บิซาโคดิล (Bisacodyl) สรรพคุณ วิธีใช้ ผลข้างเคียง ฯลฯ

บิซาโคดิล

บิซาโคดิล หรือ ไบซาโคดิล (Bisacodyl) คือ ยาระบายเพื่อรักษาอาการท้องผูกที่ออกฤทธิ์กระตุ้นให้ผนังลำไส้ใหญ่บีบตัว ทำให้อุจจาระเคลื่อนตัวจนทำให้เกิดการขับถ่ายในที่สุด

ตัวอย่างยาบิซาโคดิล

ยาบิซาโคดิล (ชื่อสามัญ) มีชื่อทางการค้า เช่น บิซาโคดิล จีพีโอ (Bisacodyl GPO), บิซาโคดิล โค้ท (Bisacodyl Coated), บิซาคอด เอนเทอริค โค้ท (Bisacodyl Enteric Coated), ไบโคแลกซ์ (Bicolax), ไบโซแลกซ์ (Bisolax), ชินตาแลกซ์ (CHINTA–LAX), คอนแลกซ์ (CONLAX), อีมัลแลกซ์ บิซาโคดิล (Emulax Bisacodyl), ฟีนอแลกซ์ (Fenolax), ดัลโคแลกซ์ (Dulcolax), ดัลโคแลกซ์ เอนเทอริค โค้ท (Dulcolax Enteric Coated), เจนโคแลกซ์ (Gencolax), กาโดแลกซ์ (Kadolax), แลกซ์โคดิล (Laxcodyl), วาโคแลกซ์ (Vacolax), เวอราโคเลท (Veracolate) ฯลฯ

ยาบิซาโคดิลมีจำหน่ายอย่างแพร่หลายในร้านขายยา คลินิก และโรงพยาบาล มีรูปแบบการใช้ยาที่ง่ายและสะดวกจึงเป็นที่รู้จักโดยทั่วไป โดยยี่ห้อที่นิยมใช้กันในประเทศไทย คือ บิซาโคดิล จีพีโอ (Bisacodyl GPO) ซึ่งเป็นขององค์การเภสัชกรรม, ดัลโคแลกซ์ (Dulcolax), และชินตาแลกซ์ (CHINTA–LAX)

ดัลโคแลกซ์
IMAGE SOURCE : www.betterchemist.com
ดัลโคแลกซ์สรรพคุณ
IMAGE SOURCE : www.drugs.com
ดัลโคแลกซ์กินกี่เม็ด
IMAGE SOURCE : www.kmtth.org.tw
ดัลโคแลกซ์เหน็บ
IMAGE SOURCE : www.mountainside-medical.com, www.phoenixmed2u.com

รูปแบบยาบิซาโคดิล

สรรพคุณของยาบิซาโคดิล

ยานี้ใช้ในระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อรักษาอาการท้องผูก หรือใช้เป็นยาระบายเพื่อทำความสะอาดลำไส้สำหรับเตรียมการผ่าตัดหรือส่องกล้องลำไส้ใหญ่ในผู้ป่วย

กลไกการออกฤทธิ์ของยาบิซาโคดิล

ยาบิซาโคดิลจะออกฤทธิ์กระตุ้นให้ผนังลำไส้ใหญ่มีการบีบตัวเพิ่มมากขึ้น ทำให้อุจจาระเคลื่อนตัวจนทำให้เกิดการขับถ่ายในที่สุด

ก่อนใช้ยาบิซาโคดิล

สิ่งที่ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนใช้ยาบิซาโคดิล มีดังนี้

