จิตวิทยาในชีวิตประจำวัน – ภาคที่ 3 จิตวิทยาผู้ใหญ่ตอนที่ 119 ประสาทการดมกลิ่น (2)

23 กรกฎาคม 2017
จิตวิทยาผู้ใหญ่-119

เมื่อเราหายใจ อากาศปริมาณน้อยจะเข้าถึงพื้นผิวส่วนบนสุดของเส้นทางจมูก อันเป็นที่อยู่ของตัวรับประสาทดมกลิ่น (Olfaction receptor) แม้ว่าเซลล์การดมกลิ่น อาจเปลี่ยนโมเลกุลที่ประทุง่าย (Volatile molecule) ให้กลายเป็นสิ่งเร้า (Impulse) แต่เราจะไม่ได้กลิ่นจริงๆ จนกว่าสิ่งเร้าประสาท (Neural) จะเดินทางถึงสมอง

ขั้นตอนต่อไป คือประสาทความรู้สึก (Sensation) และความทรงจำ (Memory) สิ่งเร้าประสาทจากเซลล์การดมกลิ่น จะเดินทางในเบื้องต้น ไปยังหลอดการดมกลิ่น (Olfaction bulb) ซึ่งเป็นอาณาบริเวนเล็กๆ ที่มีรูปร่างเหมือนองุ่น (Grape-shaped) อันอยู่เบื้องบนโดยตรงของเซลล์การดมกลิ่น ณ เบื้องล่างของสมอง จากนั้น สิ่งเร้าจะส่งต่อ (Relay) ไปยังเยื่อหุ้มสมองหลักของประสาทการดมกลิ่น (Primary olfaction or piriform cortex) ซึ่งอยู่ใต้ (Beneath) สมองเปลือกนอก โดยแปลงโฉม (Transform) สิ่งเร้าประสาท ให้กลายเป็นประสาทความรู้สึกของการดมกลิ่น (Olfaction sensation) ในตัวเสนียด (Skunk) หรือความหอมหวานของน้ำหอม (Sweet perfume)

แม้ว่าเราจะสามารถแยกแยะ (Identify) กลิ่น (Odor) ที่แตกต่างกันในจำนวนมากถึง 10,000 ชนิด แต่ในไม่ช้า เราก็จะหยุดดมเครื่องดับกลิ่น (Deodorant) หรือน้ำหอม อันเนื่องจากการปรับตัว (Adaptation) ของจมูกเราในการดมกลิ่น อันที่จริง กลิ่นเป็นวิวัฒนาการแต่ดั้งเดิมของประสาทสัมผัส (Primitive sense) และมีหน้าที่สำคัญมากทีเดียว

ในขั้นตอนสุดท้าย หน้าที่หนึ่งของการดม คือการเพิ่มความเข้มข้น (Intensify) ของรสชาติอาหาร ตัวอย่างเช่น เราจะไม่สามารถบอกว่าขนมหวานใส่ชะเอม (Licorice) ว่าแตกต่างจากถั่ววุ้นรสส้ม (Orange jelly bean) อย่างไร หากเราปิดจมูก อีกหน้าที่คือการเตือนเราในเรื่องอาหารที่อาจเป็นอันตราย (Potentially dangerous) อาทิ กลิ่นฉุน (Repulsive) ของอาหารที่บูดเน่า (Spoiled or rotten) หน้าที่สุดท้าย และเพิ่งมีการค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ ก็คือกลิ่นที่เตือนความทรงจำอย่างแรงกล้า (Elicit strong memory) ที่มักจะสัมพันธ์ (Associated) กับอารมณ์ความรู้สึก ตัวอย่างเช่น กลิ่นของขนมพายฟักทอง (Pumpkin pie) อาจเตือนให้เราระลึกถึงงานสังสรรค์ของครอบครัวในเทศกาล (Festive gathering)

โซเฟีย กรอจส์แมน (Sophia Grojsman) เป็น 1 ในจำนวนน้อยคนที่เชี่ยวชาญการดมกลิ่นน้ำหอม (Master perfumer) ในสหรัฐอเมริกา เธอได้สร้างนานาน้ำหอมอันมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก อาทิ แคลวิน ไคลน์ (Calvin Klein) และ เอสเต้ ลอเด้อ (Estee Lauder) จนมีรายได้ปีละหลายแสนเหรียญสหรัฐ เพราะยังไม่มีจมูกคอมพิวเตอร์ (Computerized nose) ใดที่สามารถทดแทนจมูกมนุษย์ได้ อันที่จริงนักวิทยาศาสตร์เพิ่งจะเริ่มต้นเข้าใจส่วนประกอบ (Combination) ของคุณสมบัติของโมเลกุล และตัวรับการดมกลิ่น ที่กำหนดกลิ่นหอม (Fragrance) ซึ่งแตกต่างกันกว่า 10,000 ชนิด เท่าที่มนุษย์จะสามารถดมได้

แหล่งข้อมูล:

  1. Plotnik Rod. (2002). Introduction to Psychology (6th Ed). Pacific Grove, CA: Wadsworth -Thompson Learning.
  2. Olfaction [2017, July 22].