on
น้ำยาฆ่าเชื้อ หรือ สารระงับเชื้อ (Antiseptics)
- บทนำ
- น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อคืออะไร?
- แบ่งน้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อเป็นประเภทใดบ้าง?
- น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้ออยู่ในรูปแบบใดบ้าง?
- มีข้อบ่งใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้ออย่างไร?
- มีข้อห้ามใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้ออย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้ออย่างไร?
- การใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อในหญิงตั้งครรภ์/ให้นมบุตรควรเป็นอย่างไร?
- การใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อในผู้สูงอายุควรเป็นอย่างไร?
- การใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อในเด็กควรเป็นอย่างไร?
- อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อเป็นอย่างไร?
- ข้อควรจำ
- บรรณานุกรม

น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อคืออะไร?
น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อคือ สารเคมีที่มีฤทธิ์ยับยั้งหรือฆ่าเชื้อจุลชีพได้แก่ เชื้อแบคที เรีย เชื้อไวรัส ยีสต์ (Yeast/เชื้อราชนิดหนึ่ง) เชื้อรา และเชื้อโปรโตซัว (Protozoa) โดยไม่มีอัน ตรายต่อเซลล์สิ่งมีชีวิตจึงสามารถใช้กับเซลล์ของสิ่งมีชีวิตได้โดยตรงเช่น บาดแผล เยื่อเมือก (Mucous membrane) หรือผิวหนัง
แบ่งน้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อเป็นประเภทใดบ้าง?
แบ่งน้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อตามโครงสร้างทางเคมีได้ดังนี้
- แอลกอฮอล์ (Alcohol) เช่น เอทิลแอลกอฮอล์ (Ethyl alcohol) และ ไอโซโพรพิลแอลกอ ฮอล์ (Isopropyl alcohol)
- คลอเฮกซิดีน (Chlorhexidine)
- กลุ่มฮาโลเจน (Halogen releasing agents) เช่น
- ไอโอดีน (Iodine) เช่น ทิงเจอร์ไอโอดีน (Tincture iodine)
- ไอโอโดฟอร์ (Iodophor) เช่น โพวิโดนไอโอดีน (Povidone iodine)
- คลอรีน (Chlorine)
- 4. เฮกซะคลอโรฟีน (Hexachlorophene)
- สารประกอบควอเตอร์นารีแอมโมเนียม (Quaternary ammonium compound) เช่น เบนซาลโคเนียมคลอไรด์ (Benzalkonium chloride)
- กลุ่ม Oxidizing agents
- สารประกอบเปอร์ออกซิเจน (Peroxygen compound) เช่น ไฮโดรเจนเปอร์ออก ไซด์ (Hydrogen peroxide), กรดเปอร์อะซิติก (Peracetic acid, PAA)
- สารประกอบเปอร์แมงกาเนตเช่น โพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนตหรือด่างทับทิม (Potassium Permanganate)
- 7. โลหะหนัก (Heavy metal) เช่น ไทเมอร์โรซอล (Thimerosal, Merthiolate), เมอร์โบรมิน/ยาแดง (Merbromin)
- Antibacterial dyes เป็นสารมีสีมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียเช่น เจนเชียนไวโอเลต (Gentian Violet) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า คริสตัลไวโอเลต (Crystal Violet) ซึ่งเป็นยาที่มีสีม่วง, และอะคริเฟลวีน/ยาเหลือง (Acriflavine) เป็นยาที่มีสีเหลือง
น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้ออยู่ในรูปแบบใดบ้าง?
