คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรับมือกับความกังวลต่าง ๆ อย่างไร

คุณแม่ตั้งครรภ์นั้นต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านร่างกายและจิตใจหลายอย่าง และเป็นเรื่องธรรมดาที่คุณแม่บางคนอาจรู้สึกวิตกกังวลหรือมีอารมณ์แปรปรวนได้ง่ายในระหว่างนี้ ซึ่งความรู้สึกด้านลบที่เกิดขึ้นอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ได้ การศึกษาวิธีรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และการคงสภาพจิตใจให้แจ่มใสจึงสำคัญต่อคุณแม่พอ ๆ กับการดูแลสุขภาพร่างกายด้วยเช่นกัน

1619 ตั้งครรภ์ กังวล resized

คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องเผชิญกับความรู้สึกแบบใดบ้าง ?

เป็นธรรมดาที่คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคน โดยเฉพาะผู้ที่อุ้มท้องลูกคนแรก มักรู้สึกกังวลใจในเรื่องต่าง ๆ มากมาย เช่น รูปร่าง พฤติกรรมการใช้ชีวิต และสุขภาพของเจ้าตัวน้อยในครรภ์ เป็นต้น แต่คุณแม่บางรายอาจมีอารมณ์แปรปรวนหรือรู้สึกวิตกกังวลมากกว่าปกติ เพราะการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกายระหว่างตั้งครรภ์สามารถส่งผลกระทบต่อสารเคมีในสมอง จนอาจก่อให้เกิดโรควิตกกังวลตามมา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของทั้งตัวคุณแม่และเด็กในท้องได้

โดยคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอาการของโรควิตกกังวลดังต่อไปนี้ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง

ปัญหาสุขภาพจิตอื่น ๆ ที่คุณแม่ตั้งครรภ์อาจต้องเผชิญ

นอกจากภาวะวิตกกังวลแล้ว หญิงตั้งครรภ์อาจเสี่ยงต่ออาการผิดปกติทางจิตอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดความกังวลระหว่างตั้งครรภ์

แม้ภาวะวิตกกังวลและอาการผิดปกติทางจิตอื่น ๆ อาจเกิดขึ้นกับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ได้ทุกคน แต่ผู้ที่อยู่ในกลุ่มต่อไปนี้อาจมีความเสี่ยงมากกว่าคนทั่วไป

คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรับมือกับอาการวิตกกังวลอย่างไร ?

คุณแม่ที่ตั้งครรภ์สามารถรับมือกับอาการวิตกกังวลหรือภาวะเครียดได้ง่าย ๆ เพียงปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตบางอย่าง ตามคำแนะนำต่อไปนี้

ส่วนคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอาการของภาวะซึมเศร้า ภาวะวิตกกังวล หรือความผิดปกติทางจิตอื่น ๆ จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์ ด้วยวิธีต่อไปนี้

อันตรายจากภาวะวิตกกังวลขณะตั้งครรภ์

คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอาการวิตกกังวลอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง หรือสงสัยว่าตนอาจเป็นโรคซึมเศร้า ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างถูกต้อง เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้อาการรุนแรงขึ้น และอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อตัวคุณแม่เองและทารกในครรภ์ ดังนี้

ผลกระทบที่อาจเกิดกับแม่

ผลกระทบที่อาจเกิดกับทารกในครรภ์