การทำหมันหญิง 8 ข้อดี-ข้อเสีย วิธีทำหมันและแก้หมันหญิง

การทำหมัน

การทำหมันในบ้านเรามีมาตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ.2470 แล้ว ในสมัยแรกจะนิยมทำกันในหมู่คนที่มีการศึกษาสูงหรือผู้มีฐานะดี โดยจะทำกันเฉพาะในเมืองใหญ่ ๆ แต่ในปัจจุบันนี้การทำหมันได้รับความนิยมมากขึ้นและแพร่หลาย และเมื่อถึงจุดหนึ่งของชีวิตเราก็ต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะไม่มีลูกอีกต่อไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม การทำหมันก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ควรใช้ เพราะเป็นการคุมกำเนิดถาวรที่ทำได้ง่าย สะดวก ปลอดภัย ใช้เวลาน้อย สุขภาพร่างกายไม่เปลี่ยนแปลง และได้ผลดีเกือบ 100% เพราะสามารถช่วยป้องกันไม่ให้ตัวเชื้ออสุจิของฝ่ายชายมาพบกับไข่ของฝ่ายหญิง ซึ่งก็สามารถทำได้ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง แต่ในที่นี้จะขอกล่าวถึงเฉพาะการทำหมันหญิงครับ

การทําหมันหญิง

การทำหมันหญิง (Female Sterilization) คือ การคุมกำเนิดชนิดหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงมาก เป็นวิธีที่ประหยัด ปลอดภัย มีอัตราการล้มเหลวทำให้เกิดการตั้งครรภ์น้อยมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีบุตรเพียงพอแล้ว และเกิดจากการตัดสินใจร่วมกันทั้งสามีและภรรยา รวมถึงผู้ที่มีข้อห้ามในการตั้งครรภ์ โดยจะเป็นการทำให้ท่อนำไข่ (Fallopian Tube) อุดตัน โดยการใช้ไฟฟ้าจี้ (D), ผูกและตัด (A), ใช้คลิปหนีบ (C), หรือใช้วงแหวนพลาสติก (B) รัดทางเดินของท่อนำไข่ หรือที่เรียกกันว่าปีกมดลูกทั้งสองข้าง ไข่ที่ตกจากรังไข่เดือนละ 1 ใบ จะไม่สามารถเข้ามาผสมกับตัวอสุจิจากฝ่ายชายได้ เมื่อไข่ไม่ถูกผสมก็จะฝ่อไปเองภายใน 1 วัน ส่วนรังไข่ก็ผลิตไข่และฮอร์โมนไปตามปกติ หลังทำหมันแล้วก็สามารถทำงานได้ตามปกติ เพียงแต่ห้ามยกของหนักในช่วง 3-4 วันแรกเท่านั้น ไม่มีข้อห้ามอื่น ๆ สามารถร่วมเพศได้เลย เพราะให้ผลในการคุมกำเนิดแบบทันที ไม่ต้องรอนาน 3-4 เดือนเหมือนที่เข้าใจกัน

ในสมัยก่อนนั้นการทำหมันหญิงจะทำกันเฉพาะในรายที่เพิ่งคลอดบุตรใหม่ ๆ เพราะสามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว เนื่องจากหลังคลอดใหม่ มดลูกยังสูงอยู่ จึงง่ายที่จะผ่าแผลเล็ก ๆ แพทย์จะทำบริเวณใต้สะดือหรือในขอบสะดือ โดยผ่าประมาณ 2-3 เซนติเมตร เข้าไปหาท่อนำไข่แล้วทำให้อุดตัน ซึ่งวิธีนี้เรียกว่า “การทําหมันเปียก” (การทำหมันหลังคลอด) เมื่อทำเสร็จแล้วต้องนอนพักโรงพยาบาลประมาณ 1-2 วัน จึงจะกลับบ้านได้ แต่ในปัจจุบันความก้าวหน้าทางการแพทย์พัฒนาไปมาก จึงทำให้การทำหมันหญิงเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว มีความปลอดภัย และประหยัดมาก ทั้งยังสามารถทำได้ในระยะเวลาปกติโดยไม่ต้องรอทำหลังการคลอดบุตร วิธีนี้จึงได้รับความนิยมกันมากขึ้นและแพร่หลายไปทั่วโลก หรือที่เรียกว่า “การทําหมันแห้ง” ซึ่งใช้เวลาไม่นานครับ เมื่อทำเสร็จแล้วหมอจะให้นอนพักประมาณ 2-3 ชั่วโมงก็กลับบ้านได้เลย

