การรักษาโรคขาดวิตามินเอ (Vitamin A deficiency) วิธีป้องกัน 5 วิธี

โรคขาดวิตามินเอ

โรคขาดวิตามินเอ หรือ เกล็ดกระดี่ขึ้นตา (Vitamin A deficiency) เป็นโรคที่มักพบได้ในเด็กที่ครอบครัวมีฐานะยากจนและในท้องที่ชนบทบางแห่ง (โดยเฉพาะในประเทศที่ด้อยพัฒนาและกำลังพัฒนาอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย โดยเฉพาะทางภาคอีสาน) มักพบในเด็กวัยแรกเกิดจนถึงอายุ 5 ปี ส่วนในผู้ใหญ่จะพบเป็นโรคนี้ได้น้อย

ภาวะขาดวิตามินเอนี้จะทำให้ประสาทตาส่วนที่เรียกว่า จอตา หรือ เรตินา (Retina) เสื่อมลง ทำให้เยื่อบุตาแห้งและต่อมน้ำตาไม่ทำงาน จึงอาจทำให้เด็กที่เป็นโรคนี้ตาบอดได้ ซึ่งชาวบ้านจะรู้จักโรคนี้กันดีในชื่อว่า “โรคเกล็ดกระดี่ขึ้นตา” เพราะในสมัยก่อนโรคนี้เป็นโรคที่พบได้บ่อย แต่อย่างไรก็ตาม โรคนี้ก็สามารถรักษาและป้องกันได้ด้วยการเสริมวิตามินเอ

สาเหตุของโรคขาดวิตามินเอ

โรคนี้มีสาเหตุมาจากการที่ร่างกายได้รับวิตามินเอจากอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการ เช่น เด็กที่กินแต่นมข้นหวาน ข้าวและกล้วยบดเป็นหลัก เด็กที่ไม่ได้รับอาหารตามวัยเมื่อถึงเวลาอันสมควร โดยไม่ได้รับอาหารเสริมอื่น ๆ เลย โดยเฉพาะอาหารที่มีวิตามินเอ เช่น เนื้อสัตว์ ตับ ไข่แดง พืชผักใบเขียว

โรคนี้มักพบร่วมกับโรคขาดอาหารหรือภาวะทุพโภชนาการ (Malnutrition) แต่ผู้ป่วยบางรายอาจเป็นโรคนี้ได้หลังจากเป็นโรคติดเชื้อ (เช่น ปอดอักเสบ หัด) หรือท้องร่วงเรื้อรัง

ในผู้ใหญ่จะพบคนเป็นโรคนี้ได้น้อย ถ้าพบก็มักจะมีสาเหตุมาจากโรคอื่น ๆ ที่มีผลทำให้การดูดซึมวิตามินเอลดลง เช่น โรคท้องร่วงเรื้อรัง โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง โรคตับเรื้อรัง ท่อน้ำดีอุดตัน เป็นต้น

กลุ่มที่เสี่ยงต่อการขาดวิตามินเอ

อาการของโรคขาดวิตามินเอ

เมื่อร่างกายได้รับวิตามินเอจากอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการ จะส่งผลให้ปริมาณวิตามินเอที่สะสมในตับ เลือด และเนื้อเยื่อลดน้อยลง ทำให้เกิดภาวะบกพร่องวิตามินเอในระดับที่ยังไม่แสดงอาการทางคลินิก (Subclinic Vitamin A Deficienc) และจะแสดงอาการทางตาหากร่างกายขาดวิตามินอย่างรุนแรงยิ่งขึ้น โดยอาการทางตานั้นมี 3 ระยะ คือ

นอกจากอาการแสดงทางตาแล้ว ผู้ป่วยยังอาจพบร่วมกับอาการอื่น ๆ ได้ด้วย (เพราะวิตามินเอมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพ โดยมีบทบาทสำคัญต่อระบบการมองเห็น การสร้างภูมิคุ้มกันโรค การเจริญเติบโต รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของเซลล์เยื่อบุผิวต่าง ๆ) เช่น

