บอกลาฟันเหลือง กับหลากวิธีฟันขาว

รอยยิ้มที่สวยงามสามารถทำให้ดูดีขึ้นได้ แต่สำหรับบางคนอาจมีปัญหาฟันเหลืองที่ทำให้สูญเสียความมั่นใจ แต่อย่างไรก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะฟันเหลืองแก้ไขได้ไม่ยาก

ฟันเหลือง

ฟันเหลืองมีสาเหตุมาจากอะไร ?

สำหรับในผู้ที่มีฟันเหลืองมาก อาจมีสาเหตุมาจากโรคต่าง ๆ ที่มีผลต่อเคลือบฟันและเนื้อฟัน หรือการรักษาทางการแพทย์บางอย่าง เช่น การฉายรังสีและเคมีบำบัดที่ช่วงศีรษะและคอ สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนสีของฟันได้ นอกจากนั้น ยาบางชนิด เช่น ยาเตตราซัยคลิน การติดเชื้อบางชนิดในคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ ก็สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนสีฟันของทารกในครรภ์ได้ เนื่องจากมีผลต่อการพัฒนาเคลือบฟันของทารก รวมทั้งความผิดปกติที่ฟันเอง เช่น ฟันผุ ฟันตาย ก็ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสีฟันได้

การรักษาและเคล็ดลับง่าย ๆ เพื่อฟันขาวยิ้มสวย

ในทุกวันนี้ มีอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยให้ฟันขาวมากมายที่สามารถซื้อหาและนำไปใช้ด้วยตัวเองได้ เช่น ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก เจลฟอกสีฟัน แผ่นฟอกสีฟัน และผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันที่ได้รับจากทันตแพทย์

ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันที่มีขายตามเคาน์เตอร์ทั่วไปและผลิตภัณฑ์ที่ทันตแพทย์ให้นำไปใช้เองที่บ้าน โดยปกติจะมีส่วนผสมของสารฟอกสีฟัน ได้แก่ คาร์บาไมด์ เปอร์ออกไซด์ (Carbamide Peroxide) ประมาณ 10-22% ซึ่งเท่ากับหรือใกล้เคียงกับไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์ 3% โดยมีปริมาณที่ต่ำกว่าผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันที่ใช้ตามโรงพยาบาลหรือศูนย์ทันตกรรม ซึ่งมีการใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันที่มีส่วนผสมของไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์ ที่มีความเข้มข้นตั้งแต่ 15-43%

การฟอกสีฟันหรือการทำฟันขาว เหมาะกับผู้ที่มีสุขภาพช่องปากที่ปกติ ไม่มีปัญหาทั้งเหงือกและฟัน โดยเฉพาะผู้ที่มีฟันเหลือง และเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพช่องปาก ควรปรึกษาทันตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านทันตกรรมเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะใช้วิธีการฟอกฟันให้ขาวแบบใดก็ อาจมีความเสี่ยงต่อเหงือกและฟัน หากเหงือกและฟันของมีความบางและไวต่อสารเคมีที่ใช้ในการฟอกฟัน ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาที่เหงือกและฟันตามมาได้ เช่น แสบเหงือกและเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปาก หรือเสียวฟันหลังจากฟอกสี ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ทุเลาและหมดไปเมื่อหยุดฟอกสี นอกจากนี้ ไม่แนะนำการฟอกสีฟันในเด็กที่อายุต่ำกว่า 16 ปี เพราะสารฟอกสีฟันนี้อาจส่งผลให้ระคายเคืองต่อโพรงประสาทฟันได้ และไม่แนะนำการฟอกสีฟันในคุณแม่ที่ตั้งครรภ์และกำลังให้นมบุตร