การทำหมัน

ประเภทของการทำหมันหญิง

1.) การทำหมันหลังคลอด (การทำหมันเปียก) เป็นการทำหมันภายใน 6 สัปดาห์แรกหลังการคลอดบุตร โดยนิยมทำในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังการคลอดบุตร เนื่องจากสามารถทำได้โดยง่าย แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก เนื่องจากมดลูกยังมีขนาดโตลอยอยู่ในช่องท้องเหนืออุ้งเชิงกราน จึงทำให้สามารถหาท่อนำไข่ทั้ง 2 ข้างได้ง่าย วิธีที่นิยมทำกันก็คือ การลงแผลผ่าตัดใต้สะดือ ขนาดแผลยาวประมาณ 2-5 เซนติเมตร แล้วทำการผูกท่อนำไข่และตัดท่อนำไข่บางส่วนออกทั้งสองข้าง เมื่อทำเสร็จแล้วต้องนอนพักโรงพยาบาลประมาณ 1-2 วัน จึงจะกลับบ้านได้ หลังผ่าตัดประมาณ 6-7 วัน จึงมาตัดไหม ส่วนคนที่ผ่าท้องคลอด แพทย์จะทำหมันไปพร้อมกันเลย จะได้ไม่ต้องมาทำใหม่อีก ซึ่งจะต้องนอนพักในโรงพยาบาลประมาณ 4-5 วัน และแพทย์ส่วนใหญ่มักจะแนะนำให้ทำหมันด้วยวิธีนี้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว เพราะฉะนั้นผู้ที่คิดจะทำหมันด้วยวิธีนี้จะต้องคิดและตัดสินใจให้แน่วแน่ในขณะที่กำลังตั้งครรภ์ เมื่อคลอดเสร็จจะได้ทำหมันได้เลย

2.) การทำหมันปกติ (การทำหมันแห้ง) เป็นการทำหมันในระยะที่ไม่ใช่ในช่วง 6 สัปดาห์แรกหลังการคลอดบุตร มดลูกจะมีขนาดปกติและอยู่ในอุ้งเชิงกราน การผ่าตัดจึงมีความยากในการหาท่อนำไข่มากกว่าการทำหมันเปียก แต่ก็ใช้เวลาไม่นานครับ เพียงแค่ 10-15 นาที เมื่อทำเสร็จแล้วหมอจะให้นอนพักประมาณ 2-3 ชั่วโมงก็กลับบ้านได้เลย พร้อมกับให้ยาแก้ปวดไปกิน อีกประมาณ 6-7 วันจึงค่อยกลับมาให้หมอตัดไหม ซึ่งการทำหมันแห้งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 วิธี คือ

การทำหมันหญิง

หมันหญิง

วิธีทําหมันหญิง

ทำหมันหญิง

ในรายที่มีการตัดส่วนของท่อนำไข่ออกมา ถ้ายังไม่แน่ว่าเป็นท่อนำไข่จริงหรือไม่ แพทย์หรือพยาบาลที่ช่วยผ่าตัดจะทำการตรวจสอบเพื่อยืนยันว่าเป็นท่อนำไข่อีกครั้ง (เพราะอาจไปตัดส่วนของเอ็นที่ยึดมดลูกออกมาก็ได้) ด้วยการร้อยไหมให้ผ่านรูของชิ้นเนื้อที่ตัดออกมา หากร้อยไหมได้แสดงว่าส่วนที่ตัดออกมาเป็นท่อนำไข่จริง แต่ในกรณีที่แพทย์ไม่สามารถมองเห็นส่วนปลายของท่อนำไข่หรือพยาบาลไม่สามารถร้อยไหมผ่านรูชิ้นเนื้อได้ หรือมีข้อสงสัยอื่น ๆ แพทย์อาจจะส่งชิ้นเนื้อที่ตัดออกมาไปตรวจทางพยาธิวิทยาว่าเป็นท่อนำไข่จริงหรือไม่

