ฝีฝักบัว (Carbuncle) อาการ สาเหตุ การรักษาโรคฝีฝักบัว 7 วิธี

ฝีฝักบัว

ฝีฝักบัว (Carbuncle) คือ การติดเชื้อแบคทีเรียชนิดสแตฟีโลค็อกคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) หรือชนิดสเตรปโตค็อกคัส ไพโอจีนัส (Streptococcus pyogenes) ที่ต่อมไขมันและที่ขุมขนของผิวหนัง แล้วลุกลามจนรวมกันเป็นกลุ่มก้อนมีหนองสะสม มีลักษณะเป็นก้อนหนองหลายก้อนติดกัน เรียกว่า “ฝีฝักบัว” ในปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาถึงอัตราการเกิดของโรคนี้อย่างแน่ชัด แต่พบว่าเป็นโรคที่เกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัยและพบได้มากในเมืองร้อน

อนึ่ง ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ให้ความหมายของคำว่า “ฝีฝักบัว” หมายถึง ฝีชนิดหนึ่งที่ขึ้นตามหลังและต้นคอ มีลักษณะเหมือนฝักบัว เพราะมีหัวฝีหลายหัวขึ้นติด ๆ กัน (ส่วนคำว่า ฝี หมายถึง โรคจำพวกหนึ่งที่เป็นต่อมบวมขึ้นกลัดหนองข้างใน)

สาเหตุของฝีฝักบัว

สาเหตุการเกิดฝีฝักบัวจะเริ่มมาจากผิวหนังเกิดมีรอยถลอกบาดเจ็บเล็กน้อย เช่น จากการเสียดสี การแกะหรือเกา หรือจากการที่มือสัมผัสสิ่งสกปรกต่าง ๆ แล้วไปสัมผัสรอยบาดเจ็บนั้น ๆ เมื่อรอยบาดเจ็บเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดสแตฟีโลค็อกคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) หรือชนิดสเตรปโตค็อกคัส ไพโอจีนัส (Streptococcus pyogenes) เชื้อเหล่านี้ก็จะเข้าสู่ผิวหนังและลุกลามรุนแรงกลายเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังที่มีลักษณะเป็นก้อนหนองซึ่งมีหลายหัวติด ๆ กัน

โรคนี้ไม่ใช่โรคติดต่อ การเกิดโรคจะอาศัยปัจจัยหลัก 2 ประการ คือ การบาดเจ็บที่ผิวหนังที่เกิดอยู่ก่อน และเชื้อก่อโรค (เชื้อแบคทีเรีย) ที่อยู่ที่ผิวหนัง ซึ่งการล้างมือบ่อย ๆ จะช่วยลดปริมาณเชื้อก่อโรคเหล่านี้ได้Carbuncleคือ

ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคฝีฝักบัวได้ง่ายขึ้น คือ

อาการของฝีฝักบัว

มักขึ้นเป็นตุ่มหรือก้อนบวมแดงและปวดที่ผิวหนัง กดถูกเจ็บ เมื่อขึ้นใหม่ ๆ จะมีลักษณะแข็ง ตุ่มนี้จะขยายโตขึ้นและเจ็บมาก ต่อมาจะค่อย ๆ นุ่มลงและกลัดหนอง ถ้าขึ้นเพียงตุ่มเดียวหรือหัวเดียวจะเรียกว่า “ฝี” (Abscess) แต่ถ้าขึ้นหลายตุ่มติด ๆ กันจะเรียกว่า “ฝีฝักบัว” (เนื่องจากดูคล้ายกับฝักบัว) ต่อมาตุ่มหนองเหล่านี้จะแตกออกและมีหนองไหลออกมา แล้วอาการเจ็บปวดจะทุเลาลง (หากฝีอยู่ตื้นมักจะแตกเองได้ แต่หากอยู่ลึกมักจะไม่แตกเอง)

ฝีฝักบัวนี้มักพบขึ้นที่บริเวณหลังและคอ และในรายที่ติดเชื้อมากอาจมีไข้และอาการอ่อนเพลียร่วมด้วย โดยโรคจะหายอย่างช้า ๆ และมักเกิดเป็นแผลเป็นตามมา

