ขวดนม เลือกซื้อและทำความสะอาดอย่างไรให้ปลอดภัยต่อลูกน้อย

ขวดนมเป็นของใช้จำเป็นสำหรับคุณแม่ลูกอ่อนที่ควรเตรียมพร้อมไว้และเลือกใช้ให้เหมาะกับลูกน้อย แต่นอกจากการเลือกซื้อ ควรศึกษาวิธีทำความสะอาดและเก็บรักษาขวดนมอย่างถูกต้องด้วย เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การติดเชื้อ อาการท้องเสีย หรืออาเจียน เป็นต้น

1465 ขวดนม Resized

เลือกซื้อขวดนมแบบไหนดี ?

ในปัจจุบันขวดนมตามท้องตลาดมีให้เลือกซื้อหลายรูปแบบ แต่ก็เป็นเรื่องยากในการระบุลักษณะขวดนมที่เหมาะสำหรับทารกอย่างชัดเจน เพราะขวดนมแต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น วัสดุที่ใช้ผลิต หรือรูปทรงของขวดนม เป็นต้น

โดยข้อดีและข้อเสียของวัสดุผลิตขวดนมแต่ละชนิด มีดังนี้

ขวดนมพลาสติก

ขวดนมแก้ว

ขวดนมแบบใช้แล้วทิ้ง

ขวดนมสแตนเลส

นอกจากนี้ รูปทรงและลักษณะของขวดนมแต่ละชนิดก็อาจแตกต่างกัน ดังนี้

ทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่อาจเลือกซื้อขวดนมสัก 2-3 แบบมาลองใช้กับลูกน้อยก่อน แล้วค่อยสังเกตดูว่าแบบไหนเหมาะกับเด็กมากที่สุด จึงค่อยซื้อแบบดังกล่าวมาใช้เพิ่มต่อไป

ข้อควรระวังในการเลือกซื้อขวดนม

การเลือกซื้อขวดนมมีข้อควรระวัง ดังนี้

วิธีทำความสะอาดและเก็บขวดนมอย่างถูกต้อง

ในช่วงปีแรก ทารกจะมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิตค่อนข้างสูง ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะอื่น ๆ ที่รุนแรงขึ้นได้ เช่น ท้องเสีย อาเจียน หรือเป็นโรคกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กอักเสบ เป็นต้น การดูแลรักษาขวดนมให้สะอาดจึงอาจเป็นอีกทางที่ช่วยลดความเสี่ยงติดเชื้อดังกล่าวได้

หลายคนอาจเลือกทำความสะอาดขวดนมด้วยการใช้น้ำสบู่ธรรมดาหรือเลือกใช้การฆ่าเชื้อเพียงอย่างเดียว แต่นั่นอาจยังไม่สะอาดปลอดภัยเพียงพอ เพราะการทำความสะอาดขวดนมที่ถูกต้องควรใช้ทั้ง 2 วิธีรวมกัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดกับทารก

การล้างขวดนม

โดยวิธีการทำความสะอาดขวดนมก่อนนำไปฆ่าเชื้อ มีดังนี้

การฆ่าเชื้อขวดนม

สำหรับการฆ่าเชื้อขวดนมและอุปกรณ์ให้นม สามารถทำได้หลายวิธี เช่น

การต้ม เป็นวิธีฆ่าเชื้อที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ทำได้โดยนำขวดนมและอุปกรณ์ให้นมอื่น ๆ ลงไปต้มในหม้อที่มีน้ำเดือดและปิดฝาเป็นเวลาอย่างน้อย 10 นาที แต่ก่อนต้มขวดนมควรตรวจดูให้แน่ใจว่าไม่มีฟองอากาศอยู่ในขวดนมหรือจุกนม และขวดนมที่จะนำไปต้มผลิตจากวัสดุที่ทนความร้อนได้ นอกจากนี้ ควรตรวจสภาพจุกนมอย่างสม่ำเสมอ เพราะการต้มทำให้จุกนมเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ

การอุ่นในไมโครเวฟ การนำขวดนมไปอุ่นร้อนในไมโครเวฟเป็นวิธีการฆ่าเชื้อที่สะดวกและรวดเร็ว เพราะใช้เวลาเพียง 1.5 นาที และคงความสะอาดไว้ได้ถึง 3 ชั่วโมงหากเก็บไว้ในที่สะอาดปลอดเชื้อ และยังไม่ทิ้งกลิ่นหรือรสชาติไว้บนขวดนมอีกด้วย โดยการนำขวดนมเข้าไมโครเวฟก็ไม่ควรบิดเกลียวฝาขวดนมจนสุด แต่อาจแง้มฝาไว้เล็กน้อยเพื่อลดการก่อตัวของอากาศภายในขวดนม และควรระวังเรื่องความร้อน เพราะขวดนมตอนอุ่นเสร็จใหม่ ๆ อาจร้อนจัดเมื่อไปจับหรือสัมผัสโดน นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ไมโครเวฟนึ่งขวดนมได้ด้วยเช่นกัน โดยใช้ที่นึ่งขวดนมสำหรับไมโครเวฟโดยเฉพาะ และปฏิบัติตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์ ซึ่งอาจใช้เวลานึ่งนาน 3-8 นาที รวมเวลาพักขวดนมให้เย็นแล้ว ทั้งนี้ ห้ามนำวัสดุที่เป็นโลหะเข้าไมโครเวฟ และระยะเวลาในการฆ่าเชื้อขวดนมด้วยไมโครเวฟแต่ละเครื่องนั้นอาจไม่เท่ากัน เพราะมีกลไกการทำงานและระดับความร้อนที่ต่างกัน

การใช้เครื่องนึ่งขวดนม เป็นอีกวิธีที่สะดวกและรวดเร็ว เพราะใช้เวลาเพียง 12 นาทีซึ่งรวมเวลาพักขวดนมให้เย็นแล้ว และคงความสะอาดไว้ได้ถึง 6 ชั่วโมงหากเก็บไว้ในที่สะอาดปลอดเชื้อ โดยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัดในการใช้เครื่องนี้ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าวัสดุของขวดนมสามารถใช้กับเครื่องนึ่งขวดนมได้อย่างปลอดภัย สำหรับการวางขวดนมลงในเครื่องนึ่ง ควรเปิดฝาและคว่ำขวดนมลง ซึ่งจะช่วยฆ่าเชื้อโรคภายในขวดนมได้อย่างทั่วถึง

การแช่น้ำยาฆ่าเชื้อโรค ควรปฏิบัติตามคำแนะนำที่ระบุไว้บนฉลากผลิตภัณฑ์ โดยมีวิธีการใช้ทั่วไป คือ นำน้ำยาหรือเม็ดฟู่ฆ่าเชื้อไปละลายกับน้ำเย็นในภาชนะที่ไม่ใช่พลาสติก จากนั้นนำขวดนมและอุปกรณ์ให้นมอื่น ๆ แช่ไว้เป็นเวลา 30 นาที ปิดภาชนะดังกล่าวให้มิดชิด และควรเปลี่ยนน้ำที่ใช้แช่ทุก ๆ 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ควรตรวจให้มั่นใจก่อนว่าขวดนมหรือจุกนมไม่มีฟองอากาศอยู่ภายในก่อนนำลงไปแช่ในน้ำยาฆ่าเชื้อ และควรใช้ลูกสูบเพื่อไม่ให้ขวดนมลอยขึ้นมาเหนือน้ำ

เมื่อไหร่ที่ควรเปลี่ยนขวดนม ?

ข้อสังเกตที่บ่งบอกว่าควรเปลี่ยนขวดนม มีดังนี้