บวบขม สรรพคุณและประโยชน์ของบวบขม 21 ข้อ

บวบขม

บวบขม ชื่อวิทยาศาสตร์ Trichosanthes cucumerina L. จัดอยู่ในวงศ์แตง (CUCURBITACEAE)[1]

สมุนไพรบวบขม มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า มะนอยจ๋า (ภาคเหนือ), นมพิจิตร (ภาคกลาง), เล่ยเซ (เมี่ยน) เป็นต้น[1],[2],[3]

ลักษณะของบวบขม

ต้นบวบขม

ใบบวบขม

ดอกบวบขม

รูปบวบขม

ผลบวบขม

สรรพคุณของบวบขม

  1. ตำรายาพื้นบ้านล้านนาจะใช้ เถา ผล หรือทั้งต้นบวบขม เข้าตำรับยาหอมแก้ลม บำรุงหัวใจ (เถา, ผล, ทั้งต้น)[2],[5]
  2. น้ำต้มจากเถาหรือต้นมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงร่างกาย บำรุงหัวใจ (เถา)[3]
  3. เถานำมาต้มกับน้ำกินเป็นยาลดไข้ หรือจะใช้ใบหรือรากนำมาต้มกับน้ำกินก็ได้ ส่วนเมล็ดสรรพคุณเป็นยาแก้ไข้ (เถา, ราก, ใบ, เมล็ด)[1],[3]
  4. ผลมีรสขมมาก มีสรรพคุณเป็นยาแก้ร้อนในกระหายน้ำ ส่วนเถาและเมล็ดก็มีสรรพคุณเป็นยาแก้ร้อนในกระหายน้ำเช่นกัน (เถา, ผล, เมล็ด)[1]
  5. เถามีรสขม นำมาคั้นเอาน้ำกินจะทำให้อาเจียน ส่วนราก ผล และเมล็ด ก็มีสรรพคุณช่วยทำให้อาเจียนเช่นกัน (เถา, ราก, ผล, เมล็ด)[1],[3]
  1. ช่วยขับเสมหะ (เมล็ด)[2],[5]
  2. รากนำมาต้มกินเป็นยาแก้อาการปวดศีรษะ (ราก)[3]
  3. ผลแห้งมีสรรพคุณเป็นยาแก้ริดสีดวงจมูก ด้วยการใช้รังหรือใยบวบขมแบบแห้ง นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ หรือหั่นให้เป็นฝอยผสมกับเส้นยาสูบเล็กน้อยมวนเป็นบุหรี่สูบฆ่าเชื้อริดสีดวงจมูกทั้งที่เพิ่งเป็นใหม่ ๆ และเป็นมากขนาดหายใจออกมามีกลิ่นเหม็น (ผล)[2],[5]
  4. น้ำต้มจากรากมีสรรพคุณเป็นยาแก้หลอดลมอักเสบ (ราก)[3]
  5. เมล็ดมีสรรพคุณเป็นยาแก้หืด (เมล็ด)[2]
  6. ผลแห้งนำมาต้มกับน้ำตาลเป็นยาช่วยย่อย (ผล)[1],[3]
  7. ใบมีรสขมเย็น นำมาต้มกับน้ำกินเป็นยาระบาย แต่ถ้าใช้มากจะทำให้อาเจียน ส่วนน้ำต้มจากราก เถา ผลและยอดอ่อนก็มีสรรพคุณเป็นยาระบายเช่นกัน (ราก, เถา, ใบ, ผลและยอดอ่อน)[1],[3]
  8. ราก ผล และเมล็ด ใช้เป็นยาถ่ายอย่างแรง น้ำต้มจากรากในขนาด 60 มิลลิลิตร จะเป็นยาถ่ายอย่างแรงและรบกวนทางเดินอาหารมาก (ราก, ผล, เมล็ด)[1],[3]
  9. ใช้เป็นยาขับพยาธิ (ราก, ผล, เมล็ด)[1],[3]
  10. เมล็ดมีรสขมเย็น มีสรรพคุณเป็นยาขับประจำเดือนของสตรี และใช้ได้ดีกับคนไข้ธาตุพิการ (เมล็ด)[1],[3]
  11. เถาใช้ต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้หนองให้ตก (เถา)[1]
  12. ผลใช้เป็นยาแก้ท่อน้ำดีอุดตัน (ผล)[1]
  13. เถาใช้ร่วมกับต้นผักชี น้ำผึ้ง และต้น Gentian กินเป็นยาแก้อาการอักเสบต่าง ๆ ฟอกเลือด ขับประจำเดือน และใช้กับคนไข่ท่อน้ำดีอักเสบ (เถา)[3]
  14. ตำรายาไทยจะใช้ผลสดเป็นยาพอกศีรษะ แก้คัน แก้รังแค และฆ่าเหา โดยนำมาขยี้ฟอกศีรษะเส้นผมหลังสระผม หมักทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที แล้วค่อยล้างน้ำออก โดยให้ฟอกทุกครั้งหลังสระผม จะช่วยขจัดรังแคแก้อาการคันศีรษะได้ดีมาก (ผล)[2],[5]

ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของบวบขม

ประโยชน์ของบวบขม

เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือสมุนไพรไทย เล่ม 1.  (ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, ธวัชชัย มังคละคุปต์).  “บวบขม (Buap Khom)”.  หน้า 160.
  2. หนังสือสมุนไพรพื้นบ้านล้านนา.  (ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล).  “บวบขม”.  หน้า 217.
  3. โครงการเผยแพร่ข้อมูลทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นบนพื้นที่สูง, สถาบันวิจัยและพัฒนาที่สูง (องค์กรมหาชน).  “บวบขม”.  อ้างอิงใน :  หนังสือชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย (เต็ม สมิตินันทน์)., หนังสือสมุนไพรไทยตอนที่ 5 (ลีนา ผู้พัฒนพงศ์).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : eherb.hrdi.or.th.  [30 พ.ย. 2014].
  4. ภาควิชาเภสัชวินิจฉัย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.  (รองศาสตราจารย์ ดร.วีณา จิรัจฉริยากูล).  “บวบขม”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.pharmacy.mahidol.ac.th/siri/.  [30 พ.ย. 2014].
  5. ผู้จัดการออนไลน์.  “บวบขม รังแก้รังแคริดสีดวงจมูก”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.manager.co.th.  [30 พ.ย. 2014].

ภาพประกอบ : www.flickr.com (by Dinesh Valke, Shubhada Nikharge, Vijayasankar Raman, SierraSunrise)

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 บวบขม
  • 2 ลักษณะของบวบขม
  • 3 สรรพคุณของบวบขม
  • 4 ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของบวบขม
  • 5 ประโยชน์ของบวบขม
  • 6 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