การปฏิสนธิเป็นอย่างไร เกิดขึ้นตอนไหน

การปฏิสนธิ คือ กระบวนการที่เชื้ออสุจิของเพศชายเข้าผสมกับไข่ของเพศหญิง ซึ่งจะนำไปสู่การตั้งครรภ์ในภายหลัง โดยผู้ที่กำลังวางแผนมีบุตรอาจสงสัยว่าการปฏิสนธินั้นมีกระบวนการอย่างไร และช่วงเวลาใดที่มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ การศึกษาข้อมูลต่อไปนี้จะช่วยไขข้อข้องใจดังกล่าวได้ และยังมีคำแนะนำบางส่วนที่เกี่ยวกับการกระตุ้นให้เกิดการปฏิสนธิสำหรับว่าที่คุณพ่อคุณแม่ที่อยากมีเจ้าตัวน้อยด้วย

1425 การปฏิสนธิ resized

ขั้นตอนการปฏิสนธิ

การปฏิสนธิมีกระบวนการดังต่อไปนี้

หลังตัวอ่อนฝังตัวแล้ว ร่างกายจะสร้างฮอร์โมนเอชซีจี (HCG) หรือฮอร์โมนตั้งครรภ์ขึ้น ซึ่งจะสามารถตรวจหาฮอร์โมนดังกล่าวได้ด้วยชุดทดสอบการตั้งครรภ์ในช่วงประมาณ 3-4 สัปดาห์หลังจากวันแรกของประจำเดือนรอบที่มาครั้งล่าสุด

ช่วงเวลาที่มีโอกาสเกิดการปฏิสนธิมากที่สุด

การปฏิสนธิจะเกิดขึ้นเมื่อมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาที่มีการตกไข่เท่านั้น โดยใน 1 เดือนจะมีกระบวนการตกไข่เพียงแค่ครั้งเดียว ซึ่งหมายความว่าใน 1 เดือนมีโอกาสเพียงไม่กี่วันเท่านั้นที่ผู้หญิงจะตั้งครรภ์ได้ อย่างไรก็ตาม การมีเพศสัมพันธ์และวันที่ไข่ตกนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นวันเดียวกันถึงจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ เนื่องจากสเปิร์มที่แข็งแรงสามารถมีชีวิตอยู่ในร่างกายของผู้หญิงได้นานกว่า 48-72 ชั่วโมง และไข่จะมีชีวิตอยู่ได้นานกว่า 12-24 ชั่วโมงหลังการตกไข่ โดยผู้ที่มีประจำเดือนมาปกติจะเกิดการตกไข่ 14 วันก่อนมีประจำเดือนครั้งต่อไป ซึ่งการปฏิสนธิจะเกิดขึ้นเมื่อสเปิร์มและไข่ผสมกันแทบจะทันทีหลังเกิดการตกไข่

วิธีการคำนวณระยะไข่ตก

ปกติแล้วกระบวนการตกไข่จะเกิดขึ้นประมาณ 14 วันก่อนมีประจำเดือนครั้งต่อไป ซึ่งผู้ที่มีระยะห่างของรอบเดือน 28 วันสามารถคำนวณระยะไข่ตกได้จากการนับวันที่มีประจำเดือนมาวันแรกเป็นวันที่ 1 โดยวันที่มีไข่ตกหรือมีโอกาสตั้งครรภ์สูงที่สุด คือ วันที่ 14 นับจากวันที่มีประจำเดือนมาเป็นวันแรก ส่วนวันที่มีโอกาสตั้งครรภ์สูงสุดของผู้ที่มีรอบเดือนทุก ๆ 32 วัน คือ วันที่ 18 นับจากวันแรกของการมีประจำเดือน

อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้อาจไม่ค่อยแม่นยำนัก เนื่องจากแต่ละคนมีช่วงรอบเดือนที่แตกต่างกัน และภาวะไข่ตกไม่ได้เกิดหลังประจำเดือนมา 14 วันเสมอไป

ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการปฏิสนธิ

นอกจากการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาที่มีการตกไข่แล้ว ฮอร์โมนก็เป็นปัจจัยสำคัญในการปฏิสนธิด้วย โดยฮอร์โมนในร่างกายต้องมีความสมดุลและเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของไข่ เพื่อให้กระบวนการตกไข่เป็นไปอย่างปกติ ต้องมีปริมาณสเปิร์มที่แข็งแรงเพียงพอที่จะว่ายไปหาไข่ได้ และต้องไม่มีอุปสรรคขวางกั้นการปฏิสนธิ เช่น ภาวะท่อนำไข่อุดตัน เป็นต้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้สเปิร์มไม่สามารถผสมกับไข่ได้

กระตุ้นการปฏิสนธิด้วยวิธีธรรมชาติ

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างต่อไปนี้ อาจช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้