รูปแบบของน้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื่อเช่น
- ยาสารละลาย (Solutions) เช่น โพวิโดนไอโอดีน
- ยาทิงเจอร์ (Tinctures/ยาที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์) เช่น ไทเมอร์โรซอล
- ยากลั้วคอ (Gargles) เช่น ไอโอดีน
- ยาครีม (Creams) เช่น เบนซาลโคเนียมคลอไรด์ (Benzalkonium chloride)
- ยาผงสวนล้าง (Douche Powders) ใช้สวนล้างช่องต่างๆของร่างกายเช่น ช่องคลอดได้ แก่ เฮกซะคลอโรฟีน, คลอเฮกซิดีน
- ยาเจลลี่ (Jellies) หรือยาเจลเช่น คลอเฮกซิดีน, แอลกอฮอล์
- ยาขี้ผึ้ง (Ointments) เช่น คลอเฮกซิดีน
- ยาป้าย (Paints) เช่น เจนเชียนไวโอเลต
มีข้อบ่งใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้ออย่างไร?
มีข้อบ่งใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อเช่น
- เช็ดผิวหนังเพื่อทำความสะอาดก่อนฉีดยา เจาะเลือด ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ และ/หรือก่อนผ่าตัด
- ใช้ฟอกมือก่อนผ่าตัด
- ใช้ฆ่าเชื้อในช่องปาก
- ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกก่อนตรวจภายใน เตรียมคลอด หรือก่อนผ่าตัด
- ทำความสะอาดบาดแผลหรือใส่แผลเพื่อฆ่าเชื้อโรค
- ใช้อาบน้ำทารกแรกเกิดเพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียสแตฟฟิโลคอกคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus)
มีข้อห้ามใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้ออย่างไร?
มีข้อห้ามใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อเช่น
- น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อส่วนใหญ่เป็นยาใช้ภายนอกห้ามรับประทาน
- ห้ามใช้ในผู้ที่แพ้ยานั้นๆ
- ห้ามใช้ทิงเจอร์ไอโอดีนปิดแผลเพราะอาจทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นตาย
- ไม่ควรใช้ทิงเจอร์ไอโอดีนกับผิวหนังอ่อนนุ่มเช่น บริเวณใบหน้า ตา เนื้อเยื่ออ่อน (เช่น เยื่อเมือก อวัยวะเพศ) อวัยวะสืบพันธุ์ และผิวหนังของเด็กเล็ก เพราะอาจทำให้ระคายเคืองได้
- ไม่ควรใช้ทิงเจอร์ไอโอดีนที่ไว้เก็บนานเพราะแอลกอฮอล์ที่ผสมอยู่อาจระเหยไปมากจนทำให้ความเข้มข้นของยาเพิ่มขึ้น แผลจะระคายเคืองได้มากขึ้น
มีข้อควรระวังการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้ออย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อเช่น
- ควรใช้แอลกอฮอล์เช็ดรอบๆแผล เว้นบริเวณที่เป็นแผลเพราะจะแสบและระคายเคืองและทำให้แผลหายช้า
- ควรเก็บแอลกอฮอล์ไว้ให้พ้นจากแสงสว่าง แสงแดด และความร้อนเพราะแอลกอฮอล์ติดไฟได้
- ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ไม่เหมาะกับแผลที่เป็นโพรงลึก และหากใช้แล้วไม่มีฟองฟู่แสดงว่ายาเสื่อมคุณภาพแล้ว
- ระวังการใช้ยาที่มีสีแล้วล้างออกยากเช่น ทิงเจอร์ไอโอดีน ยาแดง และยาเจนเชียนไวโอเลต เพราะนอกจากจะมีสีติดผิวหนังแล้วอาจทำให้สีเปื้อนเสื้อผ้าหรือสิ่งอื่นๆได้
การใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อในหญิงตั้งครรภ์/ให้นมบุตรควรเป็นอย่างไร?
การใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อในหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตรควรเป็นดังนี้เช่น
- สามารถใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อต่อไปนี้ได้อย่างปลอดภัยเช่น แอลกอฮอล์, เฮกซะคลอโรฟีน, คลอเฮกซิดีน, เจนเชียนไวเลต และไฮโดรเจอเปอร์ออกไซด์
- น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อที่มีไอโอดีนเป็นส่วนประกอบเช่น ทิงเจอร์ไอโอดีนและโพวิโดนไอโอดีนควรใช้ปริมาณแต่น้อยๆและไม่ใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะยาถูกดูดซึมได้และอาจทำให้ต่อมไทรอยด์ของทารกทำงานผิดปกติได้
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาเฮกซะคลอโรฟีน, ไทเมอร์โรซอล และยาแดง เพราะหากหญิงตั้งครรภ์ได้รับสารนี้เข้าไปในปริมาณมากอาจทำให้เกิดพิษต่อทารกในครรภ์ได้
การใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อในผู้สูงอายุควรเป็นอย่างไร?
การใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อในผู้สูงอายุควรเป็นดังนี้เช่น
- ผู้สูงอายุเป็นวัยที่มีผิวแห้งอยู่แล้ว การใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อบางชนิดอาจทำให้ผิวหนังยิ่งแห้งและระคายเคืองได้
- ผู้สูงอายุอาจมีโรคประจำตัวบางชนิดที่ทำให้มีบาดแผลเรื้อรัง และเป็นวัยที่แผลหายช้า ดังนั้นควรระวังการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อติดต่อกันเป็นเวลานานๆเพราะอาจทำให้ได้รับพิษจนเกิดอาการไม่พึงประสงค์ (อ่านเพิ่มเติมในหัวข้อ อาการไม่พึงประสงค์) จากการใช้ยาเหล่านั้นได้
การใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อในเด็กควรเป็นอย่างไร?
- ผิวหนังของเด็กบอบบาง มีความชื้นสูงดูดซึมสารต่างๆเข้าสู้ผิวหนังได้ดีกว่ากว่าผู้ใหญ่ ดังนั้นถ้าใช้ยาทาผิวหนังอาจเกิดอาการไม่พึงประสงค์ (อ่านเพิ่มเติมในหัวข้อ อาการไม่พึงประสงค์) จากการใช้ยาได้มากกว่าเช่นกัน
- หากใช้เฮกซะคลอโรฟีนในเด็กแรกเกิดเป็นประจำ ยาจะสะสมในร่างกายเด็กจนอาจทำให้เกิดความผิดปกติของหัวใจหรือของสมองเด็ก และหากใช้เฮกซะคลอโรฟีนในทารกที่คลอดก่อนกำหนดอาจส่งผลให้เด็กเกิดสมองบวม (Cerebral edema) หรือชักได้
อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อเป็นอย่างไร? ?
อาการไม่พึงประสงค์ (ผลข้างเคียง/พิษ) จากการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อเช่น
- น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อที่ใช้ทาผิวหนังอาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองหรือผิวแห้งได้
- หากน้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อโดนบาดแผลอาจทำให้ระคายเคืองแผล รู้สึกแสบร้อน
- การใช้เมอร์โบรมินหรือยาแดงในปริมาณมากและใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดพิษ จากสารปรอทได้เช่น ผิวหนังที่ทายาพอง, ท้องเสีย, ปวดท้อง และเป็นพิษต่อไต
ข้อควรจำ
ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมน้ำยาฆ่าเชื้อ/สารระงับเชื้อ) ยาแผนโบราณทุกชนิดและสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกชนิดควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
บรรณานุกรม
- ปวิตรา พูลบุตร. Antiseptics and Disinfectants[2015,June20]
- ณัฐสิทธิ์ ตันสกุล. สารฆ่าเชื้อ (Antiseptic and Disinfectant[2015,June20]
- Mcdonnell, G., and Russell, A.D. Antiseptics and Disinfectants: Activity, Action, and Resistance. Clinical Microbiology Reviews 12 (January 1999) : 147-179.
- สายสมร พลดงนอก, ปรียา อารีมิตร และทองสมัย ยุรชัย. การใช้น้ำยาฆ่าเชื้อและน้ำยาทำลายเชื้อ.[2015,June20]
- Schaefer C., Peters P., Miller R.K. Drug During Pregnancy and Lactation: Treatment Options and Risk Assessment. 3. Elsevier. 2015
- อภิฤดี เหมะจุฑา. ยาใส่แผล.[2015,June20]