ซาก สรรพคุณและประโยชน์ของต้นซาก 10 ข้อ (พันซาด)

ซาก

ซาก ชื่อวิทยาศาสตร์ Erythrophleum succirubrum Gagnep. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Erythrophleum teysmannii var. puberulum Craib)[1] จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) และอยู่ในวงศ์ย่อยราชพฤกษ์ (CAESALPINIOIDEAE หรือ CAESALPINIACEAE)[4],[5]

สมุนไพรซาก มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ผักฮาก (ภาคเหนือ), ชาด พันชาด ไม้ชาด ซาด พันซาด (ภาคอีสาน), ตะแบง (อุดรธานี), ซาก คราก (ชุมพร), ตร้ะ (ส่วย-สุรินทร์), เตรีย (เขมร-สุรินทร์) เป็นต้น[1],[2],[3],[4]

ลักษณะของต้นซาก

พันซาด

พันซาก

ซาด

ซาก

สรรพคุณของซาก

  1. เนื้อไม้นำมาเผาให้เป็นถ่านแล้วบดให้เป็นผง ใช้ปรุงเป็นยาแก้โรคเกี่ยวกับเด็กได้ดี (ถ่าน)[1]
  2. ช่วยดับพิษตานซาง (ถ่าน)[4]
  3. ถ่านที่ได้จากการเผาเนื้อไม้มีสรรพคุณเป็นยาแก้พิษไข้ แก้อาการเซื่องซึม [1] หรือใช้ปรุงผสมกับสมุนไพรชนิดอื่นเป็นยาแก้พิษไข้ เซื่องซึม (ถ่าน)[3]
  4. ต้นมีสรรพคุณเป็นยาแก้ไข้ที่มีพิษร้อน กระสับกระส่าย และช่วยแก้ไข้เซื่องซึม (ต้น)[4]
  5. ช่วยแก้ไข้สันนิบาต (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[4]
  6. ช่วยดับพิษโลหิต (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[4]
  7. ใช้เป็นยาแก้โรคผิวหนัง (ถ่าน)[4]

ข้อควรระวัง : ทุกส่วนของต้นซากมีรสเมาและมีพิษมาก กระพี้ เนื้อไม้ แก่น ราก และใบ หากนำมารับประทานเดี่ยวแบบชนิด ๆ หรือต้มกับน้ำดื่มก็อาจทำให้เสียชีวิตได้ ดังนั้นก่อนนำมาปรุงเป็นยาจึงต้องนำเนื้อไม้มาเผาให้เป็นถ่านก่อนเสมอ เพื่อทำลายพิษให้หมดไป และด้วยความเป็นพิษของต้นซากนี่เอง บรรดามิจฉาชีพในสมัยก่อนจึงได้นำเอาไปใช้ในทางที่ไม่ดี เลยทำให้ต้นซากไม่เป็นที่นิยมในการปลูกและหาได้ยากมากในปัจจุบัน[3]

ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของซาก

ประโยชน์ของซาก

  1. เนื้อไม้เมื่อนำมาเผาให้เป็นถ่านจะให้ไฟแรงได้ดี หรือที่เรียกกันว่า “ถ่านทำทอง[1] ชาวบ้านชนบทในสมัยก่อนจะนิยมตัดเอาต้นซากไปเผาทำถ่านบรรจุกระสอบขาย ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้ซื้อกันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นถ่านที่ให้แรงและไม่มอดง่ายนั่นเอง[3]
  2. เนื้อไม้ยังสามารถนำไปใช้ทำหมอนรองรางรถไฟ ทำเสาอาคารบ้านเรือน เสาเข็ม ลอด ตง ขื่อ พื้นกระดาน เพลาเกวียน ฯลฯ เนื่องจากเนื้อไม้มีความทนทานและแข็งแรงมาก[3] ส่วนแก่นนิยมนำมาใช้ทำด้ามขวานหรือเครื่องมือทางการเกษตร[4]
  3. ต้นซากสามารถนำมาปลูกเพื่อเป็นไม้อนุรักษ์หรือปลูกเพื่อฟื้นฟูสภาพป่า และจะช่วยรักษาหน้าดินได้ดีมาก เพราะเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่[3]

ข้อควรระวัง : เนื่องจากพืชชนิดนี้มีพิษร้ายแรง จึงห้ามนำมาทำเขียง หากมีเห็ดที่คนกินได้งอกบนขอนไม้หรือต้นของพืชชนิดนี้ เห็ดก็จะมีพิษตามไปด้วย จึงห้ามนำมารับประทาน

พิษของต้นซาก

เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5.  (ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม).  “ซาก”.  หน้า 280-281.
  2. ระบบวินิจฉัยและการรักษาอาการอันเนื่องจากพืชพิษในประเทศไทย, สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.  “หูปลาช่อน”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.medplant.mahidol.ac.th/tpex/.   [14 ก.ย. 2014].
  3. ไทยรัฐออนไลน์.  (นายเกษตร).  “ซาก กับที่มาชื่อประโยชน์และโทษ”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.thaicrudedrug.com.  [14 ก.ย. 2014].
  4. ศูนย์ปฏิบัติการโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช.  “ซาก, ชาด, พันชาด”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.goldenjubilee-king50.com.  [14 ก.ย. 2014].
  5. โครงการจัดทำฐานข้อมูลพืชสมุนไพรที่สำรวจและวิจัยภายใต้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.), มหาวิทยาลัยขอนแก่น.  “พันซาด”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : home.kku.ac.th/orip2/thaiherbs/.  [14 ก.ย. 2014].

ภาพประกอบ : pg.pharm.su.ac.th, www.htp.ac.th, www.medplant.mahidol.ac.th, home.kku.ac.th

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 ซาก
  • 2 ลักษณะของต้นซาก
  • 3 สรรพคุณของซาก
  • 4 ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของซาก
  • 5 ประโยชน์ของซาก
  • 6 พิษของต้นซาก
  • 7 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