3.) การทำหมันแบบ Essure เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดมากกว่า 2 วิธีแรก โดยกระบวนการ Essure จะเป็นการสกัดกั้นไม่ให้ไข่กับสเปิร์มมาเจอกัน โดยใช้วัตถุขนาดเล็กที่ทำขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์หรือนิกเกิลที่มีลักษณะเป็นขดลวด 2 ขด (ข้างละ 1 ขด) สอดเข้าไปในท่อนำไข่ โดยใช้กล้องส่องตรวจโพรงมดลูก ใส่เข้าไปทางช่องคลอด ผ่านปากมดลูก ซึ่งกล้องที่ใส่เข้าไปนี้สามารถหมุนเข้าไปอุดท่อนำไข่ได้ เพื่อสร้างปฏิกิริยากระตุ้นให้ร่างกายสร้างพังผืดขึ้นมาปิดท่อนำไข่ ซึ่งใช้เวลาในการทำเพียง 5 นาทีเท่านั้น พูดได้ว่าพักงานเที่ยงไปทำหมันเสร็จกลับมาบ่ายก็ไม่มีใครรู้ เพราะไม่จำเป็นต้องพักฟื้น หลังทำเสร็จก็ไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็นจากการผ่าตัดแต่อย่างใด แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการทำหมันด้วยวิธีนี้คือช่วงแรกหลังจากประจำเดือนหมด เนื่องจากเยื่อบุโพรงมดลูกจะบางมากจนสามารถมองเห็นท่อนำไข่ทั้ง 2 ข้างได้อย่างชัดเจน และเพียงชั่วเวลา 3 เดือนหลังทำหมัน เนื้อเยื่อที่อยู่รอบ ๆ ขดลวดก็จะเจริญเติบโตจนท่อนำไข่ถูกอุดตันลงอย่างสมบูรณ์ หลังจากใส่อุปกรณ์เข้าไป ผู้ทำหมันสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ แต่ต้องใช้วิธีการคุมกำเนิดอย่างอื่นร่วมด้วยเพื่อรอให้ร่างกายสร้างพังผืดขึ้นมาปิดท่อรังไข่ได้ทั้งหมดก่อน

ทำหมัน

หลังจากใส่เครื่องมือไปแล้ว 3 เดือน แพทย์จะนัดกลับมาตรวจอีกครั้งเพื่อดูความคืบหน้าของการทำหมันว่าเรียบร้อยดีหรือไม่ ด้วยการฉีดสีเข้าไป หรือเอกซเรย์ดูว่าตัวโลหะที่ใส่เข้าไปอยู่ในจุดที่ถูกต้องดีหรือไม่ ถ้าเรียบร้อยดีจึงจะถือว่าเป็นการทำหมันถาวรได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ในส่วนของผลข้างเคียงนั้น อุปกรณ์ที่ใส่เข้าไปจะเป็นนิกเกิลกับไทเทเนียม ซึ่งเป็นโลหะที่มีปฏิกิริยาต่อร่างกายต่ำอยู่แล้ว จึงไม่มีผลข้างเคียงแต่อย่างใด

ทําหมันหญิง

4.) การทำหมันโดยการตัดมดลูกในเพศหญิง (Hysterectomy) เป็นการผ่าตัดเพื่อเอามดลูกออกไปจากร่างกาย แต่ไม่ได้หมายความรวมถึงการตัดรังไข่ออกด้วย ซึ่งเป็นการป้องกันการตั้งครรภ์ได้แบบถาวร และวิธีนี้ยังใช้สำหรับการรักษาโรคบางโรคได้อีกด้วย เช่น มะเร็งของระบบอวัยวะสืบพันธุ์สตรี เช่น เนื้องอกมดลูก, มดลูกหย่อน, เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่, ประจำเดือนมามาก, มะเร็งปากมดลูก มะเร็งกล้ามเนื้อมดลูก มะเร็งท่อนำไข่ หรือมะเร็งรังไข่ เป็นต้น

