การรักษา โรคกระเพาะอาหารอักเสบ

การรักษา โรคกระเพาะอาหารอักเสบ

โรคกระเพาะอาหารอักเสบจะรักษาตามสาเหตุและการประคับประคองไปตามอาการของผู้ป่วยเป็นหลัก ซึ่งแพทย์อาจแนะนำให้ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารเบื้องต้น หากอาการไม่ดีขึ้น แพทย์จะให้การรักษาด้วยการใช้ยาควบคู่ไปด้วย ซึ่งสามารถแบ่งประเภทของยาที่ใช้รักษาได้หลายกลุ่ม

ยาปฏิชีวนะ เพื่อช่วยในการการฆ่าเชื้อ เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร ที่อยู่ในระบบย่อยอาหาร เช่น ยาคลาริโธรมัยซิน (Clarithromycin) ยาอะมอกซิซิลลิน (Amoxicillin) หรือยาเมโทรนิดาโซล (Metronidazole) ผู้ป่วยควรรับประทานให้ครบตามแพทย์แนะนำ

ยาลดกรด ช่วยให้กรดในกระเพาะอาหารเกิดความสมดุลและช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง แต่อาจส่งผลข้างเคียงให้เกิดอาการท้องผูกหรือท้องร่วง ซึ่งขึ้นอยู่กับตัวยาหลักในแต่ชนิดยา เช่น ยาลดกรดที่มีสารประกอบแมกนีเซียม ยาลดกรดที่มีสารประกอบอลูมิเนียม ยาลดกรดที่มีสารประกอบแคลเซียม นอกจากนี้ควรระวังการใช้ยาลดกรดร่วมกับยาในกลุ่มอื่น เพราะยาลดกรดอาจส่งผลต่อการดูดซึมต่อยาบางชนิดที่ต้องรับประทานร่วมกัน

ยายับยั้งการหลั่งกรดและรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ที่มีฤทธิ์หยุดการสร้างกรดในกระเพาะอาหาร แบ่งออกได้ 2 ประเภท

  • ยากลุ่มโปรตอน ปั๊ม อินฮิบิเตอร์ (Proton Pump Inhibitors) มีทั้งยาที่ต้องจ่ายโดยแพทย์และยาที่หาซื้อได้ตามร้านขายยา เช่น ยาลดกรด (Omeprazole) ยาแลนโซพราโซล (Lansoprazole) ยาราบีพราโซล (Rabeprazole) ยาอีโซเมปราโซล (Esomeprazole) เด็กซ์แลนด์โซพราโซ (Dexlansoprazole) แพนโทพราโซล (Pantoprazole) เป็นต้น
  • ยาในกลุ่มยับยั้งฮิสทามีนชนิดที่ 2 (Histamine (H-2) blockers) ที่ไปหยุดการทำงานของเซลล์ในกระเพาะอาหารให้ผลิตกรดลดลง ช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง เช่น แรนิทิดีน (Ranitidine) ฟาโมทิดีน (Famotidine) ไซเมทิดีน (Cimetidine) นิซาติดีน (Nizatidine)

ยาเคลือบกระเพาะอาหาร ทำหน้าที่เคลือบเยื่อบุและแผลที่เกิดภายในกระเพาะอาหารจากกรด เช่น ยาซูครัลเฟต (Sucralfate) หรือยาไมโซพรอสทอล (Misoprostol) ที่ใช้เคลือบกระเพาะอาหารแล้วและยังช่วยป้องกันการเกิดแผลในทางเดินอาหารสำหรับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงจากการใช้ยาในกลุ่มยาต้านการอักเสบ

ยาต้านอาเจียนหรือยาแก้คลื่นไส้อาเจียน มีฤทธิ์ในการบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน ที่เป็นผลจากความผิดปกติของกระเพาะอาหารหรือลำไส้