คุยกับหมอรักษาโรคมะเร็ง ตอน มะเร็งเต้านมกับถั่วเหลือง

7 กรกฎาคม 2014

การศึกษาต่างๆทางการแพทย์ให้ผลตรงกันว่า โปรตีนของถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง (ยกเว้นน้ำมันถั่วเหลืองเพราะมีส่วนประกอบของโปรตีนถั่วเหลืองน้อยมาก) อุดมด้วยโปรตีนจากพืช มีสารต้านอนุมูลอิสสระ ในกลุ่มของสารพฤษเคมีที่มีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนแต่ออกฤทธิ์อ่อนกว่ามาก ด้วยคุณสมบัติทั้งหมด การบริโภคถั่วเหลืองต่อเนื่องในปริมาณที่พอเหมาะ ลดโปรตีนจากสัตว์ลง จำกัดอาหารไขมัน จึงส่งผลให้ลดอัตราการเกิดโรคอ้วน โรคหลอดเลือดหัวใจ และหลอดเลือดสมองได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เป็นที่ยอมรับในทางการแพทย์

แต่ถัวเหลืองกับมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม ซึ่งจะกล่าวถึงในบทความนี้ข้อมูลจากการศึกษาทางการแพทย์ถึงแม้จะมีมากมาย และต่อเนื่อง ก็ยังสับสนมาก ยังไม่มีข้อสรุป ถึงประโยชน์และโทษที่แน่ชัดของถัวเหลืองกับมะเร็งเต้านม ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น

คำตอบ คือ การศึกษาถั่วเหลือง กับโรคมะเร็งทั้งในด้านการป้องกัน หรือการลดอัตราเกิด และผลในการรักษา ทั่วไปมักไม่ใช่การศึกษาในลักษณะสุ่มตัวอย่าง แต่เป็นการศึกษาแบบเฝ้าสังเกตเปรียบเทียบระหว่างบุคคล2กลุ่ม คือ กลุ่มหญิงที่บริโภคถั่วเหลืองปริมาณมาก เช่น ในหญิงชาวเอเชียตะวันออก กับกลุ่มหญิงที่บริโภคถั่วเหลืองน้อย เช่นหญิงในประเทศตะวันตก การศึกษาในลักษณะเช่นนี้ จะควบคุมตัวแปรอื่นๆที่เป็นปัจจัยให้เกิดมะเร็งเต้านมไม่ได้ ทั้งนี้ปัจจัยที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านมที่นอกเหนือจากการบริโภคถั่วเหลือง ได้แก่

ดังนั้นจากปัจจัยเหล่านี้ ที่เป็นตัวแปรจึงทำให้การศึกษาทางการแพทย์ถึงความสัมพันธ์ของการบริโภคถั่วเหลืองกับมะเร็งเต้านมให้ผลการศึกษาที่สับสน ดังนั้นแพทย์โรคมะเร็งทุกคน จึงมีความเห็นสอดคล้องกันว่า

แพทย์ไม่ห้ามการบริโภคถั่วเหลือง เคยบริโภคอย่างไรก็บริโภคอย่างนั้น แต่ถ้าไม่เคยบริโภคมาก่อนเกิดมะเร็ง แพทย์แนะนำให้บริโภคในปริมาณปานกลาง ตัวอย่างง่ายๆ คือ วันละ กล่อง เป็นต้น โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่กินยาฮอร์โมนรักษามะเร็งเต้านม เช่น ยา ทามอกซิเฟน (Tamoxifen หรือย่อว่า Tam) ทั้งนี้จนกว่าการศึกษาทางการแพทย์จะออกมายืนยันชัดเจนถึงประโยชน์และโทษของถั่วเหลืองกับมะเร็งเต้านม

ช่วงระหว่างรอผลการศึกษา การดูแลตนเอง คือ

บรรณานุกรม

1. [2014,June20].
2. [2014,June20].
3. [2014,June120].

พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์