จัดฟัน 23 ข้อดี-ข้อเสียของการจัดฟัน 9 วิธีการจัดฟัน

จัดฟัน

การจัดฟัน (Orthodontic) คือ สาขาหนึ่งทางทันตกรรมที่แยกเฉพาะทางออกมาเพื่อวินิจฉัย ป้องกัน และรักษาความผิดปกติของการขึ้นของฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องเหมาะสมและมีระบบบดเคี้ยวดีขึ้น รวมทั้งการรักษา โดยจะเป็นการใช้เครื่องมือจัดฟันเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันและสบฟันผิดปกติ ดูไม่สวยงาม ดูไม่เป็นระเบียบ รวมถึงโครงสร้างและรูปร่างของใบหน้า เช่น หน้าอูม คางยื่น ให้มีโครงสร้างและรูปร่างใบหน้าที่ดีและสวมงามขึ้น ซึ่งเครื่องมือจัดฟันที่ใช้จะช่วยเคลื่อนฟันไปยังตำแหน่งที่เหมาะสมได้ เพื่อประโยชน์ในด้านสุขภาพช่องปากและฟัน และเพื่อบุคลิกภาพที่ดีขึ้นของผู้จัดฟัน สามารถทำได้ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดจะอยู่ในช่วงอายุประมาณ 10-14 ปี เนื่องจากร่างกายกำลังเจริญเติบโต ฟันจึงเคลื่อนที่ได้ง่าย

ข้อดีของการจัดฟัน

  1. เพื่อความสวยงามและเพื่อบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ฟันดูสวยงาม ยิ้มสวยมากขึ้น ยิ่งในยุคนี้ไม่ว่าจะทำงานอะไรก็ล้วนแล้วแต่มีเกณฑ์การคัดเลือกในเรื่องของบุคลิกกันทั้งสิ้น ผู้ที่มีบุคลิกที่ดีกว่าย่อมมีโอกาสได้รับการคัดเลือกมากกว่า การมีรอยยิ้มที่สวยงามจะทำให้เจ้าของรอยยิ้มมีบุคลิกที่ดี กล้าแสดงออก และมีเสน่ห์ ทำให้อยู่ในสภาวะสังคมปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูง ๆ ได้อย่างมีคุณภาพ การจัดฟันจึงถือเป็นเรื่องที่น่าลงทุนเพื่ออนาคตที่ดีกว่าของคุณ
  2. เพื่อให้ฟันทำหน้าที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มีการสบฟันที่ดีขึ้น และเคี้ยวอาหารได้ดีกว่าเดิม
  3. เพื่อสุขภาพที่ดีของช่องปากและฟัน เพราะหากมีปัญหาฟันซ้อนเก ฟันยื่น ฯลฯ จะทำให้การทำความสะอาดฟันเป็นไปอย่างไม่ทั่วถึง และมักเกิดปัญหาฟันผุตามมา เมื่อจัดฟันให้เข้าที่เข้าทางแล้ว การทำความสะอาดก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามไปด้วย จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุและเหงือกอักเสบได้
  4. ช่วยลดการมีกลิ่นปาก เนื่องจากการแปรงฟันไม่สะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ฟันเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ การจัดฟันอาจช่วยลดปัญหากลิ่นปากได้เป็นอย่างดี
  5. บางคนจัดฟันแล้วนิสัยรักษาความสะอาดและความมีระเบียบวินัยจะมีมากขึ้นจนติดเป็นนิสัย
  6. ในบางรายจัดแล้วโครงหน้าอาจเข้ารูปและดูดีมากขึ้น หรือหน้าดูเรียวมากขึ้น
  7. การจัดฟันเป็นแฟชั่นที่ทำแล้วดูไม่น่าเกลียด จัดแล้วดูน่ารัก และช่วยเพิ่มจุดเด่นให้คนอื่นจำเราได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
  8. ช่วยดัดนิสัยการรับประทานอาหารทางอ้อม จัดฟันแล้วนึกจะกินอะไรก็กินได้เลยเหมือนแต่ก่อนคงทำไม่ได้แล้ว
  9. ในผู้ที่มีปัญหาเรื่องฟันห่างหรือฟันมีลักษณะการสบฟันหน้าแบบสบเปิด (กัดเส้นก๋วยเตี๋ยวไม่ขาด) หลังจัดฟันเสร็จแล้ว จะช่วยให้มีการออกเสียงพูดได้ถูกต้องและชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะเสียง “ส.เสือ”

