มะเร็งตับ อาการ สาเหตุ และการรักษาโรคมะเร็งตับ 15 วิธี

โรคมะเร็งตับ

มะเร็งตับ (Liver cancer) เป็นโรคมะเร็งที่พบได้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโรคมะเร็งที่เกิดในผู้ชายไทย และพบมากเป็นอันดับ 4 ของผู้ป่วยมะเร็งรวมทั้ง 2 เพศ มักพบในคนอายุ 30-70 ปี และพบได้ในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 2-3 เท่า โรคนี้จัดเป็นโรครุนแรงมาก ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้มากที่สุดโรคหนึ่ง เพราะโรคมะเร็งตับในระยะแรกมักไม่ค่อยแสดงอาการ ซึ่งผู้ป่วยกว่าจะได้รับการวินิจฉัยครั้งแรกก็มักจะอยู่ในระยะท้ายของโรคซึ่งไม่มีทางรักษาให้หายได้แล้ว

ชนิดของโรคมะเร็งตับ

มะเร็งตับมีทั้งชนิดที่เกิดจากเนื้อเยื่อของตับเอง เรียกว่า “มะเร็งตับชนิดปฐมภูมิ” และชนิดที่เกิดจากการแพร่กระจายมาจากโรคมะเร็งชนิดอื่น เช่น โรคมะเร็งปอด โรคมะเร็งเต้านม ฯลฯ ซึ่งเรียกว่า “มะเร็งตับชนิดทุติยภูมิ” แต่ในบทความนี้จะขอกล่าวถึงเฉพาะโรคมะเร็งชนิดที่เกิดจากเนื้อเยื่อของตับเองเท่านั้น ซึ่งก็มีอยู่ด้วยกันหลายชนิด แต่ที่พบได้บ่อย ๆ จะมีอยู่ 2 ชนิด คือ

อาการของมะเร็งตับ
IMAGE SOURCE : Bigstock
สาเหตุมะเร็งตับ
IMAGE SOURCE : www.hepatitisc.uw.edu

สาเหตุของโรคมะเร็งตับ

สาเหตุโรคมะเร็งตับ
IMAGE SOURCE : www.hopkinsmedicine.org

ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ของการเกิดโรคมะเร็งตับ

อาการของโรคมะเร็งตับ

มะเร็งตับ ในระยะแรกผู้ป่วยจะไม่แสดงอาการใด ๆ เลย (ยกเว้นในรายที่เป็นตับแข็งอยู่ก่อนที่จะมีอาการของโรคตับแข็ง) แต่เมื่อก้อนมะเร็งลุกลามมากขึ้น ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลดลง จุกเสียดท้องคล้ายอาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืด (เพราะเคมีน้ำดีในตับบกพร่อง) ในบางรายอาจมีอาการปวดหรือเสียวชายโครงด้านขวาโดยไม่มีอาการอื่น ๆ แสดงชัดเจนก็ได้ ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะเป็นอยู่เป็นสัปดาห์หรือนานเป็นเดือน โดยที่ผู้ป่วยอาจไม่ทันได้ใส่ใจ หรือคิดว่าเป็นอาการปวดยอดชายโครงหรืออาหารไม่ย่อยทั่วไป

เมื่อก้อนมะเร็งโตมากขึ้น ผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนเพลียมากขึ้น รู้สึกแน่นอึดอัดที่บริเวณลิ้นปี่ทั้งวัน มีอาการปวดใต้ชายโครงด้านขวา (ตำแหน่งของตับ) ซึ่งอาจปวดร้าวไปที่ไหล่ขวาหรือใต้สะบักด้านขวา ผู้ป่วยจะเบื่ออาหารมากขึ้น (ไม่รู้สึกอยากอาหาร รับประทานไม่ค่อยได้ เนื่องจากมีน้ำในท้องกดหรือเบียดทับกระเพาะอาหาร) และน้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็วจนคนใกล้ชิดรู้สึกผิดสังเกต ในบางรายอาจมีอาการตาเหลือง ตัวเหลือง ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้ม อาจคลำได้ก้อนที่ใต้ชายโครงขวา (ปกติจะคลำไม่ได้) ท้องบวมหรือเท้าบวมทั้ง 2 ข้าง หายใจเหนื่อยหอบ (เนื่องจากมีน้ำในท้องดัน กด หรือเบียดทับปอด) และอาจมีไข้ต่ำ ๆ ร่วมด้วย

นอกจากนี้ ในรายที่มีภาวะตับแข็งระยะท้ายร่วมด้วย ผู้ป่วยอาจมีอาการอาเจียนเป็นเลือด ส่วนในรายที่มีภาวะอุดกั้นของทางเดินน้ำดี ซึ่งมักพบในโรคมะเร็งท่อน้ำดี (CCA) ผู้ป่วยจะมีอาการตาและตัวเหลืองจัด คันตามตัว อุจจาระสีซีด

