ท้องอืดในทารก รับมืออย่างไร

ท้องอืดเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ทารกรู้สึกไม่สบายตัว เกิดขึ้นได้เป็นปกติและมักไม่เป็นอันตราย อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ควรเรียนรู้วิธีป้องกันและบรรเทาอาการในเบื้องต้นเพื่อช่วยคลายความอึดอัดให้ลูกน้อย รวมทั้งหมั่นสังเกตอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณของปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารที่รุนแรงได้

ท้องอืด

สาเหตุที่ทำให้ลูกน้อยท้องอืด

สาเหตุของอาการท้องอืด อึดอัด หรือไม่สบายท้องของลูกน้อยเกิดจากการมีแก๊สสะสมในกระเพาะอาหารมากเกินไป ซึ่งอาจเป็นผลมาจากหลายปัจจัย ดังนี้

นอกจากนี้ การรับประทานอาหารบางประเภทอาจทำให้ลูกน้อยมีแก๊สสะสมในกระเพาะอาหารมากกว่าปกติ เช่น พืชตระกูลถั่ว บร็อคโคลี่ กะหล่ำปลี รำข้าว ข้าวโอ๊ตบด ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เป็นต้น บางรายเกิดแก๊สสะสมเนื่องจากมีอาการแพ้โปรตีนจากอาหารบางชนิด โดยเฉพาะนมและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม เช่น โยเกิร์ต ชีส รวมถึงโปรตีนในนมผงและน้ำนมแม่ นอกจากนี้ อาหารที่คุณแม่รับประทานก็อาจไหลผ่านน้ำนมและส่งผลให้ทารกมีอาการท้องอืดได้ แม้เด็กไม่ได้รับประทานเองโดยตรง

สัญญาณบ่งบอกว่าลูกน้อยท้องอืด

อาการท้องอืดเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ทารกมีอายุ 2-3 สัปดาห์ แม้ทารกไม่สามารถสื่อสารให้รู้ได้ด้วยคำพูด ทว่าพ่อแม่อาจสังเกตความผิดปกติได้เมื่อลูกน้อยแสดงอาการ ดังนี้

อย่างไรก็ตาม ทารกมักรู้สึกสบายตัวขึ้นและหยุดร้องไห้หลังผายลมหรือเรอออกมา แต่หากยังร้องไห้ไม่หยุดทั้งที่ผายลมออกมาแล้ว อาจแสดงว่าสัญญาณผิดปกติดังกล่าวเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น กรดไหลย้อน ท้องผูก โคลิค เป็นต้น

ท้องอืดแบบไหนจึงเป็นอันตราย

โดยปกติ อาการท้องอืดไม่เป็นอันตรายต่อทารกและสามารถรักษาได้ แต่ในบางกรณี การมีแก๊สสะสมในกระเพาะอาหารอาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นของความผิดปกติทางระบบย่อยอาหารที่รุนแรง หากสงสัยว่าลูกน้อยท้องอืดร่วมกับมีอาการต่อไปนี้ ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที

วิธีบรรเทาอาการท้องอืดของลูกน้อย

ในเบื้องต้น พ่อแม่ควรบรรเทาอาการท้องอืดของลูกน้อยโดยกระตุ้นให้เรอออกมาระหว่างป้อนนมและหลังป้อนนมเพื่อระบายแก๊สในกระเพาะอาหาร ทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

นอกจากนั้น พ่อแม่อาจห่อตัวทารก ใช้จุกนมหลอก อุ้มทารกแกว่งไปมาเบา ๆ หรือไกวเปลให้ เพื่อช่วยให้ทารกผ่อนคลายจากความรู้สึกไม่สบายตัว หากลองทำตามวิธีข้างต้นแล้วลูกน้อยยังไม่เรอออกมา อาจจำเป็นต้องใช้ยาไซเมทิโคน ซึ่งมีสรรพคุณช่วยขับลมและบรรเทาอาการท้องอืด นอกจากมีความปลอดภัยสูงเพราะตัวยาไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายแล้ว ในปัจจุบันยังมียาไซเมทิโคนชนิดน้ำ ทารกจึงรับประทานได้ง่าย อย่างไรก็ตาม อาจเกิดผลข้างเคียงกับผู้ใช้บางราย จึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาชนิดนี้

ป้องกันอาการท้องอืดอย่างไร

วิธีป้องกันอาการท้องอืดของทารกทำได้โดยการหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร และพยายามไม่ให้ลูกน้อยกลืนอากาศเข้าไปจำนวนมาก ดังนี้