นมผง ทางเลือกของคุณแม่ในการให้นมบุตร

นมผงเป็นตัวเลือกการให้นมสำหรับคุณแม่และลูกน้อยในบางกรณีที่จำเป็น เช่น คุณแม่มีภาวะเจ็บป่วยหรือต้องรับประทานยาที่อาจไม่ปลอดภัยต่อทารก ทารกมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มากจนให้นมแม่โดยตรงไม่ได้ นมแม่มีไม่เพียงพอหรือไม่มีเลย เป็นต้น

นมผง

แม้จะทราบกันดีว่านมแม่เป็นสุดยอดสารอาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย แต่หากคุณแม่ท่านใดประสบปัญหาดังกล่าวก็อาจจำเป็นต้องพึ่งพานมผงแทน ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด สิ่งสำคัญคือเลือกนมผงอย่างไรให้เหมาะสมและปลอดภัยต่อลูกน้อย เพื่อการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์และแข็งแรง

รูปแบบและประเภทของนมผง

คุณแม่ที่ตัดสินใจเลือกนมผงแทนนมแม่ควรทราบความแตกต่างของนมผงแต่ละประเภทอย่างชัดเจนเสียก่อน เพราะนมผงในท้องตลาดมีหลายรูปแบบและหลายสูตรให้เลือกซื้อ ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้แนะนำว่าการเลือกนมผงควรพิจารณาจากความต้องการพื้นฐานของคุณแม่หรือเด็ก และงบประมาณของแต่ละครอบครัวเป็นหลัก  

นมสำหรับทารกที่จำหน่ายโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่  

อย่างไรก็ตาม นมสำหรับทารกยังแบ่งเป็นหลายสูตรตามส่วนผสมหลักในนม ซึ่งสูตรที่พบได้ทั่วไป ได้แก่

ข้อดีและข้อจำกัดของการใช้นมผง

คุณแม่บางรายอาจมีเหตุผลด้านการแพทย์หรือความจำเป็นบางประการที่ทำให้ไม่อาจให้นมแม่แก่ทารกได้ อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณาข้อดีและข้อกำจัดของนมผง รวมถึงคุณประโยชน์ของนมแม่และนมผงต่อการเสริมสร้างพัฒนาการของทารกเพื่อการตัดสินใจที่ส่งผลดีที่สุดต่อลูกน้อย

ข้อดี

ข้อจำกัด

ปริมาณน้ำนมที่ลูกน้อยต้องการ

โดยทั่วไปทารกจะรู้สึกหิวและหยุดกินนมแม่เมื่ออิ่ม แต่หากเป็นนมผงจะมีเกณฑ์การให้นมคร่าว ๆ ที่คำนวณตามน้ำหนักตัวทารก โดยควรได้รับนมประมาณวันละ 75 มิลลิลิตรต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม หรือใช้เกณฑ์ที่แบ่งตามอายุ ดังนี้

เกณฑ์ข้างต้นเป็นเพียงปริมาณแนะนำ คุณแม่หรือผู้ปกครองไม่ควรยึดปริมาณดังกล่าวมากเกินไป เพราะเด็กแต่ละคนมีการเจริญเติบโตที่แตกต่างกัน ควรสังเกตภาษากายที่เด็กพยายามส่งสัญญาณบอกด้วย เช่น หากมีอาการแหวะนมแสดงว่าอาจเริ่มอิ่ม หรือหากปากเด็กยังอยู่ในลักษณะดูดขวดนมแม้นมหมดขวดแล้วก็แสดงว่ายังไม่อิ่ม

นอกจากนี้ ยังควรหมั่นสังเกตความถี่ในการขับถ่าย รวมถึงสีของปัสสาวะและลักษณะของอุจจาระของเด็ก เพราะเป็นตัวชี้วัดในเบื้องต้นว่าได้รับสารอาหารครบถ้วนหรือไม่ โดยเด็กทารกควรปัสสาวะประมาณ 6 ครั้งต่อวัน น้ำปัสสาวะควรมีสีเหลืองอ่อนและใส แต่หากมีสีค่อนข้างส้มหรือเข้มมากกว่าปกติแสดงว่าเด็กอาจดื่มน้ำไม่เพียงพอ มีภาวะขาดน้ำ น้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์ หรือเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ และควรอุจจาระประมาณ 4 ครั้งต่อวัน ลักษณะอุจจาระปกติจะข้นและค่อนข้างจับตัวเป็นก้อน แต่อาจเปลี่ยนเป็นสีเขียวหรือสีเหลืองเมื่อเด็กโตขึ้น เพราะเปลี่ยนแปลงไปตามอาหารที่รับประทานเข้าไป

อย่างไรก็ตาม ควรระวังไม่ให้ทารกดื่มนมมากเกินไป เพราะอาจส่งผลเสียแทนที่จะได้รับประโยชน์ โดยมักส่งผลให้ร้องไห้งอแงบ่อย มีเสียงครืดคราดในลำคอคล้ายมีเสมหะ พุงพลุ้ย ท้องไม่ยอมแฟบ มีอาการแหวะนมออกมาทางปากหรือจมูก เวลาพลิกตัวหรือเหยียดแขนขามีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด รวมทั้งมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นไวผิดปกติ คือประมาณ 35 กรัมต่อวัน หรือมากกว่า 1 กิโลกรัมต่อเดือน สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องเล็กน้อยที่ควรใส่ใจ เพราะอาจนำไปสู่โรคอ้วนเมื่อเด็กโตขึ้น หากคุณแม่เป็นกังวลในเรื่องนี้หรือพบความผิดปกติอื่น ๆ อาจขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้ดูแลได้

สำหรับคุณแม่ที่มีข้อจำกัดจนทำให้การให้นมแม่แก่ทารกเป็นเรื่องยากนั้น การให้นมผงแก่เด็กก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด แต่ควรเตรียมความพร้อมและทำความเข้าใจ เพื่อให้ลูกน้อยมีสุขภาพที่แข็งแรงและเติบโตตามวัยได้อย่างสมบูรณ์