การวินิจฉัยโรคขาดวิตามินเอ

โรคนี้จะวินิจฉัยได้ก็ต่อเมื่อเกิดอาการของโรคแล้วเท่านั้น ซึ่งจากการตรวจร่างกายของผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้จะพบว่าเยื่อตาขาวรอบ ๆ กระจกตาดำของผู้ป่วยเป็นรอยย่น กระจกตาดำขุ่นมัวไม่สะท้อนแสง และมีเกล็ดกระดี่ตรงด้านหางตา

สำหรับในกลุ่มเสี่ยงที่แพทย์สงสัยว่าจะขาดสารอาหารหรือมีโรคท้องร่วงเรื้อรัง แพทย์อาจจะเจาะเลือดตรวจหาระดับวิตามินเอ Plasma retinol ซึ่งค่าปกติจะอยู่ที่ระหว่าง 20-80 µg/dL ถ้ามีค่าอยู่ที่ระหว่าง 10-19 ก็ถือว่ามีค่าต่ำ ส่วนผู้ที่มีค่าน้อยกว่า 10 µg/dL จะถือว่าขาดวิตามินเอ

วิธีรักษาโรคขาดวิตามินเอ

วิธีป้องกันโรคขาดวิตามินเอ

สามารถป้องกันการเกิดโรคขาดวิตามินได้จากการรับประทานอาหารที่มีวิตามินเอสูง ผู้ปกครองจึงควรให้เด็กรับประทานอาหารที่มีวิตามินเอสูง ๆ ให้มากเป็นประจำ โดยอาหารที่มีวิตามินสูง ได้แก่ เนื้อ ตับ ไข่ นม แคร์รอต แคนตาลูป ฟักทอง มะเขือเทศ มะละกอสุก มะม่วงสุก ผักสีเหลืองและสีเขียวเข้ม (เช่น ผักบุ้ง ผักคะน้า ผักกาดขาว ใบตำลึง ใบมันสำปะหลัง ยอดกระถิน ยอดชะอม บรอกโคลี แตงกวา) ผลไม้สีเหลือง พริกที่เผ็ด ๆ (เช่น พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า) เป็นต้น

โรคขาดวิตามินเอและวิธีป้องกัน
IMAGE SOURCE : www.day-news.info
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2.  “โรคขาดวิตามินเอ/เกล็ดกระดี่ขึ้นตา (Vitamin A deficiency)”.  (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).  หน้า 838-839.
  2. สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข.  “ภาวะขาดวิตามินเอ”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : nutrition.anamai.moph.go.th.  [08 มี.ค. 2017].
  3. มูลนิธิหมอชาวบ้าน. นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่ 4 คอลัมน์ : เด็กๆ..(ผู้ใหญ่ อ่านดี).  “เกล็ดกระดี่ขึ้นตา”.  (นพ.ปรีชา วิชิตพันธ์).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.doctor.or.th.  [09 มี.ค. 2017].
  4. Siamhealth.  “โรคขาดวิตามินเอ”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.siamhealth.net.  [09 มี.ค. 2017].
  5. สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว.  “โรคตาบอดจากการขาดวิตามินเอ”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : kanchanapisek.or.th/kp6/.  [10 มี.ค. 2017].

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 โรคขาดวิตามินเอ
  • 2 สาเหตุของโรคขาดวิตามินเอ
  • 3 กลุ่มที่เสี่ยงต่อการขาดวิตามินเอ
  • 4 อาการของโรคขาดวิตามินเอ
  • 5 การวินิจฉัยโรคขาดวิตามินเอ
  • 6 วิธีรักษาโรคขาดวิตามินเอ
  • 7 วิธีป้องกันโรคขาดวิตามินเอ
  • 8 เรื่องที่เกี่ยวข้อง
  • 9 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