ตะเคียนทอง สรรพคุณและประโยชน์ต้นตะเคียนทอง 28 ข้อ

ต้นตะเคียน

ตะเคียนทอง ชื่อสามัญ Iron wood, Malabar iron wood, Takian, Thingan, Sace, Takian

ตะเคียนทอง ชื่อวิทยาศาสตร์ Hopea odorata Roxb. จัดอยู่ในวงศ์ยางนา (DIPTEROCARPACEAE)[1],[3],[5]

สมุนไพรตะเคียนทอง มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ตะเคียน ตะเคียนทอง ตะเคียนใหญ่ (ภาคกลาง), จะเคียน (ภาคเหนือ), แคน (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), ไพร (ละว้า เชียงใหม่), กะกี้ โกกี้ (กะเหรี่ยง เชียงใหม่), จูเค้ โซเก (กะเหรี่ยง กาญจนบุรี), จืองา (มลายู-นราธิวาส) (บางข้อมูลระบุมีชื่ออื่นว่า กากี้, เคียน) เป็นต้น[1],[3],[5]

ลักษณะของต้นตะเคียน

ตะเคียนทองต้นตะเคียนทอง

ใบตะเคียน

ใบตะเคียนทอง

ดอกตะเคียน

ดอกตะเคียนทอง

ลูกตะเคียนทอง

ผลตะเคียน

สรรพคุณของตะเคียนทอง

  1. แก่นมีรสขมอมหวาน ช่วยแก้โลหิตและกำเดา (แก่น)[3],[4],[7],[8]
  2. ช่วยคุมธาตุ (เนื้อไม้)[10] ปิดธาตุ (แก่น,ยาง)[10]
  3. ช่วยแก้ไข้สัมประชวรหรือไข้ที่เกิดมาจากหลายสาเหตุ และมักมีอาการแสดงที่ตา เช่น แดง เหลือง หรือขุ่นคล้ำ เป็นต้น (แก่น)[4],[7],[8]
  4. แก่นไม้ตะเคียนใช้ผสมกับยารักษาทางเลือดลม กษัย (แก่น)[1],[5]
  5. ช่วยแก้อาการลงแดง (เปลือกต้น)[8],[9]
  6. ช่วยขับเสมหะ (แก่น)[3],[4],[7],[8]
  7. เปลือกต้นนำมาต้มกับเกลือ ใช้อมช่วยป้องกันฟันหลุดเนื่องจากกินยาเข้าปรอท (เปลือกต้น)[1],[5]
  8. ช่วยแก้อาการปวดฟัน แก้เหงือกบวม (แก่น)[10]
  9. ช่วยแก้อาการเหงือกอักเสบ (เปลือกต้น)[8],[9]
  10. ช่วยฆ่าเชื้อโรคในปาก (เปลือกต้น)[8],[9]
  1. ช่วยแก้บิดมูกเลือด (เปลือกต้น)[8],[9]
  2. ช่วยแก้อาการท้องร่วง (แก่น, เนื้อไม้)[10]
  3. ช่วยแก้อาการท้องเสีย (ยาง)[10]
  4. ช่วยห้ามเลือด (เปลือกต้น, เนื้อไม้)[5],[8],[9]
  5. ใช้เป็นยาสมานแผล (เปลือกต้น)[8],[9]
  6. เปลือกต้นนำมาต้มกับน้ำใช้ชะล้างรักษาบาดแผลเรื้อรัง (เปลือกต้น)[1]
  7. ช่วยแก้อาการอักเสบ (เปลือกต้น, เนื้อไม้)[5],[8],[9]
  8. ยางใช้ผสมกับน้ำใช้ทารักษาบาดแผล หรือจะทำเป็นยางแห้งบดเป็นผงใช้รักษาบาดแผล (ยาง)[1],[4],[7],[8] บ้างว่าใช้รักษาไฟไหม้และน้ำร้อนลวก (ยาง)[10]
  9. เปลือกเนื้อไม้มีฤทธิ์เป็นยาปฏิชีวนะ ใช้ฆ่าเชื้อโรค (เปลือกต้น, เนื้อไม้)[8],[9]
  10. ยางจากไม้ตะเคียนเมื่อนำมาบดเป็นผง สามารถใช้เป็นยารักษาช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด เช่น ใช้ทำยาหม่องเพื่อช่วยบรรเทารักษาบาดแผลหรือบริเวณที่มีอาการฟกช้ำตามร่างกาย (ยาง)[6]
  11. ช่วยรักษาคุดทะราด (แก่น)[3],[4],[7],[8]
  12. ดอกใช้เข้าในตำรับยาเกสรร้อยแปด ใช้ผสมเป็นยาทิพย์เกสร (ดอก)[1],[5]
  13. ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของตะเคียนทอง มีข้อมูลระบุว่ามีฤทธิ์แก้แพ้ ต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และยีสต์[10]

