ยารักษาโรคน้ำกัดเท้า (Athlete’s foot medications)

การเตรียมตัวก่อนพบแพทย์



ยารักษาโรคน้ำกัดเท้า

ยาโรคน้ำกัดเท้าคืออะไร?

ยารักษาโรคน้ำกัดเท้า หรือ ยาโรคน้ำกัดเท้า(Athlete’s foot medications หรือ Athlete’s foot drugs )หรือยารักษาโรคฮ่องกงฟุต(Hong kong foot medications หรือ Hong kong foot drugs)เป็นยาที่ใช้ป้องกันและรักษาโรคฮ่องกงฟุต(Hong kong foot) หรือ โรคน้ำกัดเท้า(Athlete’ s foot)หรือโรคกลากที่เท้า(Tinea pedis) ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากเท้าสัมผัสกับความชื้นหรือกับน้ำสกปรกเป็นเวลานาน เช่น ช่วงที่มีน้ำท่วมขังในฤดูฝน โรคนี้จะใช้ยาต่างชนิดกันไป ขึ้นอยู่กับระยะอาการของโรค เนื่องจากแต่ละระยะจะมีอาการ มีสาเหตุของการเกิดโรค และเชื้อที่ก่อโรคแตกต่างกัน

ยาน้ำกัดเท้ามีกี่ประเภท?

ยารักษาโรคน้ำกัดเท้า แบ่งประเภทตามกลุ่มยาที่ใช้ตามระยะของการเกิดโรคได้ดังนี้

ก. ระยะแรก: ระยะที่ผิวหนังที่เท้าเริ่มเกิดอาการอักเสบและระคายเคือง: ยาที่ใช้ เช่น

ข. ระยะที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนที่รอยโรคที่เท้า: ยาที่ใช้รักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังที่เท้า เช่น

ค. ระยะที่มีการติดเชื้อราแทรกซ้อน: ยาที่ใช้ เช่น

ง. นอกจากนี้ยังสามารถใช้ยากลุ่มอื่นๆ เพื่อบรรเทาอาการที่เกิดจากโรคน้ำกัดเท้า เช่น

ยาโรคน้ำกัดเท้ามีจำหน่ายในรูปแบบใด?

ยาโรคน้ำกัดเท้ามีจำหน่ายในรูปแบบต่างๆ ดังนี้

อนึ่ง อ่านเพิ่มเติมเรื่องรูปแบบของยาต่างๆได้จากเว็บ บทความเรื่อง “รูปแบบยาเตรียม”

ยาโรคน้ำกัดเท้ามีข้อบ่งใช้อย่างไร?

ยาโรคน้ำกัดเท้ามีข้อบ่งใช้ เช่น

1. ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดทาภายนอก: ใช้รักษาโรคน้ำกัดเท้าในระยะแรก บรรเทาอาการอักเสบ ระคายเคือง ผื่นแดง แสบ คัน บริเวณรอยโรคที่ผิวหนัง

2. ยาต้านเชื้อแบคทีเรีย: ใช้รักษาโรคน้ำกัดเท้าในระยะที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณผิวหนัง ที่ทำให้เกิด แผลเปื่อย แผลอักเสบ บวม แดง ปวด เป็นหนอง

3. ยาต้านเชื้อรา: ใช้รักษาโรคน้ำกัดเท้าในระยะที่มีการติดเชื้อราบริเวณผิวหนัง หรือเรียกว่า โรคกลากที่เท้า (Tinea Pedis) ทำให้เกิดผื่นแดงและรอยแตก ผิวหนังลอกเป็นสะเก็ดสีขาว คัน มีกลิ่นเท้า หรือปวดแสบบริเวณที่เป็นรอยโรค

4. ยาแก้แพ้ชนิดรับประทาน: ใช้บรรเทาอาการคันจากโรคน้ำกัดเท้า และบรรเทาอาการผื่นบริเวณผิวหนังจากโรคน้ำกัดเท้าในระยะแรก

5. Whitfield’s ointment: ใช้ทาบริเวณง่ามเท้าก่อนโดนน้ำสกปรกเพื่อป้องกันการเกิดโรคน้ำกัดเท้า เนื่องจากตัวยาพื้นเป็นขี้ผึ้งจึงมีความเป็นมันสูง สามารถเคลือบเกาะติดกับผิวหนังได้นาน จึงลดความเปียกชื้นเมื่อโดนน้ำ และใช้รักษาโรคน้ำกัดเท้าได้ในทุกระยะของโรค

6. Vasaline® ใช้ทาบริเวณง่ามเท้าก่อนโดนน้ำสกปรกเพื่อป้องกันการเกิดโรคน้ำกัดเท้า

ยาโรคน้ำกัดเท้ามีข้อห้ามใช้อย่างไร?

ยาโรคน้ำกัดเท้ามีข้อห้ามใช้ เช่น

มีข้อควรระวังการใช้ยาโรคน้ำกัดเท้าอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาโรคน้ำกัดเท้า เช่น

การใช้ยาโรคน้ำกัดเท้าในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรเป็นอย่างไร?

การใช้ยาโรคน้ำกัดเท้าในหญิงตั้งครรภ์/มีครรภ์หรือให้นมบุตรควรเป็นดังนี้ เช่น

1. หญิงมีครรภ์ที่เป็นโรคน้ำกัดเท้าระยะแรก: สามารถใช้ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดทาภายนอกได้ แต่ควรใช้เมื่อมีอาการเท่านั้น ไม่ใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน และไม่ใช้ยาที่มีความแรงสูงมาก เช่นยา Clobetasol ทางที่ดี ควรใช้ยากลุ่มนี้เฉพาะตามแพทย์สั่ง

2. หญิงมีครรภ์ที่เป็นโรคน้ำกัดเท้าในระยะที่มีการติดเชื้อราแทรกซ้อน:

3. หญิงมีครรภ์ที่เป็นโรคน้ำกัดเท้าในระยะที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน:

4. หญิงมีครรภ์สามารถใช้ยา Whitfield’s ointment เพื่อป้องกันและรักษาโรคน้ำกัดเท้าชนิดที่มีการติดเชื้อรา และติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนได้อย่างปลอดภัย เพราะตัวยาสำคัญในยานี้ ไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย

การใช้ยาโรคน้ำกัดเท้าในผู้สูงอายุควรเป็นอย่างไร?