ข้อเสียของการจัดฟัน

  1. การจัดฟันไม่ว่าแบบถูกหรือแพง แต่ยังไงก็แพงอยู่ดี
  2. ในบางรายต้องถอนฟัน (สมบูรณ์) ออกไปหลายซี่
  3. ปากห้อยมากขึ้น (อมเหล็ก) ในช่วงแรก ๆ จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่รูปปากของแต่ละคนด้วย
  4. เจ็บมาก เจ็บน้อย ขึ้นอยู่กับวิธีการจัดฟันที่เลือก แต่ยังไงก็เจ็บอยู่แล้ว จะเจ็บตอนถอนฟัน ดึงลวด หรือลวดบาดปากก็แล้วแต่กรณี
  5. ใช้เวลานานกว่าฟันจะเริ่มเข้าที่เข้าทางอย่างน้อยประมาณ 2 ปี
  6. ในขณะติดเครื่องมือจัดฟันจะทำความสะอาดฟันได้ยาก และเสี่ยงต่อฟันผุได้ถ้าไม่ดูแล
  7. อาหารอาจติดเหล็กจัดฟันได้บ่อย สำหรับผู้หญิงการพกกระจกติดตัวไว้ตลอดเวลาจะช่วยได้เยอะ
  8. พูดไม่ชัดบ้างในระยะแรกหลังการจัดฟัน
  9. ในกรณีที่จัดฟันด้านนอกแบบธรรมดา หลังแกะเครื่องมือออก ผิวฟันอาจไม่เรียบ
  10. ตอนใส่รีเทนเนอร์ อาจจะน่ารำคาญสุด ๆ สำหรับบางคน ไม่ใส่นาน ๆ ก็ไม่ได้ เพราะฟันจะเคลื่อน ฟันห่างหรือล้ม ไม่แข็งแรง แค่ไม่ใส่วันสองวัน มาใส่อีกทีก็เจ็บจะแย่แล้ว บางคนกับถึงต้องจัดฟันใหม่อีกรอบก็มี
  11. บางทีมันก็เป๊ะเกินไป อย่างบางคนก่อนจัดฟัน มีฟันเกแบบเบี้ยวเสน่ห์ คนเห็นแล้วจำได้ แต่พอจัดเสร็จ ฟันเรียงสวยงาม คนกลับจำหน้าไม่ได้ นี่แหละเสน่ห์ที่หายไป
  12. บางรายอาจรู้สึกว่าฟันอ่อนแอมาก เคี้ยวอะไรแข็ง ๆ ได้ไม่ดีเท่าเดิม
  13. บางรายจัดฟันเสร็จแล้วหน้าดูตอบ
  14. ต้องไปพบทันตแพทย์เป็นประจำ

ขั้นตอนการจัดฟัน

ใครบ้างที่ควรจัดฟัน

มีเพียงทันตแพทย์เท่านั้นที่จะสามารถตัดสินใจได้ว่าคุณควรจัดฟันหรือไม่ โดยวิเคราะห์จากการวินิจฉัยด้วยประวัติการรักษาทางการแพทย์และทันตกรรม แบบพิมพ์ฟันของคุณ และภาพเอกซเรย์ แต่คุณอาจต้องเข้ารับการจัดฟัน หากคุณมีปัญหาดังต่อไปนี้

ระยะเวลาในการจัดฟัน

โดยปกติแล้วการจัดฟันจะใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่ง – 3 ปี แต่ในบางรายอาจใช้เวลานานมากกว่านั้น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความผิดปกติของฟันด้วยว่ามีมากน้อยเพียงใด และขึ้นอยู่กับความร่วมมือจากผู้จัดฟันด้วยเป็นสำคัญ ว่าจะปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ได้อย่างเคร่งครัดเพียงใด มาพบทันตแพทย์ตามนัดสม่ำเสมอหรือไม่ ในช่วงเข้ารับการรักษา ทันตแพทย์จะทำการนัดตรวจทุก 1 เดือน เพื่อปรับเครื่องมือ และตรวจผลการรักษาเป็นระยะ ๆ (สำหรับการจัดฟันแบบปกติ)

