กรุ๊ปเลือด, หมู่เลือด หรือ หมู่โลหิต (Blood Group หรือ Blood Type)

กรุ๊ปเลือด

กรุ๊ปเลือด, กรุ๊ปโลหิต, หมู่เลือด หรือหมู่โลหิต (Blood group หรือ Blood type) คือ ตัวบ่งบอกความแตกต่างของเลือด ซึ่งสามารถทราบได้จากการเจาะเลือด โดยดูจากสารที่มีชื่อว่า “แอนติเจน” (Antigens) เป็นสำคัญ การทราบกรุ๊ปเลือดของตัวเองถือเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรรู้ เนื่องจากจะช่วยให้แพทย์ให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันทีเมื่อมีเหตุฉุกเฉินหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ต้องมีการเปลี่ยนถ่ายเลือด (Blood Transfusion)

ปกติแล้วเลือดของมนุษย์จะมีส่วนประกอบ ได้แก่ เซลล์เม็ดเลือดแดง (Red Rlood Cells), เซลล์เม็ดเลือดขาว (White Blood Cells), เกล็ดเลือด (Platelets) และพลาสมาหรือน้ำเลือด (Plasma) โดยความแตกต่างของเลือดที่นำมาระบุกรุ๊ปเลือดจะดูจากสาร 2 ชนิด คือ แอนติเจน (Antigens) และแอนติบอดี (Antibodies) ในเลือด โดยแอนติเจนนั้นคือโมเลกุลของโปรตีนที่พบอยู่ผิวบริเวณด้านนอกของเซลล์เม็ดเลือดแดง ส่วนแอนติบอดีจะมีอยู่ในพลาสมาหรือน้ำเลือด

ทั้งนี้ ความแตกต่างของแอนติเจนในแต่ละคนจะถูกถ่ายทอดมาทางพันธุกรรม หากพ่อหรือแม่มีกรุ๊ปเลือดใด เด็กก็จะมีกรุ๊ปเลือดเหมือนพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่ง

ความสำคัญของการทราบกรุ๊ปเลือด

ชนิดของกรุ๊ปเลือด

ในปัจจุบันมีระบบกรุ๊ปเลือดอยู่ 32 ระบบ แต่ระบบที่มีความสำคัญจะมีอยู่ 2 ระบบใหญ่ ๆ ได้แก่

