จัดฟันให้เรียงสวย ทำอย่างไร

การจัดฟัน คือกระบวนการติดเครื่องมือจัดฟันซึ่งจะทำให้เกิดแรงกดลงไปที่ฟัน เพื่อให้ฟันเกิดการเคลื่อนย้ายไปในทิศทางที่ต้องการและค่อย ๆ ขยับเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องการสบกันของฟันบนกับฟันล่าง นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานและสุขภาพของช่องปากและฟันแล้ว การจัดฟันยังช่วยเพิ่มความสวยงามของฟัน ทำให้พูดหรือยิ้มได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

จัดฟัน

เหตุใดจึงควรจัดฟัน

การมีฟันเก ฟันห่าง ฟันที่เรียงซ้อนกัน หรือฟันที่สบกันไม่พอดี รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับขากรรไกรที่ส่งผลต่อการเคี้ยวอาหาร ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ประสิทธิภาพในการเคี้ยวอาหารลดลง และยังเป็นอุปสรรคต่อการทำความสะอาด ส่งผลต่อสุขภาพทางช่องปากและฟันตามมา ซึ่งสาเหตุของฟันที่สบกันไม่พอดีนี้อาจมาจากการชอบดูดนิ้วตอนเด็ก การถอนฟันแท้ในช่วงก่อนโตเป็นผู้ใหญ่ หรือเกิดจากพันธุกรรม

ดังนั้นการจัดฟันจึงมีผลดีต่อสุขภาพช่องปากและฟัน เพราะเมื่อฟันเรียงตัวกันอย่างมีระเบียบ การทำความสะอาดจะง่ายขึ้น ช่วยป้องกันการเกิดฟันผุและโรคเหงือก นอกจากนี้ ฟันที่สบกันสนิทจะทำให้เคี้ยวอาหารได้อย่างละเอียด ทั้งยังสามารถแก้ปัญหาเกี่ยวกับการพูดที่เกิดจากการสบของฟัน

วัยที่เหมาะสมสำหรับการจัดฟัน

ไม่ว่าอายุเท่าใดก็สามารถจัดฟันได้ แต่ทันตแพทย์มักแนะนำให้เด็กอายุ 7 ปีเข้ารับการตรวจฟันเพื่อดูว่ามีปัญหาที่ควรแก้ไขด้วยการจัดฟันหรือไม่ การตรวจรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ จะทำให้แก้ไขง่ายขึ้น เนื่องจากกระดูกของเด็กยังมีการเติบโตและพัฒนาไม่เต็มที่ การจัดฟันในเด็กอาจต้องแบ่งการจัดฟันเป็น 2 ระยะด้วยกัน คือ

นอกจากการถอนฟัน ก็ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยเพิ่มพื้นที่ในปากได้ คือการตะไบฟัน โดยทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือในการช่วยให้รูปร่างและขนาดด้านข้างของฟันเล็กลง เกิดพื้นที่ให้ฟันขยับตัวและสามารถจัดฟันได้ ทั้งนี้การตะไบฟันจะใช้เฉพาะกับกรณีที่มีฟันซ้อนเกไม่มากเท่านั้น

การจัดฟันในผู้ใหญ่สามารถทำได้เรื่อย ๆ ไม่จำกัดอายุ เพียงแต่อาจต้องใช้เวลานานกว่าการจัดฟันในเด็ก การจัดฟันในผู้ใหญ่แม้จะใช้เวลาในการจัดฟันมากกว่า แต่ก็ส่งผลให้ฟันเป็นระเบียบและสบกันสนิทได้เช่นเดียวกับการจัดฟันในเด็ก

การจัดฟันเป็นวิธีแก้ไขปัญหาการสบกันของฟันหรือการเรียงตัวของฟันที่ใคร ๆ ก็สามารถรับการรักษาได้ โดยผู้ที่มีปัญหาสามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดฟัน เพื่อพิจารณาและตรวจว่าควรจัดฟันหรือไม่

ประเภทของเครื่องมือจัดฟัน

ปัจจุบันเครื่องมือจัดฟันมีหลากหลายประเภท แตกต่างกันที่วัสดุหรือลักษณะการติดเครื่องมือจัดฟันลงบนฟัน ซึ่งการเลือกใช้ก็อาจขึ้นอยู่กับข้อคำนึงด้านความสวยงาม ราคาค่าใช้จ่าย และความเสี่ยงต่อการแพ้วัสดุจัดฟันที่ใช้ โดยลักษณะของเครื่องมือจัดฟันอาจแบ่งเป็นประเภทดังต่อไปนี้

การจัดฟันแบบใสเป็นการจัดฟันที่ผู้จัดฟันจะค่อนข้างรู้สึกสบายในขณะที่ใส่เครื่องมือ แต่ก็มีข้อจำกัดตรงที่การหมุนหรือเอียงฟันเป็นไปตามทิศทางของเครื่องมือเท่านั้น ในขณะที่เครื่องมือจัดฟันแบบติดลงบนฟันจะทำให้เกิดการเคลื่อนไหวหรือขยับเรียงตัวของฟันได้ทุกทิศทางตามต้องการ

นอกเหนือจากการใช้เครื่องมือจัดฟันเหล่านี้ คนไข้บางรายที่ขากรรไกรบนหรือขากรรไกรล่างยื่นออกมาจนการสบของฟันไม่เท่ากัน ก็อาจจำเป็นต้องใช้การผ่าตัดศัลยกรรมเพิ่มเติม เพื่อให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้น

