจากการดื่มน้ำอุ่นแล้ว เวลาไอ ควรงดอาหารรสเผ็ดจัด น้ำแข็ง น้ำเย็นจัด ของทอด เหล้า บุหรี่ เพราะจะระคายคอ ทำให้ยิ่งไอหนักเข้า

ในการใช้ยาบรรเทาอาการไอนั้น บางครั้งอาจได้รับยาสูตรที่มีตัวยาแก้ไอหลายชนิดผสมกัน หรือบางครั้งอาจได้รับยาแก้ไอเดี่ยวๆมากกว่าหนึ่งชนิดพร้อมกัน หากเป็นไปได้ควรเลือกชนิดของยาที่สอดคล้องกับลักษณะของอาการไอ (ดังได้กล่าวแล้ว) ให้มากที่สุด เพื่อช่วยให้ใช้ยาได้ผลตรงตามประสิทธิภาพ

หากจะใช้ยามากกว่าหนึ่งกลุ่มร่วมกัน ‘ควรเลือกยาที่ออกฤทธิ์คนละกลไกกัน’ เช่น ใช้ยาขับเสมหะร่วมกับยาละลายเสมหะ หรือ ใช้ยากดอาการไอร่วมกับยาละลายเสมหะ ทั้งนี้ไม่ควรใช้ยา กลุ่มเดียวกันซ้ำซ้อนกัน เพราะไม่ทำให้ประสิทธิภาพในการรักษามากขึ้น แต่อาจเกิดผลข้างเคียงจากยามากขึ้น เช่น ใช้ยาขับเสมหะหลายๆยี่ห้อร่วมกัน เป็นต้น

บรรณานุกรม

  1. [2014,April8].
  2. [2014,April8].