ส่วนโรคพยาธิใบไม้ตับ ในระยะแรกเริ่มอาจจะยังไม่มีอาการแสดง หรือมีเพียงอาการท้องอืดเฟ้อคล้ายอาหารไม่ย่อย หรือออกร้อนบริเวณชายโครงขวาหรือยอดอก ตรวจอุจจาระพบไข่พยาธิใบไม้ตับ ถ้าไม่ได้รับการรักษา ปล่อยจนเลยวัยกลางคน อาการจะรุนแรงมากขึ้น ผู้ป่วยจะมีอาการท่อน้ำดีอักเสบแทรกซ้อน ทำให้มีอาการไข้ ดีซ่าน ปวดแถวลิ้นปี่หรือใต้ชายโครงขวา อาจเป็น ๆ หาย ๆ หรือเป็นติดต่อกันเรื่อยไป ในที่สุดเมื่อมีโรคมะเร็งของเซลล์ท่อน้ำดีแทรกซ้อน ผู้ป่วยก็จะมีอาการของมะเร็งตับในระยะท้าย โดยจะมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว มีอาการดีซ่าน ท้องมาน (มีน้ำในท้อง)

อาการมะเร็งตับระยะแรก
IMAGE SOURCE : health.alot.com
มะเร็งตับระยะสุดท้าย
IMAGE SOURCE : medical-dictionary.thefreedictionary.com, www.webpathology.com, dxline.info

ระยะของโรคมะเร็งตับ

การแบ่งระยะของโรคมะเร็งตับมีได้หลายแบบ แต่ในภาพรวมจะแบ่งออกเป็น 4 ระยะ เช่นเดียวกับโรคมะเร็งชนิดอื่น ๆ ได้แก่

มะเร็งตับมีกี่ระยะ
IMAGE SOURCE : www.cancer.gov

ภาวะแทรกซ้อนของโรคมะเร็งตับ

การวินิจฉัยโรคมะเร็งตับ

การตรวจหามะเร็งตับสามารถแบ่งออกได้ 2 กรณี คือ ในกรณีที่ผู้ป่วยยังไม่มีอาการใด ๆ แต่อาจมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งตับ เช่น ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบีหรือซีเรื้อรัง เป็นโรคตับจากสาเหตุต่าง ๆ หรือมีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งตับ และอีกกรณีหนึ่งคือ เมื่อสงสัยว่ามีอาการจากโรคมะเร็งตับแล้ว คือ คลำได้ก้อนและตรวจพบค่าเลือดผิดปกติ

มะเร็งตับเกิดจาก
IMAGE SOURCE : www.enpevet.de, www.mayoclinic.org

นอกจากนี้ยังมีการตรวจวินิจฉัยด้วยวิธีการส่องกล้องตรวจ (Laparoscopy) เข้าไปในช่องท้องเพื่อดูว่ามะเร็งได้แพร่กระจายเข้าท้อง หรือใช้ในการวางแผนก่อนการผ่าตัด และการตรวจเอกซเรย์หลอดเลือด (Angiography) โดยการฉีดสีเข้าไปในเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงตับ เพื่อใช้ในการวางแผนการผ่าตัด เป็นต้น

การแยกโรค

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและเพื่อรับการดูแลรักษาอย่างถูกต้องตั้งแต่เนิ่น ๆ ต่อไป

วิธีรักษาโรคมะเร็งตับ

แนวทางในการรักษาโรคนี้จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ขนาดและลักษณะของก้อนมะเร็ง ระยะของโรคและการแพร่กระจายของมะเร็ง รวมไปถึงอายุและสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย โดยแพทย์จะพิจารณาวิธีการรักษาที่ดีและเหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยในแต่ละราย (ผู้ป่วยควรได้รับการดูแลรักษาจากแพทย์อย่างใกล้ชิดและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างจริงจัง)

ผลข้างเคียงจากการรักษาโรคมะเร็งตับ

ผลข้างเคียงจะขึ้นอยู่กับวิธีการรักษาและจะมีโอกาสเกิดได้สูงขึ้นเมื่อใช้หลายวิธีรักษาร่วมกัน เมื่อพบโรคนี้ในผู้สูงอายุ เมื่อผู้ป่วยดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ หรือเมื่อผู้ป่วยมีโรคประจำตัวต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคที่ก่อให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (เช่น โรคภูมิต้านตนเอง)