การทําหมันหญิงถาวร

หมายเหตุ : ปกติแล้วถ้าพูดถึงการทำหมันสตรี ในความหมายของคนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าเป็นการทำหมันเปียกหรือการทำหมันแห้งครับ

ประสิทธิภาพในการทำหมันหญิง

การทำหมันหญิงถือเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ดีที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากมีผลข้างเคียงน้อย และมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูง (แม้จะไม่ 100% ก็ตาม) ซึ่งตามหลักการแล้วการทำหมันหญิงอย่างถูกต้อง (Perfect use) จะมีโอกาสล้มเหลวทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้เพียง 0.5% ซึ่งหมายความว่า จำนวนการตั้งครรภ์ต่อปีของสตรีที่คุมกำเนิดด้วยการทำหมันแบบ Tubal ligation จำนวน 200 คน จะมีโอกาสตั้งครรภ์ประมาณ 1 คน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ด้วย เช่น ความชำนาญของแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด วิธีการผ่าตัด ความยาวของท่อนำไข่ที่ตัดออก หรือผู้เข้ารับการผ่าตัดมีการตั้งครรภ์อยู่ก่อนแล้วก่อนการทำหมัน ฯลฯ และแม้ว่าจะทำการผ่าตัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทำการผ่าตัดอย่างถูกต้อง แต่ก็ยังมีรายงานพบการเชื่อมต่อกันเองของปลายท่อนำไข่และทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้อยู่ และในส่วนของการทำหมันหญิงแบบ Essure อย่างถูกต้อง พบว่าจะมีโอกาสล้มเหลวทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้เพียง 0.26% หรือคิดเป็น 1 ใน 384 คน ส่วนด้านล่างนี้เป็นตารางเปรียบเทียบระหว่างการคุมกำเนิดด้วยวิธีการทำหมันหญิงกับวิธีการคุมกำเนิดแบบอื่น ๆ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจครับ

วิธีคุมกำเนิด การใช้แบบทั่วไป การใช้อย่างถูกต้อง ระดับความเสี่ยง
ยาฝังคุมกำเนิด 0.05 (1 ใน 2,000 คน) 0.05 ต่ำมาก
ทำหมันชาย 0.15 (1 ใน 666 คน) 0.1 ต่ำมาก
ห่วงอนามัยเคลือบฮอร์โมน 0.2 (1 ใน 500 คน) 0.2 ต่ำมาก
ยาฉีดคุมกำเนิด (ฮอร์โมนรวม) 0.2 (1 ใน 500 คน) 0.2 ต่ำมาก
ทำหมันหญิงแบบไร้แผล (Essure) 0.26 (1 ใน 384 คน) 0.26 ต่ำมาก
ทำหมันหญิงแบบทั่วไป 0.5 (1 ใน 200 คน) 0.5 ต่ำมาก
ห่วงอนามัยหุ้มทองแดง 0.8 (1 ใน 125 คน) 0.6 ต่ำมาก
ยาฉีดคุมกำเนิด (ฮอร์โมนเดี่ยว) 6 (1 ใน 17 คน) 0.2 ปานกลาง
แผ่นแปะคุมกำเนิด 9 (1 ใน 11 คน) 0.3 ปานกลาง
วงแหวนคุมกำเนิด (NuvaRing) 9 (1 ใน 11 คน) 0.3 ปานกลาง
ยาเม็ดคุมกำเนิด 9 (1 ใน 11 คน) 0.3 ปานกลาง
ฝาครอบปากมดลูก (Diaphragm) 12 (1 ใน 8 คน) 6 สูง
ถุงยางอนามัยชาย 18 (1 ใน 5 คน) 2 สูง
การหลั่งนอก 22 (1 ใน 4 คน) 4 สูงมาก
การหลั่งใน (ไม่มีการป้องกัน) 85 (6 ใน 7 คน) 85 สูงมาก