ประโยชน์ตะเคียนทอง

  1. ไม้ตะเคียน จัดเป็นไม้ที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจชนิดหนึ่งของประเทศ เพราะเนื้อไม้มีความทนทาน ทนปลวกดี เลื่อย ไสกบ ตกแต่งและชักเงาได้ดีมาก นิยมใช้ในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน เครื่องเรือน หน้าต่าง วงกบประตู ทำพื้นกระดาน ฝ้าหลังคา รั้วไม้ หีบใส่ของ ด้ามเครื่องมือกสิกรรมต่าง ๆ พานท้ายและรางปืน หรือใช้ทำสะพาน ต่อเรือ ทำเรือมาด เรือขุด เรือแคนู เสาโป๊ะ กระโดงเรือ ทำรถลาก ทำหมอนรองรางรถไฟ ตัวถังรถ กังหัน เกวียน หูกทอผ้า ทำไม้ฟืน ฯลฯ ไม้ชนิดนี้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในงานไม้ได้ทุกอย่างที่ต้องการความแข็งแรงทนทาน เหนียวและเด้ง[1],[2],[3]
  2. เปลือกต้นให้น้ำฝาดชนิด Catechol และ Pyrogallol[1]
  3. ชันจากไม้ตะเคียนใช้ทำน้ำมันชักเงาตบแต่งเครื่องใช้ในร่ม ใช้ผสมกับน้ำมันทาไม้ยาแนวเรือ หรือใช้ผสมกับวัสดุอื่น ๆ เพื่อใช้ในงานต่าง ๆ เช่น ใช้สำหรับทาเคลือบเรือเพื่อช่วยรักษาเนื้อไม้และป้องกันเพรียงทำลาย เป็นต้น[1],[5],[6],[8]
  4. ใบตะเคียนมีสารแทนนินอยู่ประมาณ 10% โดยน้ำหนักแห้ง ส่วนในเปลือกต้นก็มีสารประกอบนี้อยู่ด้วยเช่นกัน โดยคุณสมบัติของแทนนินที่ได้จากไม้ตะเคียนทองนี้ เมื่อนำมาใช้ฟอกหนังจะช่วยทำให้แผ่นหนังแข็งขึ้นกว่าเดิม จึงเหมาะกับการนำมาใช้เฉพาะงานได้เป็นอย่างดี[6]
  5. ใช้ปลูกตามป่าหรือตามสวนสมุนไพรเพื่อเป็นไม้บังลม เพื่อให้ร่มเงา และช่วยรักษาสมดุลทางธรรมชาติ เพราะไม้เป็นไม้ไม่ผลัดใบพร้อมกัน จึงเป็นไม้ที่ช่วยรักษาความเขียวได้ตลอดปี ช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เป็นอย่างดี[4],[5],[6]

ไม้ตะเคียน

เอกสารอ้างอิง
  1. สวนพฤกษศาสตร์ ตามพระราชเสาวนีย์ฯ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช.  “ตะเคียนทอง”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.dnp.go.th.  [19 ม.ค. 2014].
  2. ฐานข้อมูลพรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.  “ตะเคียนทอง”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.qsbg.org.  [19 ม.ค. 2014].
  3. สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี.  “ตะเคียน”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.rspg.or.th.  [19 ม.ค. 2014].
  4. ระบบฐานข้อมูลทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชน สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน).  “ตะเคียนทอง”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.bedo.or.th.  [19 ม.ค. 2014].
  5. สำนักงานสวนสาธารณะ สำนักสิ่งแวดล้อม.  “ตะเคียนทอง”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: 203.155.220.217/office/ppdd/publicpark/thai/2011/.  [19 ม.ค. 2014].
  6. ส่วนปลูกป่าภาคเอกชน สำนักส่งเสริมการปลูกป่า กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.  “ตะเคียนทอง”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.forest.go.th.  [19 ม.ค. 2014].
  7. อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.  “ตะเคียนทอง”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.pharmacy.mahidol.ac.th.  [19 ม.ค. 2014].
  8. ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.  “ตะเคียนทอง”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.phargarden.com.  [19 ม.ค. 2014].
  9. หนังสือสมุนไพรไทย เล่ม 1.  “ตะเคียนทอง (Ta Khian Tong)”.  (ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, ธวัชชัย มังคละคุปต์).  หน้าที่ 122.
  10. ตะเคียนทอง”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.thongthailand.com.  [19 ม.ค. 2014].

ภาพประกอบ : www.flickr.com (by Terentang, Teo Siyang, alantankenghoe, Chatchai Powthongchin, Vuon Hoa 03), เว็บไซต์ baanmaha.com (by หนุ่มลาวสาวขะแมร์), เว็บไซต์ phargarden.com (by Sudarat Homhual)

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 ต้นตะเคียน
  • 2 ลักษณะของต้นตะเคียน
  • 3 สรรพคุณของตะเคียนทอง
  • 4 ประโยชน์ตะเคียนทอง
  • 5 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