จิตวิทยาในชีวิตประจำวัน - ภาคที่ 4 จิตวิทยาผู้สูงวัย ตอนที่ 119 สรุปภาพรวมความทรงจำ (3)

26 กรกฎาคม 2017
จิตวิทยาผู้สูงวัย-119

ยังมีอีกการศึกษาหนึ่งที่โต้แย้งว่า การทดแทนทางประสาท (Neural representation) มีความเด่นชัด (Distinctive) ในผู้ใหญ่สูงวัยเมื่อมีความต้องการต่ำในงาน [ความทรงจำ] (Low-task demand) มากกว่าเมื่อมีความต้องการสูงในงาน [ความทรงจำ] เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังนี้ ก็คือการสูญเสียเซลล์สมองและการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ประสาทที่ยังอยู่รอด (Surviving neuron) ในการรับมือกับ (Handle) การสูญเสียนี้

การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างประสาทเคยถูกละเลยไป แต่ปัจจุบันเป็นที่รับรู้กันว่าโครงสร้างสมองสามารถปั้นแต่งได้ (Plastic) แม้ในเวลาต่อมาของชีวิต ตัวอย่างเช่น นักวิจัยสาธิตให้เห็นว่า การฝึกฝนอย่างครอบคลุมและยาวนาน (Extensive) ในงานที่เกี่ยวกับความทรงจำ (จำนวน 101 ครั้ง [Session] ครั้งละชั่วโมง ในเวลา 180 วัน) ส่งผลให้สสารสีขาว (White matter) ในกลุ่มประสาทใต้สมอง (Corpus callosum) เจริญเติบโตขึ้น ในขอบเขต (Extent) เดียวกันของทั้งผู้ใหญ่เยาว์วัยกับสูงวัย

นี่แสดงถึงการปั้นแต่งได้ที่ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ (Experience-dependent plasticity) (กล่าวคือ การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างสมองต่อการเปลี่ยนแปลงของการปฏิบัติทางจิตใจ) จะยังคงอยู่รอดถึงวัยชรา ดังนั้นโครงสร้างประสาทของสมอง มิได้คงอยู่อย่างเหนียวแน่น (Rigidly fixed) ในเวลาต่อมาของชีวิต

นักวิจัยโต้แย้งว่า ขณะที่สมองในวัยชราสูญเสียเซลล์ และการเชื่อมโยง (Interconnection) ระหว่างเซลล์ที่อยู่รอด เสื่อมถอยลง เซลล์ประสาท (Neuron) ต้องได้รับการกระตุ้น (Activated) จึงจะรับมือกับงาน [ความทรงจำ] ขั้นพื้นฐานได้ เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ใหญ่เยาว์วัย แต่เมื่อความต้องการงาน [ความทรงจำ] สูงขึ้น เซลล์ประสาทเก่าปราศจากจำนวนและพลังประมวล (Processing power) อย่างเพียงพอ ในการรับมืออย่างมีประสิทธิผล จึงมีการเปลี่ยนแปลงจนเห็นเด่นชัด

กล่าวคือ การเปลี่ยนแปลงความทรงจำในเวลาต่อมาของชีวิต อาจเป็นผลลัพธ์จากสมองชราภาพที่ทดแทน (Compensate) ความสูญเสีย โดยการดึงมาใช้ซึ่งทรัพยากร (Draw resources) เท่าที่จะสามารถรวบรวมได้ (Muster) นี่เป็นสิ่งที่เพียงพอสำหรับภาระ (Load) ต่ำของงาน [ความทรงจำ] แต่เป็นพลัง (Force) ที่ไม่เพียงพอในภาระสูงของงาน [ความทรงจำ]

นักวิจัยยังพบว่า เพื่อชดเชย (Offset) เซลล์ประสาทที่เสื่อมลง สมองได้ดึงทรัพยากรอื่นๆ มาช่วย อาทิ การมีส่วนร่วมทางสังคม (Social engagement) นำมาซึ่งรูปแบบ (Model) จำนวนมากของกระบวนการทางประสาทในวัยชรา ภายในสาขาวิชาจิตวิทยาชราภาพ (Gero-psychology) อาทิ ข้อสมมุติฐานของการชะลอโดยทั่วไป (General slowing hypothesis) รวมกับ (Combine) รูปแบบอื่นๆ อาทิ การทดแทน ทำให้เป็นทฤษฎีบูรณาการ (Integrated theory) ที่หวัง (Promise) จะอธิบายการรับรู้ในวัยชรา (Cognitive aging) โดยเป็นกระบวนการที่ส่วนประกอบต่างๆ ทำงานอย่างมีปฏิสัมพันธ์ในองค์รวม(Interactive whole) แต่ความสำคัญของส่วนประกอบที่แตกต่างกันอาจแปรผัน (Vary) ไปตามแต่ละบุคคล

แหล่งข้อมูล:

  1. Stuart-Hamilton, Ian. (2012). The Psychology of Ageing (5th Ed). London, UK: Jessica Kingsley Publishers.
  2. Memory and aging [2017, July 18].