ต้องถอนฟันก่อนจัดฟันหรือไม่

การที่ทันตแพทย์จะพิจารณาว่าควรถอนฟันหรือไม่นั้น จะขึ้นอยู่กับความผิดปกติของคนไข้แต่ละคนว่าสมควรจะถอนหรือไม่ ถ้าต้องถอนฟันจะต้องถอนกี่ซี่ และจะต้องถอนซี่ใดบ้าง ดังนั้นจึงไม่ใช่ทุกคนที่จะต้องถอนฟันก่อนจัดฟันเสมอไป โดยจะมีกรณีไหนบ้างนั้นจะต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยสภาพช่องปาก รูปร่างใบหน้า โครงสร้างกระดูกใบหน้า ฟิล์มเอกซเรย์ แบบหล่อปูนจำลองฟันอย่างละเอียดก่อนการตัดสินใจ

อายุกับการจัดฟัน

อายุเท่าไรจึงควรเริ่มจัดฟันได้ ? อีกหนึ่งคำถามที่ถามกันมากที่สุด จริง ๆ แล้วการจัดฟันไม่ได้มีข้อกำหนดตายตัวว่าควรจะเริ่มจัดฟันได้เมื่อไหร่ เพราะขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของความผิดปกติ แต่โดยทั่วไปแล้วการจัดฟันส่วนใหญ่มักจะเริ่มทำในเด็กที่มีฟันแท้ขึ้นเกือบครบ คือ ในช่วงอายุระหว่าง 10-14 ปี เนื่องจากเป็นช่วงที่เด็กกำลังมีการเจริญเติบโต มีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใบหน้ามากที่สุด ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากการเจริญเติบโตของคนไข้มาช่วยในการรักษาความผิดปกตินั้น แต่ในบางกรณีอาจจะต้องจัดฟันเร็วขึ้น เช่น ในเด็กที่มีความเคยชินที่ไม่ดีบางอย่าง เช่น ชอบดูดนิ้ว ลิ้นดุนฟัน กัดริมฝีปาก หายใจทางปาก แทะเล็บหรือกัดเล็บ เพราะนิสัยเหล่านี้จะมีผลต่อการเรียงตัวของฟันหรือมีผลต่อการเจริญเติบโตของโครงสร้างใบหน้าและขากรรไกรได้ ก็ควรจะเริ่มปรึกษาทันตแพทย์เพื่อแก้ไขอุปนิสัยที่ผิดปกติดังกล่าว ตั้งแต่ในระยะแรกที่ตรวจพบ

อายุมากแล้วจะจัดฟันได้หรือไม่ ? ปกติแล้วการจัดฟันสามารถทำได้เกือบทุกช่วงอายุ แต่การรักษาคนไข้ที่มีอายุมากแล้วหรือประมาณ 30 ปีขึ้นไปนั้น มักจะมีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ ซึ่งจะมีผลต่อการจัดฟันอย่างมาก เช่น โรคปริทันต์ ซึ่งเป็นโรคที่มักจะรุนแรงมากขึ้นตามช่วงอายุ คนไข้ที่เป็นโรคปริทันต์จะต้องรักษาให้หายเสียก่อนถึงจะทำการจัดฟันได้ นอกจากนี้ เมื่อคนไข้มีอายุมากขึ้นก็จะมีอัตราการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้น้อยกว่าคนที่มีอายุน้อย ซึ่งขบวนการการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอนี้เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในการจัดฟัน สรุปก็คือ คนที่มีอายุมาก ๆ ยังสามารถจัดฟันได้อยู่ แต่คนไข้ต้องมีสุขภาพช่องปากที่ดี และระยะเวลาในการจัดฟันจะนานกว่าปกติ ส่วนในรายที่ต้องกระตุ้นหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของขากรรไกรจะทำได้เฉพาะในเด็ก ส่วนในผู้ที่มีอายุมาก ๆ จะทำไม่ได้ครับ

