ทรามาดอล (Tramadol) สรรพคุณ วิธีใช้ ผลข้างเคียง ฯลฯ

ทรามาดอล

ทรามาดอล (Tramadol) หรือยาที่คนทั่วไปรู้จักกันในชื่อทางการค้าว่า อนาดอล (Anadol), มาทราดอล (Matradol), ทรามอล (Tramol) เป็นยาในกลุ่มโอปิออยด์ (Opioid) ที่นำมาใช้เป็นยาบรรเทาอาการปวดระดับปานกลางถึงระดับรุนแรง (ทรามาดอลมีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการปวดได้ดีเทียบเท่ากับมอร์ฟีนสำหรับอาการปวดระดับต่ำถึงปานกลาง แต่มีประสิทธิภาพด้อยกว่าสำหรับอาการปวดรุนแรง)

หากใช้ยาทรามาดอลในรูปแบบรับประทาน ตัวยาจะออกฤทธิ์ภายหลังการรับประทานยาประมาณ 1 ชั่วโมง ออกฤทธิ์สูงสุดหลังรับประทานประมาณ 2-3 ชั่วโมง และจะหมดฤทธิ์ภายใน 6 ชั่วโมง

กฎหมายยาในบ้านเรากำหนดให้ยาทรามาดอลเป็นยาอันตรายตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 และมีขายในร้านขายยาแผนปัจจุบันทั่วไป การใช้ยานี้จึงต้องระมัดระวังและควรอยู่ภายใต้คำสั่งแพทย์เท่านั้น ผู้ป่วยไม่ควรซื้อหายานี้มารับประทานด้วยตัวเอง

ตัวอย่างยาทรามาดอล

ยาทรามาดอล (ชื่อสามัญ) มีชื่อทางการค้า เช่น อแมนดา/อมานดา (Amanda), อนาดอล/อะนาดอล (Anadol), อนาแลบ (Analab), อนามอล (Anamol), แคปตานิล (Captanil), คริสมอล (Crismal), ดูโอเซตซ์ (Duocetz), ฟามาดอล (Famadol), กาตาดอล (Gatadol), เกรทตามอล (Greatamol), ฮิมมาดอล (Himmadol), เจ.วี. ดอล (J.v. dol), เคมาเท็กซ์ (K matex), มาบรอน (Mabron), มาดิเตอร์ (Maditer), มาดอล (Madol), มาโดลา (Madola), มาทราดอล (Matradol), มอดเซนอล (Modsenal), ไนทราดอล (Nytradol), แพกมาดอล (Pacmadol), เพนดอล (Paindol), พินนาดอล (Pinnadol), ฟาร์มาดอล (Pharmadol), รามาดอล (Ramadol), เซฟมอล (Sefmal), โซนามอล แคปซูลส์ (Sonamol capsules), สตาร์มาดอล (Starmadol), ทาโมลาน (Tamolan), เทมดอล (Temdol), เทอร์แพน (Terpan), ทราซิน (Tracine), ทราบาร์-50 แคปซูลส์ (Trabar – 50 capsules), ทราซีน (Tracine), ทราดอลเจสิค (Tradolgesic), ทราโดนอล แคปซูล (Tradonal capsule), ทราเจสิค (Tragesic), ทรามา (Trama), ทรามา แท็บเล็ตส์ (Trama tablets), ทรามาแคป (Tramacap), ทรามาดา (Tramada), ทรามาดิล (Tramadil), ทรามาดอล (Tramadol), ทรามาดอล สตาด้า (Tramadol Stada), ทรามาดอล ที พี (Tramadol T P), ทรามาดอล ยูโทเปียน (Tramadol Utopian), ทรามอล (Tramol), ทรามาเมด (Tramamed), ทราแม็กซ์ (Tramax), ทรามาแซค (Tramazac), ทราเมด (Tramed), ทราโมดา (Tramoda), ทราโมเมท (Tramomet), ทราซิค (Trasic), ทราพิดอล (Trapidol), ทราอูเมด (Traumed), โทรมา แคปซูลส์ (Troma capsules), โทรซิค (Trosic), อัลตราเซต (Ultracet), อัปดอล (Updol), เวสนอน-วี 100 (Vesnon-V 100), โวลซิดอล (Volcidol) ฯลฯ

