การวินิจฉัย ไข้หวัดใหญ่

การวินิจฉัย ไข้หวัดใหญ่

การวินิจฉัยโรคไข้หวัดใหญ่สามารถทำได้ดังนี้

การวินิจฉัยด้วยตนเอง สังเกตอาการส่วนใหญ่ที่เป็น เช่น การมีไข้สูง หนาวสั่น ไอ เจ็บคอ เป็นหวัด คัดจมูก ปวดหัว อ่อนเพลีย

การวินิจฉัยโดยแพทย์ แพทย์จะตรวจร่างกายและตรวจดูอาการที่ป่วย เพื่อรักษาตามอาการ ส่วนการตรวจหาเชื้อไวรัสและวิเคราะห์ผลทางแล็บ จะถูกนำมาใช้ต่อเมื่อมีข้อสงสัยหรือเริ่มมีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ที่รุนแรง

การตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ใช้ชุดทดสอบ Rapid Influenza Diagnosis Tests (RIDTs) โดยแพทย์จะเก็บตัวอย่างเชื้อจากน้ำมูกในจมูกหรือเสมหะในลำคอไปตรวจ เป็นวิธีที่ทำให้ทราบผลการตรวจอย่างรวดเร็วภายใน 30 นาที แต่วิธีการนี้ไม่สามารถตรวจพบไวรัสที่มีความเข้มข้นต่ำ และสามารถแยกไวรัสได้เพียงชนิด A และ B เท่านั้น ในบางครั้งผู้ป่วยจึงยังติดเชื้อแม้จะมีผลตรวจออกมาเป็นลบก็ตาม

การตรวจเพาะเชื้อไวรัสแบบ RT-PCR (Reverse Transcription-Polymerase Chain Reaction) เป็นการตรวจเพื่อยืนยัน ใช้เวลารอผลเพาะเชื้อประมาณ 3-7 วัน โดยเก็บสารคัดหลั่งในโพรงจมูกหรือในลำคอของผู้ป่วยที่ยังตรวจไม่พบเชื้อในกรณีใช้ชุดทดสอบแบบแรก แต่ยังสงสัยว่าได้รับเชื้อจริงหรือจำเป็นต้องได้รับการยืนยันที่แน่นอนเพื่อรับการรักษา

อีกวิธีคือการตรวจ Fluorescent Antibody เป็นการตรวจหาแอนติเจนของไวรัสไข้หวัดใหญ่ผ่านการส่องกล้องจุลทรรศน์ หากพบจุลชีพของไวรัส จะมองเห็นเป็นจุดเรืองแสง