on
กาฬโรค ความตายสีดำ (ตอนที่ 2)
19 ธันวาคม 2014
มีการพบการแพร่ระบาดของกาฬโรคในแอฟริกา เอเชีย และอเมริกาใต้ แต่ภายหลังจากปี พ.ศ.2533 มักพบการแพร่ระบาดในแอฟริกา โดยในปี พ.ศ.2556 มีรายงานการติดเชื้อทั่วโลก 783 ราย และเสียชีวิต 126 ราย ทั้งนี้ประเทศที่มีการระบาดมากที่สุดได้แก่ ประเทศมาดากัสการ์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก และเปรู
คนที่ติดเชื้อโดยทั่วไปจะมีอาการคล้ายเป็นหวัด (Flu-like) หลังจากที่ติดเชื้อได้ประมาณ 3-7 วัน โดยมีอาการเป็นไข้ หนาวสั่น ปวดศีรษะและปวดตามตัว อ่อนเพลีย คลื่นไส้และอาเจียน
ทั้งนี้ กาฬโรคแบ่งออกตามกลุ่มอาการได้ 3 ชนิด ได้แก่ 1)Bubonic 2)Septicemic และ 3)Pneumonic
- Bubonic plague เป็นกาฬโรคชนิดที่พบบ่อยที่สุด อาการจะแสดงออกหลังจากถูกหมัดหนูกัดภายใน 1 สัปดาห์ เชื้อโรคจะเคลื่อนไปยังต่อมน้ำเหลืองที่ใกล้ที่สุด จะทำให้ต่อมน้ำเหลืองโตขนาด 1-10 ซม ลักษณะต่อมน้ำเหลืองจะบวม แดง กดเจ็บ (Bubo) ซึ่งอาจจะปวดมากจนขยับแขนหรือขาไม่ได้ โดยตำแหน่งที่เกิดมักจะเป็นบริเวณขาหนีบหรือรักแร้ อาการที่สำคัญ ได้แก่
- ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบ รักแร้ คอ บวมโต กดเจ็บ แดง
- ไข้สูง หนาวสั่น
- ปวดศีรษะ
- อ่อนเพลีย
- ปวดกล้ามเนื้อ
- Septicemic plague เป็นกาฬโรคชนิดที่เชื้อเข้ากระแสเลือด อาการที่สำคัญ ได้แก่
- ไข้สูง หนาวสั่น
- ปวดท้อง คลื่นไส้ และท้องเสีย
- เลือดออกในปาก จมูก ก้น หรือใต้ผิวหนัง
- เกิดภาวะช็อก (Shock)
- มักจะมีอาการเนื้อตายเน่าดำ (Gangrene) อันเนื่องมาจากการขาดเลือด โดยเฉพาะบริเวณนิ้วมือ นิ้วเท้า และจมูก
-
Pneumonic plague เป็นกาฬโรคชนิดที่พบได้น้อยที่สุด แต่รุนแรงที่สุด เกิดจากการสูดเอาเชื้อที่อยู่ในอากาศ อาจทำให้เสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว อาการที่สำคัญ ได้แก่
- ไอ มีเสมหะเป็นเลือด
- หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก
- ไข้สูง
- คลื่นไส้ อาเจียน
- อ่อนแรง
ทั้งนี้ Pneumonic plague มีการพัฒนาของโรคที่รวดเร็วมาก อาจทำให้ระบบหายใจล้มเหลวและเกิดภาวะช็อกภายใน 2 วันนับแต่ติดเชื้อ และหากไม่ได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะภายใน 1 วัน นับแต่ปรากฏอาการครั้งแรก ก็อาจเสียชีวิตได้
แหล่งข้อมูล
- Plague. [2014, December 18].
- Plague. [2014, December 18].