on
พิษแห่งครรภ์ (ตอนที่ 4 และตอนจบ)
15 ธันวาคม 2017
สำหรับการวินิจฉัยว่ามีภาวะครรภ์เป็นพิษนั้น จะดูหลังจากการตั้งครรภ์ 20 สัปดาห์ ว่า จะต้องมีความดันโลหิตสูงและมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
- มีโปรตีนในปัสสาวะ (Proteinuria)
- เกล็ดเลือดต่ำ
- ตับทำงานไม่ดี
- มีอาการไตที่มากกว่าการพบโปรตีนในปัสสาวะ
- ปอดบวมน้ำ (Pulmonary edema)
- ปวดศีรษะหรือสายตาเปลี่ยน
ส่วนการทดสอบภาวะครรภ์เป็นพิษทำได้โดย
- การตรวจเลือด (Blood tests) – เพื่อดูการทำงานของตับ ไต และวัดเกล็ดเลือด
- การตรวจปัสสาวะ (Urine analysis) – เพื่อดูปริมาณโปรตีนในช่วง 24 ชั่วโมงv
- การทำอัลตราซาวด์ (Fetal ultrasound) – เพื่อดูการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ประเมินน้ำหนักทารก และปริมาณน้ำคร่ำ (Aamniotic fluid)
- Nonstress test - เป็นการตรวจสุขภาพทารกในครรภ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในสตรีตั้งครรภ์ความเสี่ยงสูง วิธีนี้อาศัยหลักการการเปลี่ยนแปลงอัตราการเต้นของหัวใจทารก (Fetal heart rate variability) ซึ่งเป็นการตอบสนองของระบบประสาทอัตโนมัติต่อสิ่งกระตุ้น
สำหรับการรักษานั้น การทำคลอดเป็นวิธีการรักษาอย่างเดียวของภาวะครรภ์เป็นพิษ แม้ว่าทารกอาจจะยังโตไม่เต็มที่ก็ตาม เพราะแม่อาจจะมีความเสี่ยงสูงในการชัก ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด เส้นโลหิตที่ไปเลี้ยงสมองอุดตัน และอาจตกเลือดจนความดันโลหิตตก
และยิ่งครรภ์เป็นพิษรุนแรงจะยิ่งมีอาการเป็นเร็วขึ้นในระยะต้นๆ ของการตั้งครรภ์ ทำให้ต้องทำการคลอดก่อนกำหนดด้วยการชักนำให้เกิดการเจ็บครรภ์คลอดหรือการชักนำให้เกิดการคลอด (Induced labour) ด้วยการให้ยากระตุ้นที่ทำให้มดลูกหดรัดตัวมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกระบวนการเจ็บครรภ์คลอดตามธรรมชาติ แล้วทำให้เกิดการคลอดทารกออกมาทางช่องคลอดตามปกติ หรือการผ่าคลอด (Cesarean delivery = C-section)
นอกจากนี้แพทย์อาจให้ยาดังต่อไปนี้
- ยาลดความดันโลหิต (Antihypertensives) เฉพาะที่ใช้ในหญิงตั้งครรภ์
- ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) เพื่อช่วยให้ตับและเกล็ดเลือดดีขึ้นชั่วคราว ทั้งยังช่วยเตรียมปอดของทารกเพื่อการคลอดก่อนกำหนดด้วย
- ยาต้านชัก (Anticonvulsant medications) เช่น ยา Magnesium sulfate
แหล่งข้อมูล:
- Preeclampsia. [2017, December 14].
- Preeclampsia. [2017, December 14].