ตัดไหม วิธีการและข้อควรระวัง

ตัดไหมเป็นขั้นตอนทางการแพทย์หลังบาดเจ็บจนแพทย์ต้องเย็บปิดแผล หลายคนอาจสงสัยว่าหลังจากเย็บแผลเสร็จแล้วต้องพักฟื้นนานแค่ไหนจึงจะตัดไหมได้ การตัดไหมมีขั้นตอนอย่างไร สามารถทำด้วยตนเองที่บ้านได้หรือไม่ ซึ่งการศึกษาข้อมูลต่อไปนี้จะช่วยไขข้อข้องใจต่าง ๆ ได้

1518 ตัดไหม Resized

การเย็บปิดบาดแผล 

เมื่อเกิดแผล แพทย์อาจพิจารณาเย็บแผลโดยใช้ด้ายหรือไหมเย็บบริเวณที่มีการฉีกขาดของผิวหนัง ซึ่งแพทย์จะใช้เข็มปักลงบนผิวหนังหรือเนื้อที่จะเย็บแล้วผูกด้ายเป็นปมเมื่อเย็บแผลเสร็จ เพื่อป้องกันแผลเปิดจนกว่าแผลจะสมานตัว

ส่วนวัสดุที่ใช้ในการเย็บแผลมีหลายชนิดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเส้นใยไนลอน ไหม และไหมละลายที่สามารถสลายได้ด้วยเอนไซม์ในร่างกาย โดยไหมละลายนั้นเป็นชนิดที่นิยมนำมาใช้เย็บแผลบริเวณใบหน้า ริมฝีปาก หรือแผลภายในช่องปาก

ตัดไหมได้เมื่อไหร่ ? 

โดยปกติแล้ว การตัดไหมสามารถทำได้เมื่อครบ 7-14 วันหลังการเย็บแผล ซึ่งขึ้นอยู่กับบริเวณที่บาดเจ็บและความแน่นของการเย็บแผลด้วย หากแผลที่มีการฉีกขาดเกิดบริเวณหัวเข่าก็อาจต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานานกว่าแผลบริเวณต้นขา เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีการเคลื่อนไหวมากจึงทำให้แผลสมานตัวช้า ส่วนแผลบริเวณใบหน้านั้น แพทย์อาจตัดไหมภายใน 5 วันหลังการเย็บแผล เนื่องจากเลือดไหลเวียนได้ดีจึงทำให้บาดแผลหายเร็วขึ้น ทั้งนี้ หลังจากเย็บแผลประมาณ 7-8 วัน อาจมีรอยแผลเป็นคล้ายรอยเย็บปรากฏรอบ ๆ ไหมเย็บแผล และแพทย์อาจพิจารณาเวลาที่เหมาะสมเพื่อตัดไหมออกเป็นกรณีไป

ตัดไหมทำอย่างไร ?

ขั้นตอนของการตัดไหม มีดังนี้

ตัดไหมด้วยตัวเองได้ไหม ปลอดภัยหรือไม่ ? 

การตัดไหมนั้นไม่ควรทำด้วยตนเอง เพราะหากตัดไหมไม่ถูกวิธีหรือตัดไหมก่อนเวลาที่เหมาะสมอาจทำให้แผลแยก เกิดการติดเชื้อ และอาจเกิดรอยแผลเป็นได้ ดังนั้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตัดไหมเย็บแผลออก โดยแพทย์จะสังเกตสัญญาณการติดเชื้อและตรวจดูว่าแผลมีความผิดปกติหรือไม่ หากแพทย์พบว่าแผลหายช้าก็อาจจำเป็นต้องเย็บแผลซ้ำอีกครั้งเพื่อช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

หลังตัดไหม ดูแลแผลอย่างไร ? 

หลังตัดไหมออกแล้ว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังต่อไปนี้

สังเกตอาการอันตรายหลังตัดไหม 

หากมีข้อสัยเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วย หรือมีอาการต่าง ๆ เกิดขึ้นหลังตัดไหม ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา เช่น

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากพบอาการที่รุนแรงหลังตัดไหม ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เช่น