รูปแบบยาทรามาดอล

  1. ชนิดยาเดี่ยว
    • ยาแคปซูล (แคปซูลเขียวเหลือง) ขนาดความแรง 50 มิลลิกรัม/แคปซูล
    • ยาเม็ด ขนาดความแรง 50 มิลลิกรัม/เม็ด
    • ยาเม็ดออกฤทธิ์เนิ่นนาน ขนาดความแรง 100 มิลลิกรัม/เม็ด
    • ยาน้ำหยด ขนาด 100 มิลลิกรัม/1 มิลลิลิตร
    • ยาเหน็บทวาร ขนาดความแรง 100 มิลลิกรัม/เม็ด
    • ยาฉีด ขนาดความแรง 50 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร และ 100 มิลลิกรัม/2 มิลลิลิตร
  2. ชนิดยาผสม
    • ยาเม็ด ขนาดความแรง 37.5 มิลลิกรัม ผสมกับยาพาราเซตามอล (Paracetamol) 325 มิลลิกรัม/เม็ด
ยา tramadol
IMAGE SOURCE : howafrica.com
อนาดอล
IMAGE SOURCE : www.squarepharma.com.bd

สรรพคุณของยาทรามาดอล

กลไกการออกฤทธิ์และการเสพติดยาทรามาดอล

ยาทรามาดอลจะมีกลไกการออกฤทธิ์อยู่ 2 อย่างที่สำคัญ คือ ออกฤทธิ์กระตุ้นมิวรีเซปเตอร์ (µ-receptor) ซึ่งเมื่อกระตุ้นแล้วจะมีฤทธิ์บรรเทาอาการปวด รวมทั้งมีฤทธิ์กดการทำงานของระบบประสาท และมีผลทำให้เกิดภาวะเคลิ้มสุข (Euphoria) ซึ่งการออกฤทธิ์นี้จะเหมือนกับการออกฤทธิ์ของยามอร์ฟีน แต่ยาทรามาดอลจะมีความแรงน้อยกว่าประมาณ 10 เท่า (บางข้อมูลระบุว่า มีความแรงน้อยกว่าประมาณ 5-20 เท่า) จึงทำให้ยานี้ไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษเหมือนกับมอร์ฟีน (แต่ยังจัดเป็นยาอันตรายและยังมีจำหน่ายตามร้านขายยา) อย่างไรก็ตาม แม้ยาทรามาดอลจะออกฤทธิ์น้อยกว่ามอร์ฟีนถึง 10 เท่า แต่ก็ยังมีฤทธิ์บรรเทาอาการปวดได้ดีเนื่องจากมีกลไกการออกฤทธิ์อีกอย่างหนึ่งมาช่วยเสริมฤทธิ์ คือ ฤทธิ์เพิ่มการทำงานของสารสื่อประสาทเซโรโทนิน (Serotonin) และนอร์อิพิเนฟริน (Norepinephrine) ซึ่งสารทั้งสองตัวนี้เมื่อมีปริมาณเพิ่มขึ้นที่ไขสันหลังจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้

แต่การเพิ่มขึ้นของสารเซโรโทนิน (Serotonin) จากการรับประทานยาเกินขนาด เช่น การรับประทานยาครั้งละ 3-4 เม็ด อาจส่งผลให้เกิดอาการที่เรียกว่า “Serotonin syndrome” (เป็นอาการที่เกิดจากเซโรโทนิมากเกิน) และอาจเกิดอาการในกลุ่มที่เรียกว่า Extrapyramidal เช่น กลืนลำบาก มือสั่น มีไข้ กล้ามเนื้อเกร็งตัวอย่างมาก หรืออาจมีอาการทางระบบประสาท เช่น สับสน ประสาทหลอน และหวาดระแวง ส่วนการเพิ่มขึ้นของสารนอร์อิพิเนฟริน (Norepinephrine) นั้น อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ ใจสั่น กระตุ้นระบบประสาทและทำให้ชักได้ ซึ่งอาการที่กล่าวมานี้จะเกิดขึ้นมากหรือน้อยนั้นจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ขนาดยาที่รับประทาน การใช้ร่วมกับยาหรือสารอื่นที่อาจเพิ่มหรือลดการออกฤทธิ์ของยา การทำงานของไต พันธุกรรมของยีนที่ใช้ในการทำลายยาทรามาดอล เป็นต้น

หากมีการนำยาทรามาดอลไปใช้ในทางที่ผิด ใช้ครั้งละหลาย ๆ เม็ดต่อเนื่องกัน หรือนำไปใช้ร่วมกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มชูกำลัง หรือน้ำอัดลม อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงต่อระบบประสาทได้ เช่น ทำให้รู้สึกสบายและเคลิ้มสุขได้เร็วและแรง ส่งผลให้ผู้ใช้มีความต้องการใช้ยาทุกวัน และเมื่อใช้ยาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ร่างกายจะต้องการยาเพิ่มมากขึ้นจนเกิดอาการติดยา (Addiction) หากไม่ได้รับยาเข้าสู่ร่างกายก็จะทำให้เกิดอาการถอนยาได้ และถ้าใช้ยามากเกินไปตัวยาก็จะไปกดระบบประสาทอย่างมากจนอาจทำให้ไม่รู้สึกตัวได้ด้วย