จัดฟันราคาเท่าไร

การจัดฟันจะใช้งบประมาณค่อนข้างสูงอยู่แล้วซึ่งเป็นเรื่องปกติ โดยราคาการจัดฟันจะขึ้นอยู่กับวิธีการหรือเครื่องมือที่ใช้ และสถานที่หรือคลินิกที่รับจัดฟัน ซึ่งก็มีอยู่ด้วยกันหลายแบบหลายวิธี (จะกล่าวถึงในหัวข้อถัดไป) แต่เราสามารถชำระเงินเป็นแบบผ่อนจ่ายได้ครับ เฉพาะค่าจัดฟัน ไม่รวมการถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูนในระหว่างการรักษานะครับ บางที่จ่ายเต็มก็มีส่วนลดด้วยครับ นอกจากนี้ราคายังขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละแห่งด้วยครับ ส่วนนี้ก็ต้องลองไปสอบถามกันเอง

สามารถจัดฟันได้ที่ใดบ้าง

คนไข้สามารถเข้ารับการรักษาได้ที่คลินิก โรงพยาบาลเอกชน หรือโรงพยาบาลของรัฐที่มีทันตแพทย์เฉพาะทาง สาขาทางทันตกรรมจัดฟันประจำอยู่

การดูแลตนเองในขณะจัดฟัน

ในระหว่างทำการจัดฟัน เราควรดูแลทำความสะอาดฟันและช่องปากให้ดีอยู่เสมอ และควรใช้แปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะ เนื่องจากฟันที่ถูกติดเครื่องมือหรืออุปกรณ์จะทำความสะอาดได้ยากกว่าเดิม เพราะอาจมีเศษอาหารเข้าไปติดตามร่องต่าง ๆ ได้ง่าย นอกจากนี้ยังควรงดรับประทานอาหารบางประเภท เช่น อาหารเหนียว ๆ อย่างหมากฝรั่งหรือตังเม อาหารแข็ง ๆ รวมไปถึงอาหารประเภทของหวาน เพราะอาจทำให้ฟันผุได้ง่าย

การจัดฟันด้านนอกแบบโลหะ

การจัดฟันด้วยเครื่องมือจัดฟันชนิดติดแน่นด้านนอกแบบโลหะ (Metal Braces) เป็นวิธีการจัดฟันที่นิยมใช้กันมานาน ที่เห็นได้ทั่วไป หรือที่ชอบเรียกว่า “การจัดฟันวัยรุ่น” ซึ่งเป็นการจัดฟันโดยการติดเครื่องมือแบบโลหะไว้ที่ผิวด้านหน้าของฟัน แล้วใส่ลวดผ่านร่อง Bracket และใช้ยาง O-Ring รัดตัวเครื่องมือจัดฟันให้ติดกับลวดจัดฟัน เพื่อช่วยเลื่อนตัวฟันและเรียงฟันให้สวยงาม ปัจจุบันได้มีการพัฒนาขนาดของวัสดุที่ใช้ให้มีขนาดเล็กลง มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ให้ความรู้สึกสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้น โดยจะเป็นการจัดฟันแบบติดแน่นโดยใช้เหล็กจัดฟันสีเงินติดด้านหน้าของผิวฟัน เพื่อเป็นตัวช่วยควบคุมทิศทางการเคลื่อนตัวของฟัน และสามารถเรียงฟันให้สวยพร้อมทั้งสร้างการสบฟันที่ถูกต้องได้

