ฉีดสิว ทางเลือกรักษาผิวพรรณ

สิวเป็นปัญหาผิวพรรณที่ทำให้หลายคนรู้สึกกังวลและขาดความมั่นใจได้ การฉีดสิวเป็นวิธีหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยมและมีให้บริการตามสถานเสริมความงามหลายแห่ง เพราะช่วยรักษาสิวและปัญหาผิวพรรณอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำง่าย และค่อนข้างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม การฉีดสิวนั้นใช้ยาในกลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid) ฉีดเข้าไปในผิวหนังบริเวณที่เกิดสิว ซึ่งยาชนิดนี้มีข้อจำกัดในการใช้สำหรับผู้ที่กำลังใช้ยารักษาโรคบางอย่างหรือมีปัญหาสุขภาพบางประการ และอาจมีผลข้างเคียงจากการใช้ หากต้องการฉีดสิวจึงควรปรึกษาแพทย์และศึกษาข้อมูลโดยละเอียด ตลอดจนเรียนรู้วิธีดูแลผิวหลังเข้ารับการฉีดสิวอย่างถูกต้อง เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการรักษาอย่างสูงสุด

ฉีดสิว

ทำไมต้องฉีดสิว 

การฉีดสเตียรอยด์สามารถนำมาใช้รักษาปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับผิวหนังหลายอย่าง เช่น แผลเป็นคีลอยด์ แผลเป็นนูน โรคสะเก็ดเงินหรือปัญหาผิวหนังอักเสบอื่น ๆ ส่วนการฉีดสเตียรอยด์สำหรับรักษาสิวนั้นจะใช้กับปัญหาสิวชนิดรุนแรงอย่างสิวซีสต์ ซึ่งมีลักษณะเป็นตุ่มนูนหรือซีสต์ขึ้นตามใบหน้า หน้าอก และหลัง มีทั้งแบบที่อักเสบและไม่อักเสบ และมักมีรอยแผลเป็นของสิวเกิดขึ้นตามมา พบได้ในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง นอกจากนี้ สิวซีสต์อาจเกิดขึ้นในลักษณะสิวหัวแข็งขนาดใหญ่หรือสิวหัวช้างที่ก่อให้เกิดโพรงฝีในผิวหนัง ส่งผลให้รอยแผลหนาตัว กลายเป็นสิวอุดตันขนาดใหญ่ หรือเป็นก้อนซีสต์ที่มีหนอง โดยมักเกิดกับผู้ที่มีปัญหารูขุมขนอุดตันหรือเป็นโรคทางพันธุกรรมบางชนิด

เตรียมตัวก่อนฉีดสิวอย่างไร

ผู้ที่มีสิวซีสต์และต้องการฉีดสเตียรอยด์ควรเตรียมตัวดังนี้

ฉีดสิวมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

การฉีดสเตียรอยด์สำหรับรักษาปัญหาสิวมีขั้นตอนในการฉีด ดังนี้

ดูแลตัวเองหลังฉีดสิวอย่างไร

ผู้ที่เข้ารับการฉีดสิวบางรายอาจเกิดรอยแดงหรือรู้สึกอุ่น ๆ บริเวณที่ฉีดยา ส่วนผู้ป่วยโรคเบาหวานอาจมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นชั่วคราว เพื่อบรรเทาผลข้างเคียงจากการฉีดสิวจึงควรดูแลตัวเอง ดังนี้           

ผลข้างเคียงจากการฉีดสิวมีอะไรบ้าง

ผู้ที่เข้ารับการฉีดสเตียรอยด์สำหรับรักษาสิวเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงได้ ดังนี้

ใครที่ไม่เหมาะกับการฉีดสิว

การฉีดสเตียรอยด์อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงหรือส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพบางประการได้ บุคคลต่อไปนี้ควรเลี่ยงการฉีดสิว