น้ำอสุจิเป็นเลือด (Blood in semen)

การเตรียมตัวก่อนพบแพทย์
น้ำอสุจิเป็นเลือด

น้ำอสุจิเป็นเลือด(Blood in semen หรือ Bloody semen)คือภาวะที่มีเลือดปนออกมากับน้ำอสุจิ เป็นภาวะพบได้บ่อย แต่ยังไม่มีการศึกษาสถิติเกิด เป็นภาวะพบในชายทุกวัย เป็นอาการที่สาเหตุมักไม่รุนแรง อาการมักหายเองโดยไม่ต้องมีการรักษา ไม่อันตราย โดยเฉพาะในชายอายุต่ำกว่า 40 ปี แต่ถ้าอายุสูงกว่า 40ปี สาเหตุอาจเกิดจากโรคมะเร็งอวัยวะระบบทางเดินปัสสาวะได้ เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก

อนึ่ง ชื่ออื่นของภาวะนี้ ได้แก่ Hematospermia หรือ Hemospermia

สาเหตุ

ก. ส่วนใหญ่ประมาณ 70% ไม่ทราบสาเหตุ

ข. กรณีแพทย์ตรวจพบสาเหตุ สาเหตุที่พบ ได้แก่

อาการ

ทั่วไปเมื่อเกิดจากพฤติกรรมทางเพศ ผู้ป่วยมักมีอาการเพียง มีน้ำอสุจิเป็นเลือด โดยเป็นเลือดไม่มาก และอาการเป็นเลือดจะหายไปเองภายใน1-2วัน

แต่ถ้าสาเหตุเกิดจากโรคระบบอวัยวะเพศชาย เช่น โรคติดเชื้อต่างๆ ผู้ป่วยมักมีอาการอื่นๆร่วมด้วย ซึ่งเป็นอาการของแต่ละโรคที่เป็นสาเหตุ เช่น

การพบแพทย์

กรณีที่ควรพบแพทย์/มาโรงพยาบาล เช่น

การวินิจฉัย

แพทย์วินิจฉัยหาสาเหตุน้ำอสุจิเป็นเลือดจาก ประวัติอาการ อายุผู้ป่วย ลักษณะการมีเพศสัมพันธ์ โรคประจำตัว ประวัติการรักษาโรคต่างๆ การใช้ยาต่างๆ การตรวจร่างกาย การตรวจคลำองคชาตและอัณฑะ กรณีแพทย์สงสัยมีพยาธิสภาพ แพทย์จะตรวจสืบค้นเพิ่มเติม เช่น การตรวจทางทวารหนัก การตรวจเลือดCBC การตรวจปัสสาวะ การส่องกล้องตรวจระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งการตรวจสืบค้นจะขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์เป็นกรณีๆไป

การรักษา

ถ้าแพทย์ตรวจไม่พบพยาธิสภาพ การรักษา คือ อธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจ โดยเฉพาะในเรื่องเพศสัมพันธ์ ซึ่งดังกล่าวแล้ว อาการจะหายไปเอง หลังพักการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าอาการจะปกติอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ แล้วจึงเริ่มมีเพศสัมพันธ์ใหม่ด้วยวิธีที่ถูกต้อง

ถ้าแพทย์พบสาเหตุ การรักษา คือการรักษาตามสาเหตุนั้น เช่น การให้ยาปฏิชีวนะกรณีมีสาเหตุเกิดจากการติดเชื้อ การรักษาโรคต่างๆที่เป็นสาเหตุ เช่น โรคเลือด โรคมะเร็ง

การพยากรณ์โรค

ทั่วไปภาวะน้ำอสุจิเป็นเลือดในทุกอายุ มีการพยากรณ์โรคที่ดี อาการมักหายได้เองเมื่อพักการมีเพศสัมพันธ์ และปรับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ในกรณีแพทย์ตรวจไม่พบพยาธิสภาพ รวมถึงกรณีที่สาเหตุเกิดจากอักเสบ การรักษาได้ผลดีด้วยยาปฏิชีวนะชนิดที่เชื้อโรคตอบสนองได้ดี

ส่วนถ้าสาเหตุเกิดจากโรคมะเร็ง การพยากรณ์โรคจะขึ้นกับแต่ละชนิดของโรคมะเร็ง แนะนำอ่านเพิ่มเติม แต่ละโรคที่เป็นสาเหตุได้ในเว็บ

บรรณานุกรม

  1. Ksenija B Stefanovic et al. Am Fam Physician 2009;80(12):1421-1427
  2. [2018,Aug11]
  3. [2018,Aug11]