คุยกับหมอรักษาโรคมะเร็ง ตอน น้ำแร่รังสีไอโอดีนตอน3 (ตอนจบ) อาหารไอโอดีนต่ำ

24 มีนาคม 2014

ดังได้กล่าวแล้วในตอนที่1และ2 ว่า การกินน้ำแร่รังสีไอโอดีน/อาร์เอไอ(RAI, Radioactive iodine) เป็นวิธีการสำคัญวิธีหนึ่งในการรักษาโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ ชนิดเซลล์มะเร็งเป็นชนิด Well differentiated หรือ Differentiated carcinoma ซึ่งใช้หลักการว่า เซลล์มะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิดนี้จะจับกินไอโอดีน ดังนั้นเมื่อไอโอดีนเป็นชนิดมีรังสีประเภทไอออนไนซ์ (Ionizing radiation) ชนิดที่เรียกว่า รังสีบีตา (Beta ray) (อ่านเพิ่มเติมในเว็บ เรื่องทางรังสีได้ในเกร็ด เรื่อง รังสีที่ใช้ตรวจและรักษาโรค และเรื่อง รังสีจากการตรวจโรค) รังสีก็จะไปทำลาย/ฆ่าเซลล์มะเร็ง ส่งผลให้เราหายขาดจากโรคมะเร็งฯได้ ดังนั้น การเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา คือ การทำให้เซลล์มะเร็งจับกินไอโอดีน/น้ำแร่รังสีไอโอดีนให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ได้ปริมาณรังสีที่มากพอที่จะฆ่าเซลล์มะเร็งได้หมด ซึ่งวิธีเพิ่มการจับกินน้ำแร่รังสีฯ คือ การทำให้เซลล์มะเร็งเกิดภาวะขาดไอโอดีน ดังนั้นเมื่อเซลล์มะเร็งขาดไอโอดีน เมื่อเราให้ไอโอดีน/น้ำแร่รังสีไอโอดีน เซลล์มะเร็งก็จะจับกินไอโอดีนได้สูง ส่งผลให้เซลล์มะเร็งได้รับรังสีปริมาณสูงตามไปด้วย

การทำให้เซลล์มะเร็งอยู่ในภาวะขาดไอโอดีน คือ การกินอาหารที่มีไอโอดีนต่ำ ก่อนการกินน้ำแร่รังสีประมาณ 2 สัปดาห์ ดังนั้นก่อนการรักษาโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ด้วยน้ำแร่รังสีฯ แพทย์จึงแนะนำให้ผู้ป่วย กินอาการไอโอดีนต่ำล่วงหน้าเป็นระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ต่อจากนั้นเมื่อกินน้ำแร่รังสีฯแล้ว 1-2 วัน ผู้ป่วยก็กลับมากินอาหารได้ตามปกติ

ก. อาหารไอโอดีนสูง ที่ควรต้อง งดบริโภค ได้แก่

ข. อาหารไอโอดีนต่ำ ที่ควรบริโภค ได้แก่

ดังนั้น เมื่อจำเป็นต้องกินน้ำแร่รังสีไอโอดีน เพื่อการรักษาต่อเนื่องหลังผ่าตัดต่อมไทรอยด์ในการรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์ ขอให้นึกถึงผลการรักษาที่ขึ้นกับการปฏิบัติตัวของเราเพียงประมาณ 2 สัปดาห์เท่านั้น ยอมอดทนกินไม่อร่อย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา เพราะเรื่อง กิน ดื่ม แพทย์พยาบาลได้แต่เพียงแนะนำ ครอบครัวได้แต่เอาใจช่วย คนที่จะทำให้บังเกิดผลคือ ความอดทน และการทนอดของตัวเราเองเท่านั้นที่จะช่วยเราไปสู่เป้าหมายได้ สู้ๆนะคะ

บรรณานุกรม

  1. http://www.thyroid.org/faq-low-iodine-diet/[2014,Feb12].