เหล็กดัดฟัน

ข้อดีของการจัดฟันด้านนอกแบบโลหะ

ข้อเสียของการจัดฟันด้านนอกแบบโลหะ

การจัดฟันแบบเซรามิกใส

การจัดฟันแบบเซรามิกใส (Ceramic Braces) เป็นการจัดฟันแบบติดแน่นที่ใช้วัสดุแบบเซรามิกใสซึ่งมีสีที่ใกล้เคียงกับฟันมายึดติดกับผิวฟันด้านหน้า แล้วใส่ลวดผ่านร่อง Bracket และใช้ยางแบบใส (O-Ring) รัดตัวเครื่องมือจัดฟันให้ติดกับลวดจัดฟัน เพื่อช่วยควบคุมทิศทางการเคลื่อนตัวของฟันและเรียงฟันให้สวยงาม ซึ่งใช้ระยะเวลาในการจัดประมาณ 2 ปีขึ้นไป มีกระบวนการเหมือนการจัดฟันด้านนอกแบบปกติ เพียงแต่ตัววัสดุจัดฟันจะเป็นแบบเซรามิกพิเศษ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้ผู้อื่นสังเกตเห็นว่ากำลังจัดฟันอยู่ เพราะสีของวัสดุที่เป็นเซรามิกจะมีสีกลมกลืนเข้ากับสีของฟัน เมื่อดูเผิน ๆ จะไม่ทันสังเกตเห็นได้

จัดฟันที่ไหนดี

ข้อดีของการจัดฟันด้านนอกแบบเซรามิกใส

ข้อเสียการจัดฟันด้านนอกแบบเซรามิกใส

การจัดฟันแบบดามอน

การจัดฟันแบบดามอน (Damon System) หรือการจัดฟันด้วยแบร็คเก็ตชนิด Damon™ System (ดามอนซิสเต็ม) เป็นการรักษาด้วยวิธีการจัดฟันแบบใหม่ทั้งหมดที่ไม่ต้องใช้ยางรัด สามารถช่วยย่นระยะเวลาในการรักษารวดเร็ว มีประสิทธิภาพสูง และแทบไม่ต้องถอนฟันออกสักซี่ โดยเป็นการใช้เทคโนโลยีในการจัดฟันแบบ Self-Ligating ที่ได้รับการรับรองทางการแพทย์แล้วว่าช่วยลดเวลาในการจัดฟันให้น้อยลง มีทั้งดามอนคิว (DAMON Q) ที่เป็นสีเงิน และดามอนเคลียร์ (DAMON CLEAR) ที่เป็นสีใส (การจัดมีขั้นตอนเหมือนกัน ต่างกันเพียงแค่สีของโลหะ โดยตัวดามอนเคลียร์จะมีราคาแพงมากกว่าประมาณ 5,000 – 10,000 บาท)

วิธีจัดฟัน

ข้อดีข้องการจัดฟันดามอน

ข้อเสียของการจัดฟันดามอน

การจัดฟันด้านในแบบ Light Lingual

การจัดฟันด้านในแบบ Light Lingual เป็นการติดเครื่องมือบริเวณด้านหลังหรือด้านในของฟัน ตัวเครื่องมือจะถูกออกแบบมาเฉพาะกับฟันแต่ละซี่ในแต่ละบุคคล โดย Light Lingual จะมีขนาดที่เล็กลงกว่าเดิม จึงช่วยลดแรงเสียดทานและแรงต้านทานได้เป็นอย่างดี ในขณะสนทนาหรือยิ้มแย้มจึงไม่เห็นเป็นที่สังเกตได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาการเรียงตัวของฟันผิดปกติและไม่ต้องการให้ผู้อื่นสังเกตเห็นเครื่องมือการจัดฟัน ในการจัดฟันด้านในโดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลาในการจัดฟันพอ ๆ กับการจัดฟันด้านนอก แต่ในบางกรณีอาจจะใช้เวลาน้อยกว่าด้วย

อยากจัดฟัน

ข้อดีของการจัดฟันด้านในแบบ Light Lingual

ข้อเสียของการจัดฟันด้านในแบบ Light Lingual

การจัดฟันด้านในแบบ iBraces™

iBraces™ Lingual เป็นเครื่องมือจัดฟันรุ่นใหม่ที่เหมาะสำหรับวัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ ทั้งชายและหญิงที่มีอายุตั้งแต่ 13-60 ปีขึ้นไป เป็นเครื่องมือจัดฟันที่ติดอยู่ด้านในของฟันที่ผลิตออกมาให้พอเหมาะพอดีกับรูปทรงของฟันแต่ละซี่แบบ 100% จึงไม่มีใครสามารถเห็นได้ว่ากำลังจัดฟันอยู่ เหมาะสำหรับผู้ไม่อยากให้ใครเห็นเครื่องมือจัดฟัน ผู้ใหญ่ที่ต้องอาศัยบุคลิกภายในการทำงาน นักดนตรีเครื่องเป่า วัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ที่เล่นกีฬาที่ต้องเกิดการกระทบกระแทก และผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงความเสียหายของผิวฟันด้านหน้า