หมายเหตุ : ตัวเลขที่แสดงเป็นจำนวนการตั้งครรภ์ต่อปี (first year of use) ของสตรีที่คุมกำเนิดด้วยวิธีดังกล่าวจำนวน 100 คน โดยกำหนดให้ สีฟ้า = ความเสี่ยงต่ำมาก / สีเขียว = ความเสี่ยงต่ำ / สีเหลือง = ความเสี่ยงปานกลาง / สีส้ม = ความเสี่ยงสูง / สีแดง = ความเสี่ยงสูงมาก (ข้อมูลจาก : www.contraceptivetechnology.org, Comparison of birth control methods – Wikipedia)

ผู้ที่ไม่เหมาะจะทำหมันหญิง

ข้อจำกัดในการทำหมันหญิง

การเตรียมตัวก่อนการทำหมันหญิง

การดูแลตัวเองหลังการทำหมันหญิง

  1. ส่วนใหญ่ผู้เข้ารับการผ่าตัดทำหมันหญิงจะสามารถกลับบ้านได้เลยหลังจากตื่นจากยาสลบ แต่บางรายอาจจะต้องนอนโรงพยาบาลอีก 1 คืน
  2. หลังผ่าตัดทำหมันหญิงควรนอนพักเพื่อสังเกตอาการอย่างน้อยประมาณ 2-3 ชั่วโมง ในบางครั้งยังอาจมีอาการมึนงงจากยาชาและยาสลบ จึงควรมีญาติพากลับบ้าน ไม่ควรเดิน ขับรถ หรือกลับบ้านเพียงลำพัง จากนั้นจึงสังเกตอาการด้วยตนเอง หากมีอาการปวดแผลผ่าตัดมากหรือมีเลือดออกบริเวณผ่าตัด ให้รีบกลับไปโรงพยาบาล
  3. หลังการผ่าตัดแผลจะหายเป็นปกติภายใน 4-5 วัน ในระหว่างนี้ควรระมัดระวังไม่ให้แผลผ่าตัดถูกน้ำ ไม่ควรอาบน้ำร้อน หรือว่ายน้ำจนกว่าจะครบกำหนดเปิดแผล หรือประมาณ 1 สัปดาห์หลังการผ่าตัด
  4. ควรหลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือน เช่น การยกของหนัก การเดินนาน ๆ การเล่นกีฬาที่ต้องออกแรงมาก ๆ หรือการทำงานหนักหลังการผ่าตัดทำหมันอย่างน้อย 1 สัปดาห์ หรือจนกว่าแผลจะหายสนิทดีแล้ว ทั้งนี้เพื่อป้องกันการตกเลือดหรืออาการปวดแผลหลังการผ่าตัด (หากเย็บแผลด้วยไหมละลาย หลังเปิดแผลถ้าแผลหายดีก็สามารถอาบน้ำได้เลย แต่ถ้าเป็นการเย็บแผลด้วยไหมธรรมดา ต้องไปตัดไหมก่อนเมื่อครบ 7 วัน แล้วจึงจะอาบน้ำได้)
  5. สำหรับการทำหมันแห้งควรงดมีเพศสัมพันธ์หลังการทำหมันอย่างน้อย 7 วัน หรือจนกว่าจะไม่เจ็บแผลผ่าตัด ส่วนการทำหมันเปียก สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้หลังจากคลอดบุตรแล้วประมาณ 4-6 สัปดาห์
  6. หากมีอาการปวดแผลผ่าตัดให้รีบประทานยาเพื่อบรรเทาอาการปวด เช่น พาราเซตามอล (แต่ส่วนมากจะมีอาการปวดเพียงเล็กน้อย และไม่จำเป็นต้องใช้ยาครับ) แต่หากมีอาการปวดมากก็ควรรีบไปพบแพทย์ครับ และหากมีอาการดังต่อไปนี้ ก็ควรรีบไปพบแพทย์เช่นกัน เช่น มีอาการปวดท้องมาก ทานยาแก้ปวดแล้วยังไม่หายปวด, มีน้ำหรือเลือดออกจากแผลผ่าตัด, มีอาการตกเลือดมาก, หายใจหอบ หน้ามืด, มีไข้มากกว่า 100.5 °F หรือหนาวสั่น, คลื่นไส้อาเจียน
  7. ในระยะยาวอาจมีอาการปวดแปลบ ๆ บริเวณท้องน้อยทั้งสองข้างเล็กน้อย ซึ่งมีสาเหตุมาจากพังผืดจากการผ่าตัด ซึ่งเป็นอาการที่พบได้ตามปกติ แต่หากมีอาการปวดท้องน้อยมาก ควรรีบไปพบแพทย์
  8. ในกรณีที่ประจำเดือนขาดหลังทำหมันควรรีบตรวจการตั้งครรภ์ เพราะการทำหมันหญิงไม่สามารถคุมกำเนิดได้เต็ม 100% หากพบมีการตั้งครรภ์ควรรีบไปพบแพทย์ เนื่องจากมีโอกาสเสี่ยงเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้สูง
  9. เมื่อครบกำหนดเวลานัด หรือครบกำหนด 1 เดือนหลังการผ่าตัดทำ หรือมีอาการผิดปกติ ควรมาพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอีกครั้ง และควรมาตรวจสุขภาพทั่วไปและตรวจหาเซลล์มะเร็งปากมดลูกปีละ 1 ครั้ง