การใช้ยาโรคน้ำกัดเท้าในผู้สูงอายุควรเป็นดังนี้ เช่น

1.ผู้สูงอายุที่เป็นโรคน้ำกัดเท้า สามารถใช้ยาชนิดเดียวกันกับวัยผู้ใหญ่ แต่เนื่องจากผู้สูงอายุเป็นวัยที่มีการทำงานของตับและของไตลดลง ส่งผลให้การกำจัดยาต่างๆที่รวมถึงยาโรคน้ำกัดเท้าออกจากร่างกายลดลง ดังนั้น จึงควรเลือกใช้ยาต่างๆที่รวมยาโรคน้ำกัดเท้าในปริมาณน้อยที่สุด และใช้ยาในระยะเวลาสั้นที่สุดที่ได้ผลการรักษา เพื่อลดโอกาสเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากยาต่างๆ และเพื่อเพิ่มความร่วมมือในการใช้ยาของผู้สูงอายุ

2.เนื่องจากผู้สูงอายุเป็นวัยที่มีโรคประจำตัว และมียาต่างๆ/อื่นๆที่ต้องใช้เป็นประจำหลายชนิดอยู่แล้ว ดังนั้นควรเฝ้าระวังการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา เนื่องจากมียาต้านเชื้อแบคทีเรีย/ ยาปฏิชีวนะ และยาต้านเชื้อราหลายชนิดที่เกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆได้

การใช้ยาโรคน้ำกัดเท้าในเด็กควรเป็นอย่างไร?

การใช้ยาโรคน้ำกัดเท้าในเด็กควรเป็น ดังนี้ เช่น

1.เด็กที่เป็นโรคน้ำกัดเท้าระยะแรก: สามารถใช้ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดทาภายนอกได้ โดยควรใช้ยาในระยะสั้น ความแรงน้อย เช่น Hydrocortisone, Triamcinolone , และทายาปริมาณน้อยที่สุดที่ให้ผลการรักษา เพราะเด็กมีโอกาสมากขึ้นที่จะเกิดผลข้างเคียงเฉพาะที่ที่สัมผัสยาและทั่วทั้งร่างกาย

2.เด็กที่เป็นโรคน้ำกัดเท้าในระยะที่มีการติดเชื้อราแทรกซ้อน:

3.เด็กที่เป็นโรคน้ำกัดเท้าในระยะที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน:

4.เด็กสามารถใช้ยา Whitfield’s ointment เพื่อป้องกันและรักษาโรคน้ำกัดเท้าชนิดที่มีการติดเชื้อราและติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนได้อย่างปลอดภัย แต่ผิวของเด็กบอบบาง จึงมีโอกาสเกิดการระคายเคืองผิวที่สัมผัสยานี้มากกว่าในผู้ใหญ่

อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาโรคน้ำกัดเท้าเป็นอย่างไร?

อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา(ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)จากยาโรคน้ำกัดเท้า มีได้ดังนี้ เช่น

1.ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดทาภายนอก ทำให้ผิวหนังที่สัมผัสยานี้มีอาการปวดแสบร้อน คัน ระคายเคือง ผิวแห้ง รูขุมขนอักเสบ สีผิวซีดจาง ผิวบาง ผิวลาย ขนดก อาการของโรคนี้ รุนแรงขึ้น

2.ยาต้านเชื้อแบคทีเรียและยาต้านเชื้อราชนิดรับประทาน มีอาการไม่พึงประสงค์ที่พบได้ทั่วไป คือ ทำให้เกิดอาการ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย ผื่นแพ้ยาเล็กน้อยถึงรุนแรง

3.ยาต้านเชื้อแบคทีเรียและยาต้านเชื้อราชนิดทาภายนอก ทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์เฉพาะที่ เช่น แสบร้อนบริเวณที่ทายา คัน แดง ผิวหนังแห้ง และผื่นแพ้ยาเล็กน้อยถึงรุนแรง

4.ยาแก้แพ้ ทำให้เกิดอาการ ง่วงซึม ปวดศีรษะ ปากแห้ง ตาแห้ง ท้องผูก ปัสสาวะลำบาก สับสน ใจสั่น

5.Whitfield’s ointment ทำให้เกิดอาการ แสบ ระคายเคือง อักเสบ บริเวณที่ทายานี้

  1. วรวรรณ กิจผาติ. โรคระบาดที่มากับน้ำท่วม (ตอนที่ 4) การดูแลและรักษาน้ำกัดเท้า. [2017,May13]
  2. อภิฤดี เหมะจุฑา และกิติยศ ยศสมบัติ. การป้องกันและดูแลโรคน้ำกัดเท้า. [2017,May13]
  3. อภิฤดี เหมะจุฑา และกิติยศ ยศสมบัติ. Whitfield’s Ointment: ประเด็นควรทราบสำหรับเภสัชกร. [2017,May13]
  4. Andrew, M.D., and Burns, M. Common Tinea Infections in Children. [2017,May13]
  5. National Health Service. Athlete’s Foot. [2017,May13]
  6. Schaefer, C., Peters P., and Miller, R.K. Drugs During Pregnancy and Lactation. Third Edition. Oxford : Academic press., 2015.