ขั้นตอนการจัดฟันแบบ iBraces™

การจัดฟันใสแบบ Invisalign

การจัดฟันแบบใสที่ถอดได้ (Invisalign – อินวิซาไลน์) คือ การจัดฟันที่เน้นไปที่ความสวยงามเป็นหลัก โดยการใช้เครื่องมือโปร่งใสในการช่วยปรับการเรียงตัวของฟัน โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องมือการจัดฟันแบบติดแน่นที่ผิวฟันอย่างที่นิยมใช้กันทั่วไป Invisalign เป็นนวัตกรรมทางการจัดฟันแบบใหม่ที่ดารานิยมทำกันมาก ทำให้สามารถจัดฟันได้โดยไม่ต้องใส่เหล็กดัด สามารถเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ ง่ายต่อการดูแลรักษา เพราะสามารถถอดออกและแปรงฟันได้ตามปกติ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้การจัดฟันด้วยวิธีนี้เป็นที่นิยมของคนที่ต้องการจัดฟัน แต่ไม่อยากให้ใครเห็น

การจัดฟันแบบใสจะเหมาะกับผู้ที่ “มีปัญหาฟันเหยินด้านหน้า มีเงินพร้อม และใจร้อน” แต่หากฟันยื่นเจ๋อของคุณมาจากด้านหลังและมีปัญหาฟันล้มข้างในด้วยก็ต้องดัดทั้งปากด้วยเหล็กแบบปกติ

จัดฟัน ราคา

ขั้นตอนการจัดฟันใสแบบ Invisalign

  1. พบแพทย์ ในขั้นแรกผู้เข้ารับบริการต้องทำการนัดหมายเพื่อปรึกษาและถ่ายภาพเอกซเรย์ช่องปากเพื่อใช้ในวางแผนการรักษา
  2. วางแผนการรักษา ทันตแพทย์ผู้ผ่านการรับรองจาก Invisalign จะทำการวินิจฉัยและวางแผนการรักษา พร้อมกับถ่ายภาพและพิมพ์ฟันของคุณ
  3. เตรียมสภาพช่องปาก ทันตแพทย์จะเตรียมสภาพช่องปากของคุณให้พร้อมสำหรับการรักษา
  4. พิมพ์ฟัน ทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ฟันของคุณอีกครั้งพร้อมบันทึกการกัดสบฟัน จากนั้นทันตแพทย์จะส่งข้อมูลทุกอย่างไปให้ผู้เชี่ยวชาญ Invisalign ในสหรัฐอเมริกา
  5. สแกนรอยพิมพ์ฟัน ทาง Invisalign จะใช้เครื่อง CT สแกน หรือ CAT สแกนรอยพิมพ์ฟันของคุณ โดยใช้เทคโนโลยีการสร้างภาพแบบ 3 มิติ เพื่อสร้างชุดเครื่องมือจัดฟันของคุณ
  6. วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลง โปรแกรม CAD (Computer Aided Design) ที่เรียกว่า ClinCheck® จะทำการวิเคราะห์การเปลี่ยนของการเคลื่อนตัวของฟันขณะทำการรักษา โดยการสร้างภาพเสมือนจริงของการเคลื่อนของฟันในระหว่างทำการรักษา
  7. ตรวจสอบและดัดแปลง ทันตแพทย์จะตรวจสอบดัดแปลงและรับรองแผนการรักษาก่อนการสร้างชุดเครื่องมือจัดฟัน
  8. สร้างแบบฟัน จะเป็นการใช้เทคโนโลยีล้ำยุค SLA (Stereolithography) เพื่อนำมาใช้สร้างชุดเครื่องมือจากรอยพิมพ์ของคุณ ในทุก ๆ รายละเอียดและทุกขั้นตอนการรักษา
  9. ชุดเครื่องมือจัดฟัน ชุดเครื่องจัดฟันแบบใสที่ผลิตพิเศษขึ้นมาเฉพาะบุคคล จะถูกส่งให้ทันตแพทย์ของคุณที่เมืองไทย
  10. รับชุดเครื่องมือจัดฟัน คุณจะได้รับชุดเครื่องจัดฟันของคุณ และเปลี่ยนใหม่ทุก ๆ 2 สัปดาห์ เพื่อการปรับเคลื่อนตัวของฟัน เพียงแต่คุณต้องมีวินัยอย่างสูงและสวมใส่เครื่องมือทุกวัน ถอดออกในเฉพาะเวลารับประทานอาหาร แปรงฟัน ขัดฟัน หรือต้องพบกับทันตแพทย์ตามนัดหมายเพื่อตรวจวินิจฉัย