ผลข้างเคียงจากการทำหมันหญิง

อันตรายจากการผ่าตัดทำหมันหญิงมีน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย เพราะในปัจจุบันมีเครื่องมือที่ทันสมัยและมีความปลอดภัยมาก ส่วนอาการแทรกซ้อนอาจพบได้บ้างแต่ก็มีน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย หรือพบได้น้อยกว่า 1% (การทำหมันหญิงอันตรายน้อยกว่าการคลอดลูกและการทำแท้งหลายสิบเท่า และมีเพียง 1-2 คนใน 100,000 คน เท่านั้นที่เสียชีวิตจากการทำหมัน) เพราะโดยทั่วไปแล้วการผ่าตัดทำหมันเป็นหัตถการที่สามารถทำได้โดยง่าย ผู้ที่ได้รับการฝึกฝนจะใช้เวลาในการผ่าตัดไม่เกิน 15-30 นาที จึงจัดเป็นหัตถการที่พบภาวะแทรกซ้อนได้น้อยมาก ซึ่งภาวะแทรกซ้อนส่วนใหญ่มักมาจากการดมยาสลบ ดังนั้นการหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนด้วยการเปลี่ยนมาใช้ยาชาเฉพาะที่พร้อมกับงดน้ำและอาหารก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ก็จะช่วยลดภาวะแทรกซ้อนส่วนนี้ได้ โดยผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้หลังการผ่าตัดทำหมันหญิงมีดังนี้

  1. อวัยวะข้างเคียงภายในอาจได้รับบาดเจ็บร่วมด้วย เช่น มดลูก กระเพาะปัสสาวะ และลำไส้
  2. อาจเกิดภาวะเสียเลือด ในระหว่างการผ่าตัดอาจมีการฉีกขาดของหลอดเลือดบริเวณท่อนำไข่ได้ หรือไหมที่ผูกบริเวณท่อนำไข่ที่เป็นตัวช่วยห้ามเลือดจากแผลผ่าตัดท่อนำไข่หลุด ทำให้มีเลือดออกในช่องท้องได้
  3. การติดเชื้อ เช่น การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน การติดเชื้อที่แผลผ่าตัดทำหมัน เป็นต้น
  4. หลังการทำหมันอาจเกิดอาการดังต่อไปนี้ได้ประมาณ 2-4 วัน ได้แก่ เจ็บไหล่ แสบคอ ท้องใหญ่และเกร็งหน้าท้อง อาจมีเลือดออกทางช่องคลอด และมีตกขาว
  5. ในบางรายอาจพบว่ามีอาการปวดท้องน้อย ส่วนมากแล้วจะเป็นอาการปวดท้องน้อยเรื้อรังหรือปวดพอรำคาญ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการมีพังผืดบริเวณที่ตัดผูกท่อนำไข่ แต่ไม่พบว่าเป็นอันตรายแต่อย่างใด
  6. ในบางรายอาจพบว่ามีอาการแพ้ยาชาหรือยาดมสลบ หรือมีปัญหาต่อระบบไหลเวียนเลือดและการหายใจในกรณีที่ได้รับการดมยาสลบ
  7. การตั้งครรภ์นอกมดลูก แม้ว่าการทำหมันจะเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูง แต่ก็ยังมีโอกาสทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ ซึ่งถ้ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นก็จะมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นการตั้งครรภ์นอกมดลูกสูง
  8. ผลข้างเคียงอื่น ๆ เช่น การแพ้ยา การติดเชื้อ ปอดบวม โรคแทรกซ้อนทางหัวใจ เป็นต้น

