ยาบำรุงธาตุ ยาปรับธาตุ (Tonic elements)

การเตรียมตัวก่อนพบแพทย์

ธาตุ 4 ธาตุในทางแพทย์แผนไทย ซึ่งเมื่อเราจะพูดถึงเกี่ยวกับเรื่อง ยาบำรุงธาตุ หรือยาปรับธาตุนั้น เรามีความจำเป็นต้องมีความรู้เบื้องต้นเรื่องธาตุพื้นฐานนี้เสียก่อน เพื่อทำความเข้าใจ มุม มอง และนำไปสู่การวินิจฉัยโรค และการใช้ยาสมุนไพร เพื่อการรักษาได้อย่างเหมาะสม

พื้นฐานสำหรับแพทย์แผนไทย มององค์ประกอบของร่างกายมนุษย์ประกอบขึ้นจากธาตุ 4 ธาตุ นั่นคือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ดังนี้

การแพทย์แผนไทย

ทางการแพทย์แผนไทย การที่ร่างกายมีธาตุทั้ง 4 อย่างสมดุลย่อมหมายถึง ร่างกายที่แข็งแรงปราศจากโรคภัย แต่ในทางกลับกัน ถ้าร่างกายมีธาตุทั้ง 4 ที่ไม่สมดุล ก็จำส่งผลให้ร่างกายเจ็บ ป่วย ไม่เจริญเติบโต ผอม โดยที่ถ้าเราต้องการรักษาอาการเจ็บป่วย หรือทำให้อ้วนท้วนสมบูรณ์ ก็ต้องใช้ สมุนไพรเข้ามาช่วยเรื่องการปรับธาตุหรือปรับสมดุลร่างกายนั่นเอง

คำว่า ธาตุไม่สมดุล หมายความได้ 3 อย่าง คือ

ยาบำรุงธาตุตามการแพทย์แผนไทย

จากที่ได้กล่าวข้างต้น ยาบำรุงธาตุ/ยาปรับธาตุ ทางการแพทย์แผนไทย หมายถึง ยาที่ช่วยปรับธาตุทั้ง 4 ให้อยู่ในสมดุล เพื่อให้ร่างกายปกติสุข กล่าวคือ ให้ร่างกายมีการเจริญเติบโตปกติ ซึ่งส่วนใหญ่ คือ ยาบำรุงธาตุที่ช่วยเพิ่มน้ำหนัก หรือที่ทำให้อ้วน ดังนั้น บทความนี้ จึงจะกล่าวถึงเฉพาะ “ยาบำรุงธาตุที่ช่วยเพิ่มน้ำหนัก”

ก. กลไกการทำงานของยาบำรุงธาตุเพิ่มน้ำหนัก/ทำให้อ้วน ตามหลักแพทย์แผนไทย คือ

ข.ส่วนประกอบสำคัญ

อนึ่ง นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของยาบำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหาร ซึ่งในท้องตลาดยังมีอีกหลายตราสินค้า ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตจากสมุนไพรไทย ซึ่งมีมากมายหลายชนิดที่ใช้ในการบำรุงธาตุ และยังมียาบำรุงธาตุ ตามบัญชียาหลักแห่งชาติอีก

ยาบำรุงธาตุตามบัญชียาหลักแห่งชาติ

ยาบำรุงธาตุตามบัญชียาหลักแห่งชาติ มีอยู่ 4 ชนิด มีดังนี้

1. ยาตรีเกสรมาศ ยาชง (รพ.)

สูตรตำรับ: ในผงยา 90 กรัม ประกอบด้วย เปลือกฝิ่นต้น เกสรบัวหลวง ลูกมะตูมอ่อน หนักสิ่งละ 30 กรัม

ข้อบ่งใช้: แก้อ่อนเพลีย ปรับธาตุในผู้ป่วยที่เพิ่งฟื้นจากการเจ็บป่วย เช่น ไข้ ท้องเสีย

ขนาดและวิธีใช้: รับประทานครั้งละ 1 กรัม ชงน้ำร้อนประมาณ 120 - 200 มิลลิลิตร ดื่มขณะยายังอุ่น วันละ 4 ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอน

ข้อควรระวัง:

2. ยาตรีพิกัด ยาแคปซูล (รพ.)

สูตรตำรับ: ในผงยา 90 กรัม ประกอบด้วย

ข้อบ่งใช้: ปรับสมดุลธาตุ

ขนาดและวิธีใช้: รับประทานครั้งละ 250 – 500 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร

ข้อห้ามใช้: ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร ผู้ที่มีไข้ และการใช้ในเด็กควรปรึกษาแพทย์แผนปัจจุบันก่อน

ข้อควรระวัง:

3. ยาเบญจกูล มีบางคนใช้ว่า ยาเบญจกุล ยาแคปซูล ยาผง ยาเม็ด ยาลูกกลอน ยาแคปซูล (รพ.) ยาชง (รพ.) ยาเม็ด (รพ.)

สูตรตำรับ: ในผงยา 100 กรัม ประกอบด้วย ดอกดีปลี รากช้าพลู เถาสะค้าน รากเจตมูล เพลิงแดง เหง้าขิงแห้ง หนักสิ่งละ 20 กรัม

ข้อบ่งใช้: บำรุงธาตุ แก้ธาตุให้ปกติ

ขนาดและวิธีใช้:

ข้อห้ามใช้: ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ผู้ที่มีไข้ และเด็กเล็ก

ข้อควรระวัง:

4. ยาปลูกไฟธาตุ ยาแคปซูล (รพ.) ยาลูกกลอน (รพ.)

สูตรตำรับ: ในผงยา 100 กรัม ประกอบด้วย

ข้อบ่งใช้: ปลูกไฟธาตุให้บริบูรณ์ ปรับระบบการย่อยอาหารให้ดีขึ้น

ขนาดและวิธีใช้: รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม – 1.5 กรัม วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร

ข้อห้ามใช้: ห้ามใช้ในหญิงตกเลือดหลังคลอด หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ในเด็ก และผู้ที่มีไข้

ข้อควรระวัง: ควรระวังการใช้ ร่วมกับยา Phenytoin, Propranolol, Theophylline และ Rifampicin เนื่องจากตำรับนี้มีพริกไทยในปริมาณสูงเช่นเดียวกับที่ได้กล่าวแล้วใน หัวข้อ ยาตรีพิ กัด

อนึ่ง ยาตำหรับนี้ เมื่อกินแล้ว อาจทำให้เกิด แสบร้อนกลางอก/กรดไหลย้อน ได้

หมายเหตุสำคัญ

ทุกๆคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ “ยา” ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราญ และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะ ยา มีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกชนิด ควรต้องปฏิบัติตาม ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน

(รพ.) ย่อมาจาก โรงพยาบาล หมายความว่า เป็นยาที่ปรุงผลิตจากโรงพยาบาลไม่ใช่จากบริษัทยา)

บรรณานุกรม

  1. [2012,Dec9].
  2. [2013,Dec9].
  3. [2013,Dec9].
  4. [2013,Dec9].
  5. [2013,Dec9].