on
ภาวะแทรกซ้อนของ มะเร็งเต้านม
ภาวะแทรกซ้อนของ มะเร็งเต้านม
มะเร็งเต้านมสามารถก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้หลายกรณี
ภาวะบวมน้ำเหลือง สามารถเกิดขึ้นได้ในผู้ป่วยมะเร็งในระยะลุกลาม เนื่องจากท่อน้ำเหลืองและเส้นเลือดเกิดความเสียหาย อาจเกิดการอุดตันหรือถูกทำลาย โดยเฉพาะหลังการผ่าตัดหรือการฉายรังสี ทำให้เกิดการบวมของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกายจากน้ำเหลืองที่เกิดการคั่งสะสมบริเวณนั้น ทั้งนี้ ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมจะพบภาวะบวมน้ำเหลืองบริเวณแขนได้มากที่สุด โดยเฉพาะข้างเดียวกับที่มีก้อนมะเร็งภายในเต้านม ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการแขนบวม ปวด ขยับแขนและมือได้ไม่สะดวก
ภาวะเหนื่อยง่าย เป็นอาการเรื้อรังที่เกิดได้ทุกวัน โดยเฉพาะในผู้ป่วยมะเร็งระยะลุกลาม ผู้ป่วยจะรู้สึกเมื่อยล้า เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ไม่สดชื่น อย่างไม่มีสาเหตุ ซึ่งอาจเป็นผลจากเซลล์มะเร็งเองหรือผลข้างเคียงของการรักษาที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอ รับประทานอาหารได้น้อยลง ไม่มีเรี่ยวแรง หรือสาเหตุอื่น ๆ เช่น การพักผ่อนไม่เพียงพอ ขาดการออกกำลังกาย นอนไม่หลับ ปัญหารบกวนทางด้านจิตใจและอารมณ์ เป็นต้น
ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ผู้ป่วยอาจพบผลข้างเคียงหลังการรักษาในหลายด้าน เช่น แผลติดเชื้อหลังการผ่าตัด ภาวะเลือดออก อาการปวดกระดูกจากการแพร่กระจายมะเร็งไปยังกระดูก ผลกระทบกระเทือนด้านจิตใจและอารมณ์ รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ฯลฯ ซึ่งอาการจะแตกต่างกันออกไปในผู้ป่วยแต่ละราย นอกจากนี้ผู้ป่วยในระยะลุกลามอาจเกิดโรคมะเร็งบริเวณอวัยวะอื่นในร่างกาย เนื่องจากการแพร่กระจายเซลล์มะเร็งในกระแสเลือดสู่อวัยวะภายในร่างกาย เช่น มะเร็งกระดูก มะเร็งปอด มะเร็งตับ เป็นต้น
การติดตามผลหลังการรักษามะเร็งเต้านม
หลังการรักษามะเร็งเต้านมหายขาด ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ควรระมัดระวังในบางเรื่อง เช่น การรับประทานอาหาร การดูสุขภาพร่างกาย และหมั่นควรเข้ารับการตรวจจากแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งแพทย์จะมีการติดตามผลของผู้ป่วยเป็นระยะและมีการตรวจทางการแพทย์อื่น ๆ เพิ่มเติมในบางกรณี เพื่อป้องกันการกลับมาของโรค เช่น
- ตรวจเอกซเรย์เต้านม (Mammogram) ซ้ำหลังการรักษาทุก ๆ 6 เดือน-1 ปี
- ตรวจภายใน (Pelvic Exams) ทุกปี สำหรับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษามะเร็งเต้านมด้วยวิธีทางด้านฮอร์โมนที่ใช้ยาในการยับยั้งการเติบโตของมะเร็ง เช่น ยาทามอกซิเฟน (Tamoxifen) หรือ ยาโทเรมิฟีน (Toremifene) เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงของยาที่ก่อให้เกิดมะเร็งมดลูกได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือน
- ตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูก (Bone Density Tests) สำหรับผู้ป่วยที่รักษามะเร็งเต้านมด้วยวิธีทางด้านฮอร์โมนด้วยการใช้ยาในกลุ่ม อะโรมาเตส อินฮิบิเตอร์ (Aromatase Inhibitors) เช่น ยาแอนแอสโทรโซล (Anastrozole) ยาเลโทรโซล (Letrozole) ยาเอ็กซ์เซอร์เมส เทน (Exemestane)
นอกจากปัญหาทางด้านร่างกาย ผู้ป่วยต้องเผชิญกับภาวะทางอารมณ์ต่าง ๆ ทั้งความวิตกกังวล ความกดดัน ความกลัว ความเครียด อาการซึมเศร้าหลังการเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งที่ผ่านมา ดังนั้นครอบครัวและคนใกล้ชิดควรเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวผู้ป่วยเอง หมั่นพูดคุย ให้กำลังใจ หรือส่งเสริมการทำกิจกรรมที่ช่วยสร้างความมั่นใจในการกลับมาใช้ชีวิตของผู้ป่วยมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีศูนย์ต่าง ๆ ที่ช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วยและครอบครัว เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้ป่วยให้ดีขึ้น