วิธีป้องกันโรคมะเร็งตับ

  1. ลดหรือหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์จัด เพราะอาจทำให้เป็นโรคตับแข็งและกลายเป็นมะเร็งตับได้
  2. ผู้ที่เป็นพาหะหรือเป็นโรคตับอักเสบเรื้อรังจากไวรัสตับอักเสบบีหรือซี ต้องงดการดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด และควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดและตรวจหามะเร็งตับระยะแรกทุก ๆ 6 เดือน เพราะหากตรวจพบแพทย์จะได้ให้การรักษาให้หายขาดได้
  3. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีสารอะฟลาทอกซิน (Aflatoxin) เช่น ถั่วลิสงบด ข้าวโพด หัวหอม พริกแห้ง กระเทียมที่มีราขึ้น เพราะสารพิษชนิดนี้มีความทนทานต่อความร้อน ไม่ถูกทำลายได้ง่ายแม้จะปรุงอาหารด้วยความร้อนก็ตาม
  1. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีสารไนโตรซามีน (Nitrosamine) เช่น อาหารจำพวกโปรตีนหมัก (เช่น ปลาร้า ปลาส้ม หมูส้ม แหนม เป็นต้น), อาหารจำพวกเนื้อสัตว์ที่ผสมดินประสิว (เช่น ไส้กรอก กุนเชียง เนื้อเค็ม ปลาเค็ม เป็นต้น) และอาหารรมควัน (เช่น ปลารมควัน) แต่หากจะรับประทานควรทำให้สุกเสียก่อน เพราะสารนี้ถูกทำลายได้ด้วยความร้อน
  2. ไม่รับประทานปลาน้ำจืดแบบดิบ ๆ และถ่ายอุจจาระลงในส้วมที่มิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคพยาธิใบไม้ตับ (แม้ว่าในปัจจุบันจะมียาที่ใช้ฆ่าพยาธิใบไม้ตับอย่างได้ผลแล้วก็ตาม แต่ถ้ายังไม่เลิกการรับประทานปลาแบบดิบ ๆ และถ่ายกลางทุ่ง ก็ยังคงติดโรคพยาธิได้ซ้ำ ๆ เรื่อยไปอยู่ดี) และผู้ที่อยู่ในถิ่นระบาดของโรคพยาธิใบไม้ตับหรือเป็นผู้ที่นิยมรับประทานปลาน้ำจืดแบบดิบ ๆ ควรไปพบแพทย์เพื่อขอรับการตรวจอุจจาระเพื่อตรวจหาไข่ของพยาธิใบไม้ตับ (ความถี่ในการตรวจนั้นขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์) ถ้าพบว่าเป็นโรคพยาธิใบไม้ตับ ควรรีบรักษาให้หายขาด ทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษาโรคให้หายก่อนที่จะเกิดอาการของท่อน้ำดีอักเสบซึ่งอาจกลายเป็นโรคมะเร็งของเซลล์ท่อน้ำดีได้
  3. ควรมีมาตรการในการป้องกันสารเคมีต่าง ๆ ทั้งในผู้บริโภคและคนงานมิให้ได้รับสารเคมีเหล่านี้ เช่น สารหนู สารไวนิลคลอไรด์ (Vinyl chloride) เป็นต้น
  4. ควรฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีตั้งแต่แรกเกิดให้แก่เด็กทุกราย รวมทั้งให้ความแก่ประชาชนถึงวิธีการติดต่อของไวรัสตับอักเสบบีและซี
  5. รักษาสุขอนามัยพื้นฐานโดยการปฏิบัติตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติ 10 ประการ เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรงและลดโอกาสการติดเชื้อโรคต่าง ๆ
  6. รีบไปพบแพทย์เสมอเมื่อมีอาการผิดปกติดังกล่าว หรือเมื่อมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งตับทั้ง 2 ชนิด
เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2.  “มะเร็งตับ (Liver cancer)”.  (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).  หน้า 522-524.
  2. มูลนิธิหมอชาวบ้าน. นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่ 283 คอลัมน์: เวชภัณฑ์น่ารู้.  “ยาใหม่ที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งตับ Molecular Targeted Therapy in Hepatocellular Carcinoma”.  (ผศ.ภก.สุภัสร์ สุบงกช).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.doctor.or.th.  [17 ส.ค. 2016].
  3. มูลนิธิหมอชาวบ้าน. นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่ 334 คอลัมน์: สารานุกรมทันโรค.  “มะเร็งตับ”.  (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.doctor.or.th.  [17 ส.ค. 2016].
  4. หาหมอดอทคอม.  “มะเร็งตับ (Liver cancer)”.  (ศ.เกียรติคุณ พญ.พวงทอง ไกรพิบูลย์).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: haamor.com.  [18 ส.ค. 2016].
  5. Siamhealth.  “โรคมะเร็งตับ liver cancer”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.siamhealth.net.  [18 ส.ค. 2016].
  6. โรงพยาบาลกรุงเทพ.  “โรคมะเร็งตับ และการรักษามะเร็งตับ”.  (รศ.นพ.คมกริช  ฐานิสโร).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.bangkokhospital.com.  [19 ส.ค. 2016].
  7. Love Liver.  “การรักษาโรคมะเร็งตับด้วยวิธี RFA (Radiofrequency Ablation)”.  (รศ.นพ.คมกริช  ฐานิสโร).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.loveliver.net.  [19 ส.ค. 2016].

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 โรคมะเร็งตับ
  • 2 ชนิดของโรคมะเร็งตับ
  • 3 สาเหตุของโรคมะเร็งตับ
  • 4 อาการของโรคมะเร็งตับ
  • 5 ภาวะแทรกซ้อนของโรคมะเร็งตับ
  • 6 การวินิจฉัยโรคมะเร็งตับ
  • 7 วิธีรักษาโรคมะเร็งตับ
  • 8 วิธีป้องกันโรคมะเร็งตับ
  • 9 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