การเตรียมตัวก่อนจัดฟัน

ขั้นตอนก่อนการติดเครื่องมือจัดฟันอาจมีดังนี้

ขั้นตอนการจัดฟัน

การติดวัสดุจัดฟันที่ทันตแพทย์ติดเข้าไปในปาก ส่วนใหญ่มักประกอบด้วยอุปกรณ์ต่อไปนี้

การจัดฟันตามกำหนดเวลา

หลังจากติดอุปกรณ์จัดฟันต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ทันตแพทย์จะนัดหมายให้ผู้ที่จัดฟันไปพบทุก ๆ เดือน ซึ่งในแต่ละครั้งจะค่อย ๆ ดึงหรือปรับการเรียงตัวของฟันด้วยเครื่องมือและลวดจัดฟันดังกล่าวไปแล้ว หรือบางครั้งก็ดึงระหว่างขากรรไกรล่างกับขากรรไกรบน โดยใช้ยางที่ยืดหยุ่นได้ยึดดึงฟันบนและฟันล่างที่อยู่ตรงข้ามกันเข้าด้วยกัน

ข้อสำคัญคือผู้เข้ารับการจัดฟันควรไปตามกำหนดนัดของทันตแพทย์จัดฟันในทุก ๆ เดือนเพื่อตรวจดูว่าเครื่องมือยังติดแน่นอยู่บนฟันหรือไม่ และเพื่อให้แพทย์เปลี่ยนเครื่องมือและจัดทิศทางของฟันได้อย่างเหมาะสม

ในการเข้ารับการจัดฟันตามการนัดแต่ละครั้ง อาจเกิดอาการเจ็บในช่วง 1-2 วันแรกหลังการเปลี่ยนหรือดึงเครื่องมือได้เป็นธรรมดา สามารถบรรเทาได้ด้วยการใช้ยาระงับปวดทั่วไป และหากรู้สึกเจ็บปวดรุนแรงหรือมีอาการแย่ลงอย่างผิดปกติ ควรต้องแจ้งให้แพทย์ผู้จัดฟันทราบ

นอกจากนี้ ระยะเวลาจัดฟันของแต่ละคนย่อมไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับปัญหาเกี่ยวกับฟันของแต่ละคน ระยะห่างที่ฟันต้องเคลื่อนที่ไปเรียงตัว สุขภาพเหงือก ฟัน และกระดูกที่รองรับฟัน รวมถึงวินัยของผู้เข้ารับการจัดฟันที่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ซึ่งโดยเฉลี่ยผู้เข้ารับการจัดฟันมักติดเครื่องมือเป็นเวลา 1-3 ปี จากนั้นจึงใส่อุปกรณ์ที่เรียกว่ารีเทนเนอร์เพื่อช่วยรักษาการเรียงตัวของฟันต่อไป

การใส่รีเทนเนอร์ หลังจากการจัดฟันสำเร็จเรียบร้อยจนฟันเรียงตัวสวยงาม อุปกรณ์ต่าง ๆ ก็ถูกถอดออกไป แต่ฟันที่เพิ่งเข้ารูปใหม่ ๆ นี้ยังไม่มั่นคงและสามารถเคลื่อนย้ายกลับไปไม่เป็นระเบียบอย่างเดิม จึงจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ที่ทำขึ้นจากพลาสติกล้วนหรือพลาสติกพร้อมลวดยึดฟันที่เรียกว่ารีเทนเนอร์ คงรูปตำแหน่งฟันที่เป็นระเบียบนั้นไว้ รีเทนเนอร์นี้มีทั้งชนิดที่สามารถถอดออกได้และยึดติดกับฟัน แต่ในบางรายทันตแพทย์จัดฟันอาจให้ใช้ทั้ง 2 ชนิดประกอบกัน

ระยะเวลาของการใส่รีเทนเนอร์ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ ทันตแพทย์จัดฟันบางคนอาจแนะนำให้ใส่ตลอดเวลาในช่วง 6 เดือนแรกหลังจากจัดฟันเสร็จ จากนั้นจึงใส่เฉพาะตอนนอนอีกหลาย ๆ ปี หรืออาจต้องใส่ไปเรื่อย ๆ เพื่อคงให้ฟันเรียงตัวสวยงาม

นอกจากการดูแลรักษาโดยแพทย์ ผู้ที่จัดฟันเองก็ต้องมีวินัยและปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อให้ผลการจัดฟันเป็นไปตามที่วางไว้ ไม่ต้องเสียเวลานานขึ้น โดยเฉพาะในช่วงของการใส่รีเทนเนอร์ที่มีความสำคัญมาก เพราะหากไม่ใส่อย่างสม่ำเสมอ ฟันอาจเคลื่อนตัวกลับไปเกเหมือนเดิม จนทำให้ผลการจัดฟันทั้งหมดที่ทำมาสูญเปล่า

ผลข้างเคียงหลังการจัดฟัน

การใส่เหล็กจัดฟันค่อนข้างมีความปลอดภัย แต่ก็มีความเสี่ยงบางประการ ดังนี้

ความเสี่ยงอีกประการหนึ่งคือ ฟันกลับไปเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ เกิดขึ้นได้ในกรณีที่ผู้รับการจัดฟันไม่ทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์หลังจากนำเครื่องมือจัดฟันออกไปแล้ว โดยเฉพาะการไม่ใส่รีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอ ที่จะนำไปสู่การเรียงตัวของฟันที่ผิดไปจากเดิม ทำให้อาจต้องรักษาด้วยการจัดฟันใหม่อีกครั้ง

ข้อปฏิบัติขณะใส่เครื่องมือจัดฟัน

ผลข้างเคียงข้างต้นไม่น่าวิตกกังวลแต่อย่างใดหากใส่ใจดูแลรักษาฟันตามข้อปฏิบัติต่อไปนี้