ข้อดีของการทำหมันหญิง

  1. การทำหมันหญิงเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการวางแผนครอบครัว
  2. เป็นวิธีที่ประหยัด สะดวก ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ในการคุมกำเนิด ไม่ต้องกลัวลืมรับประทานหรือฉีดยาคุมกำเนิด และไม่ต้องเสียเวลาในการเข้ารับบริการการคุมกำเนิด
  3. เนื่องจากไม่ใช่วิธีการคุมกำเนิดโดยใช้ฮอร์โมน จึงช่วยลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ฮอร์โมนได้
  4. ไม่ขัดขวางหรือเป็นอุปสรรคในการมีเพศสัมพันธ์
  5. ไม่มีผลต่อการให้นมบุตร

ข้อเสียของการทำหมันหญิง

  1. ผู้เข้ารับการผ่าตัดทำหมันจะมีแผลผ่าตัดที่หน้าท้อง
  2. หากการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ล้มเหลว จะมีโอกาสเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้สูง
  3. ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้

ทำหมันหญิงแล้วเขาลือกันว่า… ?

การแก้หมันหญิง

ในกรณีของผู้ที่ต้องการจะมีบุตรอีกหลังการทำหมัน เช่น มีการแต่งงานใหม่ บุตรเสียชีวิต หรืออยากมีบุตรเพิ่มอีก และอยากทำการแก้หมันหรือต่อหมันหญิง ก็สามารถตั้งครรภ์ใหม่ได้โดย

แก้หมันหญิง

ทําหมันแล้วอยากมีลูกอีก

เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือคู่มือตั้งครรภ์และเตรียมคลอด.  “การทำหมัน…ตัดสินใจที่จะไม่มีลูกอีก”.  (ศ. (คลินิก) นพ.สุวชัย อินทรประเสริฐ).  หน้า 456-465.
  2. หาหมอดอทคอม.  “การทำหมันหญิง (Tubal ligation)”.  (พญ.กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : haamor.com.  [21 ต.ค. 2015].
  3. Siamhealth.  “การทำหมันหญิง”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.siamhealth.net.  [21 ต.ค. 2015].
  4. ThaiLady Clinic.  “การแก้หมัน การต่อหมัน ในผู้หญิง”.  (นพ.ฉัตรชัย ตรีธรรมพินิจ).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.thailadyclinic.com.  [21 ต.ค. 2015].
  5. นิตยสาร M&C แม่และเด็ก.  “บอกลา..แผลผ่าตัด “คุมกำเนิด” ทางเลือกใหม่”.  (นพ.วิบูลย์ กมลพรวิจิตร).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : motherandchild.in.th.  [21 ต.ค. 2015].

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 การทำหมัน
  • 2 การทําหมันหญิง
  • 3 ประเภทของการทำหมันหญิง
  • 4 ประสิทธิภาพในการทำหมันหญิง
  • 5 ผู้ที่ไม่เหมาะจะทำหมันหญิง
  • 6 ข้อจำกัดในการทำหมันหญิง
  • 7 การเตรียมตัวก่อนการทำหมันหญิง
  • 8 การดูแลตัวเองหลังการทำหมันหญิง
  • 9 ผลข้างเคียงจากการทำหมันหญิง
  • 10 ข้อดีของการทำหมันหญิง
  • 11 ข้อเสียของการทำหมันหญิง
  • 12 ทำหมันหญิงแล้วเขาลือกันว่า… ?
  • 13 การแก้หมันหญิง
  • 14 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