คุยกับหมอรักษาโรคมะเร็ง ตอน การวินิจฉัยโรคมะเร็งผิดพลาดได้ไหม

3 มิถุนายน 2013

ในการวินิจฉัยโรคมะเร็ง แพทย์จะประเมินจาก

  1. อาการของผู้ป่วย และการตรวจร่างกาย
  2. การตรวจเพิ่มเติมอื่นๆเช่น การตรวจภาพอวัยวะที่เป็นโรคมะเร็งด้วย เอกซเรย์อัลตราซาวด์เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ และ/หรือ เอมอาร์ไอ
  3. ประวัติเป็นโรคมะเร็ง เคยตรวจ รักษา โรคมะเร็งมาก่อนหรือไม่ อย่างไร
  4. ผลจากการตรวจทางพยาธิวิทยา หรือการตรวจทางเซลล์วิทยา
    • อาการและการตรวจร่างกาย ที่บ่งบอกว่า อาจเกิดจากโรคมะเร็งได้ คือ มีแผลเรื้อรัง และ/หรือ มีก้อนเนื้ออาจร่วมกับการมีต่อมน้ำเหลืองโต อาจโตเฉพาะที่ หรือ ทั่วตัว
    • การตรวจอื่นๆ ที่สำคัญ คือ การตรวจภาพของอวัยวะที่มีอาการ อาจจาก เอกซเรย์อัลตราซาวด์เอกซเรย์คอมพิวเตอร์เอมอาร์ไอ การตรวจภาพกระดูกทั้งตัวจากการสะแกนกระดูกโดยการฉีดยาน้ำแร่รังสี (Bone scan) และ/หรือ การตรวจเพทสะแกน (PET scan) และบางครั้งจากการตรวจหาสารมะเร็ง(Tumor marker)

อนึ่ง การตรวจวินิจฉัยจาก ทั้ง 3 วิธีแรกดังกล่าวแล้ว จะไม่สามารถวินิจฉัยได้ 100%ว่า เป็นมะเร็ง เพราะอาจเกิดจากเนื้องอกที่ไม่ใช่มะเร็ง หรือจากมีการอักเสบเรื้อรังของอวัยวะนั้นๆได้

การตรวจที่ให้ผลการวินิจฉัยโรคมะเร็งที่แน่นอน คือ การตรวจทางพยาธิวิทยา หรือ การตรวจทางเซลล์วิทยา

ดังนั้น การวินิจฉัยและการรักษาโรคมะเร็ง จึงอาจผิดพลาดได้ จาก

อนึ่ง ข้อสำคัญที่ควรทราบ คือ การตรวจทุกวิธีการที่มีในปัจจุบัน รวมทั้งการตรวจทางพยาธิวิทยา และทางเซลล์วิทยา จะมีข้อจำกัดทางด้านเทคนิคผลการตรวจจึงโอกาสผิดพลาดได้ประมาณ 5- 15%เสมอ

ดังนั้น ปัจจุบันแพทย์ จึงมักพูดคุย ชี้แจงกับผู้ป่วยและครอบครัวผู้ป่วย แล้วจึงตัดสินใจรวมกันว่า สมควรจะทำอย่างไรในทั้ง 2 กรณี เพื่อให้เหมาะสมกับผู้ป่วยเป็นรายๆไป

สรุป การวินิจฉัยโรคมะเร็งผิดพลาด ทำให้การรักษาผิดพลาด มีได้ 2กรณี คือ “ไม่เป็นมะเร็งแต่วินิจฉัยว่า เป็นมะเร็ง” และ “เป็นมะเร็งแต่วินิจฉัยว่า ไม่เป็นมะเร็ง” ซึ่งสาเหตุของการวินิจฉัยผิดพลาด ดังได้กล่าวแล้ว