ฝีฝักบัวเกิดจาก
IMAGE SOURCE : Gregory Moran
ฝีฝักบัวคือ
IMAGE SOURCE : vrachfree.ru, healthool.com
อาการของฝีฝักบัว
IMAGE SOURCE : www.ihealthblogger.com, howshealth.com, byebyedoctor.com, dermaamin.com

ภาวะแทรกซ้อนของฝีฝักบัว

ในรายที่มีการติดเชื้อลุกลาม ฝีฝักบัวอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงจากการติดเชื้อที่ผิวหนังเป็นวงกว้างได้ โดยจะส่งผลให้

การวินิจฉัยโรคฝีฝักบัว

แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคได้จากอาการที่แสดง การตรวจร่างกาย การตรวจรอยโรคด้วยการดูหรือคลำที่ตำแหน่งของรอยโรค และสามารถระบุชนิดของเชื้อก่อโรคได้โดยการส่งหนองจากแผลไปตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจเพาะเชื้อ

วิธีรักษาฝีฝักบัว

สมุนไพรรักษาฝีฝักบัว

วิธีป้องกันฝีฝักบัว

  1. ควรระวังอย่าให้ผิวหนังมีรอยถลอกหรือได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เช่น จากการเสียดสี การแกะหรือเกา หรือจากอุบัติเหตุต่าง ๆ เป็นต้น
  2. รักษาความสะอาดผิวหนังเสมอ รักษาความสะอาดในการโกน ขน ผม หนวด เครา และหมั่นล้างมือให้สะอาดเป็นประจำ เพื่อช่วยลดโอกาสการติดเชื้อโรคต่าง ๆ
  1. ไม่ใช้สิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ชุดชั้นใน ฯลฯ
  2. รักษาหรือควบคุมโรคเรื้อรังหรือโรคประจำตัวต่าง ๆ ที่เป็นอยู่ให้ดี
  3. รักษาสุขอนามัยพื้นฐานโดยการปฏิบัติตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติ 10 ประการ เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรงและลดโอกาสการติดเชื้อโรคต่าง ๆ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2.  “ฝี (Abscess/Boils/Furuncles)”.  (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).  หน้า 986-987.
  2. หาหมอดอทคอม.  “ฝีฝักบัว (Carbuncle)”.  (พญ.ชลธิรศน์ ศรีเกษตรสรากุล).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : haamor.com.  [15 ส.ค. 2016].
  3. Siamhealth.  “ฝีฝักบัวหรือที่เรียกว่า Carbuncle”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.siamhealth.net.  [16 ส.ค. 2016].
  4. หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5.  “กระดูกไก่ดํา”, “คอนสวรรค์”, “หูปลาช่อน”.  (ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม).  หน้า 19-20, 172-173, 827-829.
  5. หนังสือสมุนไพรไทย เล่ม 1.  “ดาวเรืองใหญ่ (Dao Rueang Yai)”.  (ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, ธวัชชัย มังคละคุปต์).  หน้า 113.
  6. หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีน ที่ใช้บ่อยในประเทศไทย.  “แอหนัง“.  (วิทยา บุญวรพัฒน์).  หน้า 654.
  7. ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.  “โด่ไม่รู้ล้ม”, “ลิเภา”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.phargarden.com.  [16 ส.ค. 2016].
  8. สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี.  “ครอบฟันสี”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.rspg.or.th.  [16 ส.ค. 2016].
  9. มูลนิธิหมอชาวบ้าน. นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่ 5 คอลัมน์: สมุนไพรน่ารู้.  “พุดตาน”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.doctor.or.th.  [16 ส.ค. 2016].

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 ฝีฝักบัว
  • 2 สาเหตุของฝีฝักบัว
  • 3 อาการของฝีฝักบัว
  • 4 ภาวะแทรกซ้อนของฝีฝักบัว
  • 5 การวินิจฉัยโรคฝีฝักบัว
  • 6 วิธีรักษาฝีฝักบัว
  • 7 วิธีป้องกันฝีฝักบัว
  • 8 เรื่องที่เกี่ยวข้อง
  • 9 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