ข้อห้าม/ข้อควรระวังในการใช้ยาบิซาโคดิล

วิธีใช้ยาบิซาโคดิล

  1. ยาเม็ด : ผู้ใหญ่ให้รับประทานครั้งละ 1-3 เม็ด ส่วนในเด็กให้รับประทานครั้งละ 1 เม็ด ก่อนนอน แล้วดื่มน้ำตาม 1 แก้ว โดยยาจะออกฤทธิ์ทำให้รู้สึกอยากถ่ายอุจจาระหลังจากรับประทานยาไปแล้วประมาณ 6-12 ชั่วโมง
    • ให้กลืนยาทั้งเม็ด ห้ามหัก บด หรือเคี้ยวยานี้ และไม่ควรรับประทานยานี้ร่วมกับยาลดกรด ยาขับปัสสาวะ นม หรือผลิตภัณฑ์ของนม
    • ห้ามรับประทานยานี้เกินวันละ 1 ครั้ง และห้ามรับประทานยาติดต่อกันเกิน 1 สัปดาห์
    • ยานี้มีขนาดการใช้ที่แตกต่างกันไปตามลักษณะอาการป่วย เพศ และอายุ ดังนั้น เพื่อความถูกต้องและเหมาะสมจึงควรให้แพทย์เป็นผู้พิจารณาสั่งจ่ายขนาดรับประทานในผู้ป่วยแต่ละราย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วในผู้ใหญ่จะใช้ไม่เกิน 2 เม็ด หรือ 10 มิลลิกรัม/ต่อวัน ส่วนในเด็กนั้นขนาดที่รับประทานควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์
    • ควรใช้ยานี้ตามวิธีที่ระบุไว้บนฉลากอย่างเคร่งครัด ห้ามใช้ยาในขนาดที่น้อยกว่าหรือมากกว่าที่ระบุไว้ และหากมีข้อสงสัยในการใช้ยาควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรให้เข้าใจก่อนใช้ยาเสมอ
  1. ยาเหน็บทวาร : ให้เหน็บยาครั้งละ 1 เม็ด เวลาที่ต้องการจะถ่ายอุจจาระ ซึ่งตัวยาจะออกฤทธิ์อย่างรวดเร็วหลังการเหน็บประมาณ 15-60 นาที จึงนิยมเหน็บยานี้ในตอนเช้า
    • โดยทั่วไปยาเหน็บทวารหนักนี้จะต้องใช้เหน็บก่อนที่ต้องการจะถ่ายอุจจาระประมาณ 15-60 นาที หรือให้ใช้ยานี้ตามวิธีที่ระบุไว้บนฉลากอย่างเคร่งครัด ห้ามใช้ยาในขนาดที่น้อยกว่าหรือมากกว่าที่ระบุไว้ และหากมีข้อสงสัยในการใช้ยา ควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรให้เข้าใจก่อนใช้ยาเสมอ
    • ควรล้างมือให้สะอาด แล้วแกะเม็ดยาออกจากห่อกระดาษ นอนในท่าตะแคง โดยให้งอขาบนขึ้นจนหัวเข่าชิดหน้าอกมากที่สุดและขาล่างให้เหยียดตรงไว้ หรือให้ยืนตรงแล้วยกขาข้างหนึ่งขึ้นโดยให้เท้าเหยียบเก้าอี้ แล้วเอามืออ้อมขาไปด้านหลังแล้วสอดยาเหน็บเข้าไปในทวารหนัก (ให้เอาด้านที่มีปลายแหลมกว่าเข้าไปก่อนและใช้นิ่วดันยาเข้าไปอย่างช้า ๆ และเบา ๆ โดยให้พยายามสอดยาให้ลึกเพื่อไม่ให้แท่งยาหลุดออกจากทวารหนัก)
    • หากยาเหน็บนิ่ม ให้นำไปแช่ในตู้เย็นก่อนแกะยาออกจากห่อ หรืออาจแช่ในตู้เย็นก็ได้ ทั้งนี้เพื่อให้แท่งยาแข็งตัวและสอดได้ง่ายขึ้น
    • เมื่อเหน็บยาแล้วให้นอนอยู่ในท่าเดิมประมาณ 15-20 นาที แล้วจึงค่อยลุกไปถ่ายอุจจาระ (ควรกลั้นอุจจาระเอาไว้แม้ว่าหลังเหน็บยาไปแล้วจะรู้สึกอยากถ่ายแล้วก็ตาม เพราะหากลุกไปถ่ายทันทีจะทำให้ยาหลุดออกมาก่อนที่จะละลายและออกฤทธิ์ได้เต็มที่)

คำแนะนำในการใช้ยาบิซาโคดิล

การเก็บรักษายาบิซาโคดิล

เมื่อลืมรับประทานยาบิซาโคดิล

โดยทั่วไปยานี้จะใช้เฉพาะเมื่อมีอาการเท่านั้น การลืมใช้ยาจึงไม่ทำให้เกิดอันตราย และผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องเพิ่มขนาดยาในการใช้ครั้งต่อไป แต่หากฉลากยาระบุให้รับประทานยานี้อย่างสม่ำเสมอ ถ้าลืมรับประทานยาก็ให้รับประทานยาในทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าเวลาที่ลืมใกล้เคียงกับมื้อต่อไป ก็ให้รับประทานยามื้อต่อไปได้เลยโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า

ผลข้างเคียงของยาบิซาโคดิล

เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 1.  “ไบซาโคดิล (Bisacodyl)”.  (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).  หน้า 282.
  2. ยากับคุณ (Ya & You), มูลนิธิเพื่อการวิจัยและพัฒนาระบบยา (วพย.).  “ดัลโคแล็กซ์ (ชนิดเม็ด)”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.yaandyou.net.  [10 ก.ย. 2016].
  3. หาหมอดอทคอม.  “บิซาโคดิล (Bisacodyl)”.  (ภก.อภัย ราษฎรวิจิตร).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : haamor.com.  [10 ก.ย. 2016].

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 บิซาโคดิล
  • 2 ตัวอย่างยาบิซาโคดิล
  • 3 รูปแบบยาบิซาโคดิล
  • 4 สรรพคุณของยาบิซาโคดิล
  • 5 กลไกการออกฤทธิ์ของยาบิซาโคดิล
  • 6 ก่อนใช้ยาบิซาโคดิล
  • 7 ข้อห้าม/ข้อควรระวังในการใช้ยาบิซาโคดิล
  • 8 วิธีใช้ยาบิซาโคดิล
  • 9 คำแนะนำในการใช้ยาบิซาโคดิล
  • 10 การเก็บรักษายาบิซาโคดิล
  • 11 เมื่อลืมรับประทานยาบิซาโคดิล
  • 12 ผลข้างเคียงของยาบิซาโคดิล
  • 13 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