on
พาราเซตามอล
พาราเซตามอล
พาราเซตามอล (Paracetamol) เป็นยาที่ใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดและช่วยลดไข้ โดยนิยมใช้เพื่อรักษาอาการปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง ปวดฟัน รักษาอาการหวัด ทั้งนี้ยาพาราเซตามอลยังสามารถใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดของโรคข้อต่ออักเสบได้อีกด้วย โดยยาชนิดนี้จัดเป็นยาสามัญประจำบ้านเพราะสามารถใช้ได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งยาของแพทย์ แต่ต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม

เกี่ยวกับยาพาราเซตามอล
| กลุ่มยา | ยาระงับปวด (Analgesic) และลดไข้ (Antipyretics) |
| ประเภทยา |
ยาตามใบสั่งแพทย์ ยาหาซื้อได้เอง |
| สรรพคุณ | ลดอาการปวดที่ไม่รุนแรงและลดไข้ |
| กลุ่มผู้ป่วย |
เด็กและผู้ใหญ่ |
| รูปแบบของยา | ยาเม็ด ยาน้ำ ยาฉีด |
คำเตือนการใช้ยาพาราเซตามอล
- ไม่ควรใช้ยาเกินครั้งละ 500-1,000 มิลลิกรัม ต่อ 4-6 ชั่วโมง และไม่ควรเกิน 4,000 มิลลิกรัมต่อวัน
- ผู้ที่มีปัญหาโรคตับ เช่น ตับแข็ง ตับอักเสบ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาทุกครั้ง
- ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคพิษสุราเรื้อรังควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาพาราเซตามอลในทุกกรณี
- ไม่ควรใช้ยาพาราเซตามอลร่วมกับยาแก้ไอ ยารักษาอาการไข้หวัด ยาแก้แพ้ หรือยาแก้ปวดชนิดอื่น ๆ เพราะในยาเหล่านั้นมักมีส่วนผสมของพาราเซตามอล ซึ่งหากใช้ควบคู่กันอาจทำให้ได้รับยาเกินขนาด
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างการใช้ยา เพราะอาจยิ่งทำให้ตับเสี่ยงต่อการถูกทำลายมากขึ้น
- สตรีมีครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาพาราเซตามอล
- สตรีที่อยู่ในช่วงให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาพาราเซตามอล
ปริมาณการใช้ยาพาราเซตามอล
ยารับประทาน
- เด็ก 10-15 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ทุก 4-6 ชั่วโมง (หากจำเป็น) ไม่เกิน 5 ครั้งภายใน 24 ชั่วโมง
- ผู้ใหญ่ 500 มิลลิกรัม ทุก 4-6 ชั่วโมง ไม่เกิน 4,000 มิลลิกรัม ต่อวัน
ยาฉีดกล้ามเนื้อ
- เด็ก ครั้งละ 1/4-1/2 หลอด
- ผู้ใหญ่ ครั้งละ 1/2-1 หลอด
การใช้ยาพาราเซตามอล
พาราเซตามอลเป็นยาที่สามารถใช้ได้โดยไม่ต้องได้รับใบสั่งยาจากแพทย์ โดยการใช้ยาแต่ละครั้งควรห่างกันทุก ๆ 4-6 ชั่วโมง และปริมาณที่ควรใช้ต่อครั้งไม่ควรเกิน 500-1,000 มิลลิกรัม เนื่องจากพาราเซตามอลเป็นยาที่สามารถส่งผลต่อตับได้ หากใช้เกินขนาดจะก่อให้เกิดอาการดังต่อไปนี้
- ท้องเสีย
- เหงื่อออกมากผิดปกติ
- เบื่ออาหาร
- คลื่นไส้หรืออาเจียน
- ปวดท้องอย่างรุนแรง
- มีอาการปวดบวม ที่บริเวณหน้าท้องส่วนบน หรือบริเวณช่องท้อง
ทั้งนี้การใช้ยาดังกล่าวอาจทำให้ผลการตรวจปริมาณน้ำตาลในเลือดผิดพลาดได้ ผู้ป่วยโรคเบาหวานจึงควรแจ้งแพทย์หากใช้ยานี้ สตรีมีครรภ์สามารถใช้ยาพาราเซตามอลชนิดรับประทานได้ โดยใช้ปริมาณที่เหมาะสม และระมัดระวังภายใต้คำแนะนำของแพทย์ สำหรับสตรีที่ให้นมบุตร สามารถใช้ยาได้หากจำเป็น แต่ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมเช่นกัน เพราะตัวยาสามารถปะปนในน้ำนมได้ แม้จะอยู่ในปริมาณที่น้อยก็ตาม การรับประทานยาในปริมาณที่มากกว่าปริมาณที่กำหนดอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต เนื่องจากยาจะกลายเป็นพิษต่อตับและทำให้ตับถูกทำลายรุนแรง
ผลข้างเคียงจากการใช้ยาพาราเซตามอล
การใช้ยาพาราเซตามอลอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงบางอย่างขึ้น ได้แก่
- อุจจาระเป็นเลือด หรือมีสีดำ
- ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะน้อยลงอย่างไม่มีสาเหตุ
- มีอาการไข้ หนาวสั่น
- ปวดที่หลังส่วนล่างอย่างรุนแรง
- มีจุดแดงเล็ก ๆ ขึ้นตามผิวหนัง
- มีผื่นคัน
- เจ็บคอ
- มีแผลร้อนใน หรือ จุดขาว ๆ ขึ้นที่ริมฝีปากหรือภายในช่องปาก
- เลือดออกผิดปกติ
- เหนื่อยง่ายผิดปกติ
- ตาเหลือง ตัวเหลือง
ทั้งนี้หากเกิดอาการดังกล่าวขึ้นควรรีบไปพบแพทย์ในทันที