ข้อดีของการจัดฟันใสแบบ Invisalign

ข้อเสียของการจัดฟันใสแบบ Invisalign

การจัดฟันใสแบบ Smile Tru

การจัดฟันใสด้วย Smile Tru จะคล้าย ๆ กับการจัดฟันใสแบบอินวิซาไลน์ครับ แต่เป็นระบบการจัดฟันใสจากอเมริกา ทำการจัดฟัน วางแผน และผลิตพลาสติกสำหรับจัดฟันใสด้วยระบบ 3 มิติ เพียงแค่พิมพ์ฟันครั้งเดียว คุณก็จะเห็นภาพจำลองการเคลื่อนตัวของฟันทั้งก่อนจัด ระหว่างจัด และหลังจัดฟันเสร็จ เมื่อใส่เครื่องมือไปจนครบฟันก็จะเคลื่อนตัวเรียงกันเป็นระเบียบตามภาพจำลองที่ออกแบบไว้ สามารถถอดออกและใส่ได้ง่าย ทำความสะอาดง่าย ฟันเกน้อย

ค่าใช้จ่ายในการจัดฟัน

ข้อดีของการจัดฟันใสแบบ Smile Tru

ข้อเสียของการจัดฟันใสแบบ Smile Tru

การจัดฟันใสแบบ Clear Aligner

การจัดฟันแบบใสชนิดถอดได้ (Clear Aligner) เป็นเครื่องมือการจัดฟันชนิดถอดได้แบบใสที่ถูกออกแบบเฉพาะบุคคล โดยใช้วัสดุที่บางใสและเรียบติดกับเนื้อฟัน โดยไม่มีเหล็กหรือลวดจัดฟันมากวนใจในขณะใส่เครื่องมือจัดฟัน นับว่าเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมทางเลือกใหม่ของการจัดฟันที่มีราคาถูกกว่าแบบใสที่ถอดได้ ไม่ต้องทนเจ็บปวดจากปัญหาการใช้เหล็กจัดฟันอีกต่อไป เพียงแค่สวมเครื่องมือหรืออุปกรณ์จัดฟันแบบใสนี้เข้าก็สามารถช่วยให้ฟันเข้ารูปได้แล้ว

“เนื่องจากเราไปซื้อโปรแกรมของฝรั่งเศสมา จึงสามารถทำในประเทศไทยได้เลย เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับให้ฟันหน้าเรียงกันได้สวย แต่เขาจะมีเกณฑ์ของเขา ไม่มีภาพแสดงออกมาให้เห็นการเปลี่ยนแปลงแต่ละสเต็ป จะแค่ประเมินกำหนดองศา ใช้ประมาณกี่สเต็ปในการดัดฟันให้เข้ารูปตามที่ต้องการ เนื่องจากทำในไทย เครื่องมือจึงทำแบบสเต็ปต่อสเต็ป ถ้าเราไม่ใส่ตามกำหนด ก็สามารถปรับเครื่องมือได้ ซึ่งโดยปกติแล้วจะใช้เวลาไม่ถึงปีก็เสร็จ”