จะเห็นได้ว่า การนำยาทรามาดอลมาใช้เสพติดเพื่อให้เกิดอาการเคลิ้มสุขนั้นเป็นอันตรายอย่างมากจนอาจทำให้เสียชีวิตได้ เพราะฉะนั้นคงไม่คุ้มค่ากับการต้องแลกชีวิตเพียงเพื่อความสุขชั่วครู่ นอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพแล้ว การใช้ยานี้เพื่อการเสพติดยังอาจนำไปสู่ปัญหาอื่น ๆ ทั้งด้านครอบครัว สังคม และประเทศชาติตามมาอีกด้วย

ก่อนใช้ยาทรามาดอล

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมถึงยาทรามาดอล สิ่งที่ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบมีดังนี้

ข้อห้าม/ข้อควรระวังในการใช้ยาทรามาดอล

วิธีใช้ยาทรามาดอล

คำแนะนำในการใช้ยาทรามาดอล

การเก็บรักษายาทรามาดอล

เมื่อลืมรับประทานยาทรามาดอล

โดยทั่วไปยานี้จะใช้เฉพาะเมื่อมีอาการปวดเท่านั้น หากรับประทานยาไปครั้งหนึ่งแล้วอาการปวดลดลงหรือหายไปก็ไม่ต้องรับประทานยาอีก การลืมรับประทานยานี้จึงไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด แต่หากยังมีอาการปวดอยู่สามารถรับประทานยานี้ซ้ำได้ทุก 4-6 ชั่วโมง โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดการรับประทานยาในครั้งต่อไป และหากลืมรับประทานยาทรามาดอลในครั้งต่อไป ให้รับประทานยาในทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่ถ้าเป็นเวลาที่ใกล้เคียงกับครั้งต่อไป ให้ข้ามไปรับประทานยาครั้งต่อไปได้เลย โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่าหรือมากกว่าปกติ

ผลข้างเคียงของยาทรามาดอล

เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 1.  “ทรามาดอล (Tramadol)”.  (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).  หน้า 228-229.
  2. Drugs.com.  “Tramadol”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.drugs.com.  [03 พ.ย. 2016].
  3. หาหมอดอทคอม.  “ยาทรามาดอล (Tramadol)”.  (ภก.อภัย ราษฎรวิจิตร).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : haamor.com.  [03 พ.ย. 2016].
  4. ยากับคุณ (Ya & You), มูลนิธิเพื่อการวิจัยและพัฒนาระบบยา (วพย.).  “TRAMADOL HYDROCHLORIDE”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.yaandyou.net.  [03 พ.ย. 2016].
  5. Siamhealth.  “ยาแก้ปวด Tramadol”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.siamhealth.net.  [03 พ.ย. 2016].
  6. ภาควิชาเภสัชวิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.  “ทรามาดอล (Tramadol) เหยื่อของการนำยาไปใช้ในทางที่ผิด”.  (รศ.ภญ.ดร.จุฑามณี สุทธิสีสังข์).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.pharmacy.mahidol.ac.th.  [03 พ.ย. 2016].
  7. หน่วยคลังข้อมูลยา, คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.  “Tramadol ภัยร้ายที่คุณไม่รู้”.  (นศภ.ธีระภัทร ตั้งพูนทรัพย์).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.pharmacy.mahidol.ac.th.  [03 พ.ย. 2016].
  8. กองควบคุมวัตถุเสพติด, สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา.  “ข้อมูลวิชาการและการนำมาใช้ในทางที่ผิดของ Tramadol”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : narcotic.fda.moph.go.th.  [03 พ.ย. 2016].

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 ทรามาดอล
  • 2 ตัวอย่างยาทรามาดอล
  • 3 รูปแบบยาทรามาดอล
  • 4 สรรพคุณของยาทรามาดอล
  • 5 กลไกการออกฤทธิ์และการเสพติดยาทรามาดอล
  • 6 ก่อนใช้ยาทรามาดอล
  • 7 ข้อห้าม/ข้อควรระวังในการใช้ยาทรามาดอล
  • 8 วิธีใช้ยาทรามาดอล
  • 9 คำแนะนำในการใช้ยาทรามาดอล
  • 10 การเก็บรักษายาทรามาดอล
  • 11 เมื่อลืมรับประทานยาทรามาดอล
  • 12 ผลข้างเคียงของยาทรามาดอล
  • 13 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