ขั้นตอนและปัจจัยเสี่ยงในการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)

เด็กหลอดแก้ว (IVF: In Vitro Fertilization) เป็นวิธีการทางเลือกที่ใช้รักษาภาวะมีบุตรยากแบบปฏิสนธิภายนอกร่างกาย ด้วยการนำไข่ของฝ่ายหญิงและอสุจิของฝ่ายชายไปผสมในภาชนะในห้องปฏิบัติการ เมื่อเกิดการปฏิสนธิแล้ว แพทย์จึงนำตัวอ่อน (Embryo) ใส่กลับเข้าไปให้ฝังตัวภายในมดลูกของฝ่ายหญิงจนเกิดการตั้งครรภ์

เด็กหลอดแก้ว

เด็กหลอดแก้ว ใช้ในกรณีใด ?

ข้อจำกัดของการทำเด็กหลอดแก้ว

หากประสบปัญหาดังกล่าวข้างต้นแล้วทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถตั้งครรภ์ด้วยตนเองได้ สามารถเก็บไข่และสเปิร์มเพื่อทำเด็กหลอดแก้ว แล้วใส่กลับเข้าไปให้อาสาสมัครที่ไว้ใจตั้งครรภ์แทนได้ หรือหากไม่สามารถใช้สเปิร์มของฝ่ายชายได้ สามารถเลือกรับสเปิร์มที่มีผู้บริจาคได้เช่นกัน

การเตรียมการก่อนทำเด็กหลอดแก้ว

ปรึกษาแพทย์

เมื่อประสบปัญหาภาวะมีบุตรยาก และพยายามมีบุตรด้วยวิธีการอื่นแล้วไม่ได้ผล ควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาขอคำแนะนำ ผู้ป่วยจะตัดสินใจเข้ารับการรักษาร่วมกับแพทย์ โดยพิจารณาจากประวัติของผู้ป่วย และประวัติการรักษาที่ผ่านมาของผู้ป่วย ข้อดี ข้อเสีย ความเสี่ยง โอกาสประสบความสำเร็จ และค่าใช้จ่ายในการทำเด็กหลอดแก้ว ซึ่งราคาการทำเด็กหลอดแก้วในประเทศไทยจะอยู่ที่ประมาณ 100,000-300,000 บาทต่อครั้ง จากนั้นแพทย์จะตรวจร่างกายผู้ป่วยและทดสอบคัดกรองด้วยวิธีต่าง ๆ ก่อนวางแผนรักษาและนัดหมายในขั้นตอนต่อไป

การทดสอบคัดกรองก่อนการรักษา

ขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว

ขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว อาจมีความแตกต่างกันในแต่ละคลินิกหรือสถานพยาบาล โดยวิธีการหลัก ๆ มีดังนี้  

ขั้นตอนของฝ่ายหญิง

ขั้นตอนของฝ่ายชาย

น้ำอสุจิหรือสเปิร์มของฝ่ายชายจะถูกเก็บพร้อม ๆ กับช่วงที่เก็บไข่ของฝ่ายหญิง โดยน้ำอสุจิที่ถูกเก็บแล้วจะถูกนำมาล้างและปั่นเพื่อเลือกเสปิร์มที่สมบูรณ์และแข็งแรงที่สุด

หลังการถ่ายฝากตัวอ่อน

หลังถ่ายฝากตัวอ่อนเข้าไปในมดลูก ผู้ป่วยที่ไม่มีปัญหาสุขภาพสามารถกลับบ้านและใช้ชีวิตได้ตามปกติ ในบางกรณีเท่านั้นที่ต้องพักดูอาการที่โรงพยาบาล เช่น ผู้ที่มีความเสี่ยงต่ออาการรังไข่ตอบสนองต่อการกระตุ้นมากเกินไป (OHSS หรือ Ovarian Hyperstimulation Syndrome) โดยผู้หญิงที่ได้รับการถ่ายฝากตัวอ่อนแล้วต้องมาพบแพทย์ใน 12-14 วันให้หลังเพื่อตรวจการตั้งครรภ์ และต้องใช้ยาหรือฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนต่อไปอีก 8-10 สัปดาห์ ซึ่งจะช่วยให้ผนังมดลูกหนาขึ้นเอื้อต่อการฝังตัวของตัวอ่อน และป้องกันการแท้งลูก

แม้ขั้นตอนการถ่ายฝากตัวอ่อนจะลุล่วงไปแล้ว แต่เมื่อผู้ป่วยกลับมาพักที่บ้าน ควรสังเกตและเฝ้าระวังอาการที่เป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษา

การทำเด็กหลอดแก้วที่ประสบความสำเร็จ

อัตราการเกิดที่มาจากความสำเร็จในการตั้งครรภ์จากเด็กหลอดแก้วในกลุ่มผู้หญิงอายุ 34 ปีลงมา อยู่ที่ 30-40% ในการถ่ายฝากตัวอ่อนครั้งแรก และอัตราการเกิดลดต่ำลงมากในกลุ่มผู้หญิงที่อายุมากกว่า 35 ปี

อย่างไรก็ตาม แม้ประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร การทำเด็กหลอดแก้วอาจส่งผลต่อทั้งสภาพร่างกายและสภาพจิตใจของทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย บางคู่อาจมีปัญหาความยากลำบากในการปรับตัวเพื่อมีลูกจากการทำเด็กหลอดแก้ว ทั้งนี้ ผู้ป่วยควรพูดคุยและได้รับกำลังใจจากทั้งครอบครัว บุคคลใกล้ชิด และสามารถเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ หรือนักบำบัดได้เช่นกัน โดยแพทย์หรือนักบำบัดอาจแนะนำให้ผู้ป่วยเข้าร่วมกลุ่มบำบัด แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และให้กำลังใจซึ่งกันและกันในกลุ่มผู้ที่ทำเด็กหลอดแก้วเช่นเดียวกัน เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตและปรับตัวพร้อมรับสมาชิกใหม่ที่เกิดมา

การทำเด็กหลอดแก้วที่ไม่ประสบความสำเร็จ

สำหรับผู้ที่ไม่ประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว ควรเว้นช่วงหลาย ๆ เดือนเพื่อพักฟื้นสภาพร่างกายและจิตใจ ก่อนจะคิดเรื่องการมีบุตรและพยายามใหม่อีกครั้ง ระหว่างนี้ ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ถึงสาเหตุที่ทำให้การตั้งครรภ์ล้มเหลว เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่มีผลต่อการประสบความสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้ว และหากยังต้องการมีบุตร ควรเลือกวิธีการที่เหมาะสมต่อไป โดยผู้ป่วยและคู่ครองควรพูดคุยปรึกษากันถึงความพร้อมทางสภาพร่างกายและจิตใจก่อนจะดำเนินการขั้นตอนใดต่อไป ส่วนด้านสภาพจิตใจ ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ นักบำบัด หรือเข้าร่วมกลุ่มบำบัด แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และให้กำลังใจซึ่งกันและกันได้เช่นเดียวกัน

ความเสี่ยงจากการทำเด็กหลอดแก้ว