รูปจัดฟัน

ขั้นตอนการจัดฟันใสแบบ Clear Aligner

ข้อดีของการจัดฟันใสแบบ Clear Aligner

ข้อเสียการจัดฟันใสแบบ Clear Aligner

การจัดฟันควบคู่กับการผ่าตัด

การจัดฟันควบคู่กับการผ่าตัด (Orthognathic Surgery) ในบางกรณีการจัดฟันเพียงอย่างเดียวก็ไม่อาจแก้ปัญหาการสบฟันหรือการเรียงตัวกันของฟันที่มีความผิดปกติได้ จึงต้องอาศัยการผ่าตัดขากรรไกรควบคู่ไปกับการจัดฟันด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อผลลัพธ์และประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งปัญหาที่ต้องอาศัยการจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดนั้น ส่วนมากจะใช้เฉพาะในผู้ที่หน้าไม่ได้สัดส่วน, คางยื่น, คางหดสั้นมาก ๆ, ยิ้มแล้วเหงือกและฟันบนกัดไม่ชนฟันล่าง แต่การผ่าตัดนั้นจะทำในคนไข้ที่หมดการเจริญเติบโตของโครงสร้างกระดูกแล้วเท่านั้น ซึ่งในผู้ชายจะเริ่มที่อายุประมาณ 20 ปี ส่วนในผู้หญิงจะเริ่มที่อายุประมาณ 18 ปี

จัดฟันราคาเท่าไหร่

ขั้นตอนการจัดฟันร่วมกับการผ่าตัด

  1. จัดฟันก่อนการผ่าตัด จะทำเพื่อปรับตำแหน่งฟันและแกนฟันในแต่ละขากรรไกรให้ถูกต้อง เพื่อที่หลังจากผ่าตัดขากรรไกรที่มีความผิดปกติให้กลับเข้ามาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมแล้ว ฟันในแต่ละขากรรไกรทั้งสองจะสามารถสบกันได้ ในขั้นตอนนี้จะทำโดยทันตแพทย์จัดฟัน ซึ่งจะใช้เวลาในการรักษาประมาณ 1-2 ปี ซึ่งในระยะนี้อาจทำให้การสบฟันของคนไข้ที่ผิดปกติอยู่แล้วดูรุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะได้รับการแก้ไขให้เป็นปกติด้วยการผ่าตัดขากรรไกรในขั้นตอนต่อไป
  2. ขั้นตอนการผ่าตัด จะทำโดยทันตแพทย์ศัลยกรรมช่องปากและทำในห้องผ่าตัด การผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 2-6 ชั่วโมง มีระยะเวลาพักฟื้นประมาณ 7-10 วัน ทันตแพทย์จะทำการผ่าตัดและแก้ไขส่วนของโครงสร้างกระดูกที่มีความผิดปกติให้เป็นปกติ
  3. จัดฟันหลังการผ่าตัด ในขั้นตอนนี้จะเป็นการจัดฟันเพื่อแก้ไขรายละเอียดในส่วนของการเรียงตัวของฟัน การสบฟัน ให้มีความเหมาะสมพอดีมากที่สุด ซึ่งจะใช้เวลาในการรักษาประมาณ 1 ปี

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 จัดฟัน
  • 2 ข้อดีของการจัดฟัน
  • 3 ข้อเสียของการจัดฟัน
  • 4 ขั้นตอนการจัดฟัน
  • 5 ใครบ้างที่ควรจัดฟัน
  • 6 ระยะเวลาในการจัดฟัน
  • 7 ต้องถอนฟันก่อนจัดฟันหรือไม่
  • 8 อายุกับการจัดฟัน
  • 9 จัดฟันราคาเท่าไร
  • 10 สามารถจัดฟันได้ที่ใดบ้าง
  • 11 การดูแลตนเองในขณะจัดฟัน
  • 12 การจัดฟันด้านนอกแบบโลหะ
  • 13 การจัดฟันแบบเซรามิกใส
  • 14 การจัดฟันแบบดามอน
  • 15 การจัดฟันด้านในแบบ Light Lingual
  • 16 การจัดฟันด้านในแบบ iBraces™
  • 17 การจัดฟันใสแบบ Invisalign
  • 18 การจัดฟันใสแบบ Smile Tru
  • 19 การจัดฟันใสแบบ Clear Aligner
  • 20 การจัดฟันควบคู่กับการผ่าตัด
เรื่องที่น่าสนใจ