ทางเลือกในการลบรอยสัก

ลบรอยสัก เป็นขั้นตอนสำหรับผู้สักลายที่ต้องการเอารอยสักที่ไม่ต้องการออก โดยเทคนิคหรือวิธีที่ใช้ในการลบรอยสักโดยทั่วไป ได้แก่ การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ ศัลยกรรมผ่าตัดลบรอยสัก (การเอาชั้นผิวหนังออก) และการศัลยกรรมขัดผิวหนัง (Dermabrasion)

ลบรอยสัก

ทำไมถึงต้องลบรอยสัก ?

การติดสินใจที่จะลบรอยสักอาจเกิดจากการที่ผู้สักลายรู้สึกไม่มีความสุขกับลายสักที่ได้มา หรืออาจเป็นเพราะลายสักจางลงและไม่ชัดเจนอย่างที่ต้องการ หรืออาจเป็นเพราะลายสักไม่เหมาะกับบุคลิกของผู้สัก จึงอยากลบ หรือลบเพื่อเปลี่ยนลายสักใหม่ นอกจากนั้น การลบรอยสักอาจทำเพราะความจำเป็น เนื่องจากผู้สักลายมีปฏิกิริยาแพ้ต่อสีที่ใช้ในการสักลาย หรืออาจเป็นเพราะอาการข้างเคียงอื่น ๆ เช่น การติดเชื้อ เป็นต้น

ข้อควรระวังในการลบรอยสัก

สีที่ใช้ในการสักจะอยู่ในชั้นผิวหนังที่ลึกแตกต่างกัน ทำให้ลบออกได้ยาก ดังนั้นจึงไม่ควรลบรอยสักด้วยวิธีที่ทำด้วยตัวเองที่บ้าน เช่น การใช้บุหรี่หรือใช้ไม้แขวนเสื้อจี้ไฟ ซึ่งจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นและเกิดการติดเชื้อได้ง่ายมาก รวมไปถึงการใช้ครีมลบรอยสัก และวิธีการอื่น ๆ ซึ่งล้วนแล้วเป็นวิธีที่ไม่มีประสิทธิภาพและทำให้เกิดความระคายเคืองผิวหรือทำปฏิกิริยาอื่น ๆ ที่ไม่พึงประสงค์ หากมีความประสงค์ในการลบรอยสักจึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังเพื่อหาวิธีการที่เหมาะสม

เตรียมตัวก่อนลบลอยสัก

หากตัดสินใจที่จะลบรอยสัก ควรเข้ารับการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง ซึ่งจะช่วยให้ความรู้ ความเข้าใจในการลบรอยสักแต่ละวิธี และจะช่วยให้สามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด เช่น การลบด้วยเลเซอร์สามารถลบรอยสักที่ทำจากน้ำหมึกได้ดีกว่าการใช้วิธีอื่น ๆ นอกจากนั้น รอยสักที่มีขนาดเล็กจะเหมาะกับการใช้วิธีศัลยกรรมผ่าตัดลบรอยสัก และรอยสักที่มีขนาดใหญ่จะไม่เหมาะกับการใช้มีดผ่าตัด เป็นต้น

ขั้นตอนและวิธีการลบรอยสัก

การลบรอยสักมักทำการรักษาแบบผู้ป่วยนอกและการใช้ยาชาเฉพาะจุด ซึ่งวิธีการที่ใช้ส่วนใหญ่ ได้แก่ การใช้เลเซอร์ลบรอยสัก ศัลยกรรมผ่าตัดลบรอยสัก และการศัลยกรรมขัดผิวหนัง

ภาวะแทรกซ้อนของการลบรอยสัก

ผู้ที่จะเข้ารับการลบรอยสักต้องทราบก่อนว่า การลบรอยสักในแต่ละวิธีนั้นอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ได้แก่

การดูแลภายหลังจากการลบรอยสัก

การสักลายนั้นจะทิ้งร่องรอยไว้บนผิวหนัง และการที่จะลบรอยสักได้อย่างสมบูรณ์แบบนั้นถือเป็นเรื่องที่ยากและอาจเกิดแผลเป็นมากน้อยแตกต่างกันไปหรือมีการเปลี่ยนแปลงของสีผิว ซึ่งจะขึ้นอยู่กับวิธีที่ใช้ในการลบรอยสัก

การดูแลผิวหลังจากการลบรอยสักนั้นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เนื่องจากผิวหนังหลังจากขั้นตอนการลบรอยสักจะมีความบอบบางและมีความรู้สึกไว ซึ่งต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษเพื่อปกป้องผิว ลดการเกิดรอยแผลเป็น และป้องกันการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นได้

นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะพบในเกือบทุกวิธีของการลบรอยสัก คือแผลเป็น รวมไปถึงการติดเชื้อหรือการเปลี่ยนแปลงของสีผิว นอกจากนั้น บางสีจะไม่หายไปทั้งหมด เช่น สีเหลือง สีเขียว สีม่วง ซึ่งจะต้องใช้ขั้นตอนในการทำให้สีจางไปมากกว่าสีดำ สีน้ำเงิน และสีแดง และมีโอกาสที่สีผิวบริเวณที่ลบรอยสักจะเข้มขึ้นหรืออ่อนลงอย่างชั่วคราว