  1. กรุ๊ปเลือดระบบเอบีโอ (ABO system หรือ ABO blood group system) เป็นระบบที่นิยมใช้กันมากและสำคัญที่สุด โดยจะกำหนดกรุ๊ปเลือดได้จากการตรวจหาชนิดของแอนติเจน (สารก่อภูมิต้านทาน) และแอนติบอดี (สารภูมิต้านทาน) จากเลือด ซึ่งจะแบ่งกรุ๊ปเลือดออกเป็น 4 กรุ๊ป คือ
    • กรุ๊ปเลือด A คือ กรุ๊ปเลือดที่มีแอนติเจนชนิดเอ (A Antigens) ที่เซลล์เม็ดเลือดแดง และมีสารแอนติบอดีชนิดแอนติ-บี (Anti-B) ในพลาสมา ในคนไทยพบกรุ๊ปเลือดนี้ประมาณ 22%
    • กรุ๊ปเลือด B คือ กรุ๊ปเลือดที่มีแอนติเจนชนิดบี (B Antigens) ที่เซลล์เม็ดเลือดแดง และมีสารแอนติบอดีชนิดแอนติ-เอ (Anti-A) ในพลาสมา ในคนไทยพบกรุ๊ปเลือดนี้ประมาณ 33%
    • กรุ๊ปเลือด O คือ กรุ๊ปเลือดที่ไม่มีแอนติเจนที่เซลล์เม็ดเลือดแดง แต่มีแอนติบอดีทั้งชนิดแอนติ-เอ (Anti-A) และชนิดแอนติ-บี (Anti-B) ในพลาสมา ในคนไทยพบกรุ๊ปเลือดนี้ได้มากที่สุดประมาณ 22%
    • กรุ๊ปเลือด AB คือ กรุ๊ปเลือดที่มีแอนติเจนทั้งชนิดเอ (A Antigens) และชนิดบี (B Antigens) ที่เซลล์เม็ดเลือดแดง แต่ไม่มีแอนติบอดีชนิดแอนติ-เอ (Anti-A) และชนิดแอนติ-บี (Anti-B) ในพลาสมา ในคนไทยพบกรุ๊ปเลือดนี้ได้น้อยที่สุดประมาณ 8%
  2. กรุ๊ปเลือดระบบอาร์เอช หรือรีซัส (Rh system หรือ Rh (Rhesus) blood group system) เป็นระบบกรุ๊ปเลือดสำคัญรองจากระบบเอบีโอ ซึ่งประกอบไปด้วยแอนติเจนที่มีความสำคัญทางคลินิก 5 ชนิด คือ แอนติเจนดีใหญ่ (D), แอนติเจนซีใหญ่ (C), แอนติเจนอีใหญ่ (E), แอนติเจนซีเล็ก (c), แอนติเจนอีเล็ก (e) และแอนติเจนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องแต่ไม่ค่อยมีความสำคัญทางคลินิกอีก 46 ชนิด แต่แอนติเจนตัวสำคัญที่เป็นตัวบ่งบอกชนิดของกรุ๊ปเลือดระบบอาร์เอชคือ แอนติเจนชนิดดีใหญ่ (D) ซึ่งจะแบ่งออกได้เป็น 2 กรุ๊ป (เมื่อเอ่ยถึงอาร์เอชบวกหรืออาร์เอชลบนั้นจะหมายถึงเฉพาะแอนติเจนชนิดดีใหญ่) คือ
    • กรุ๊ปเลือดอาร์เอชบวก (Rh+ หรือ Rh Positive) ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือดดังกล่าวจะมีแอนติเจน-ดีใหญ่ (Antigen-D) อยู่ที่ผิวของเซลล์เม็ดเลือดแดง สามารถรับเลือดได้ทั้งชนิดอาร์เอชบวก (Rh+) และอาร์เอชลบ (Rh-) ซึ่งในคนไทยส่วนใหญ่จะมีกรุ๊ปเลือดอาร์เอช (D) บวกนี้ประมาณ 99.7%
    • กรุ๊ปเลือดอาร์เอชลบ (Rh- หรือ Rh Negative) ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือดนี้จะไม่มีแอนติเจน-ดีใหญ่ (Antigen-D) อยู่ที่ผิวของเซลล์เม็ดเลือดแดง สามารถรับเลือดได้แค่เพียงชนิดอาร์เอชลบ (Rh-) เท่านั้น และในคนไทยพบผู้ที่มีเลือดนี้เพียง 0.3% ซึ่งเราเรียกว่าเป็น “กรุ๊ปเลือดหายาก” หรือ “กรุ๊ปเลือดพิเศษ

ดังนั้น กรุ๊ปเลือดระบบอาร์เอชจึงแบ่งการกรุ๊ปเลือดออกเป็น 8 กรุ๊ป ดังนี้

  1. กรุ๊ปเลือดเอ อาร์เอชบวก (A+)
  2. กรุ๊ปเลือดเอ อาร์เอชลบ (A-)
  3. กรุ๊ปเลือดบี อาร์เอชบวก (B+)
  4. กรุ๊ปเลือดบี อาร์เอชลบ (B-)
  5. กรุ๊ปเลือดโอ อาร์เอชบวก (O+)
  6. กรุ๊ปเลือดโอ อาร์เอชลบ (O-) เป็นกรุ๊ปเลือดที่ปลอดภัยสำหรับคนทุกกรุ๊ปเลือด เพราะเข้ากันได้กับทุกกรุ๊ปเลือด จึงมักถูกนำไปใช้ในกรณีฉุกเฉินเมื่อแพทย์ไม่ทราบกรุ๊ปเลือดของผู้ป่วย
  7. กรุ๊ปเลือดเอบี อาร์เอชบวก (AB+)
  8. กรุ๊ปเลือดเอบี อาร์เอชลบ (AB-)
หมู่เลือด
IMAGE SOURCE : www.tutorialspoint.com

การตรวจกรุ๊ปเลือด

การตรวจกรุ๊ปเลือดคือวิธีที่ช่วยให้ทราบกรุ๊ปเลือดของตนเองได้อย่างถูกต้องที่สุด โดยในการตรวจกรุ๊ปเลือดนั้นมักจะทำในกรณีที่ผู้ป่วยต้องได้รับการเปลี่ยนถ่ายเลือดหรือหลังจากการบริจาคเลือด โดยนำตัวอย่างของเลือดที่ได้จากการบริจาคไปตรวจด้วยวิธีการคัดแยกกรุ๊ปเลือด อย่างไรก็ตาม หากบุคคลทั่วไปต้องการทราบกรุ๊ปเลือดของตนเองก็สามารถเข้ารับการตรวจได้เลย

การถ่ายทอดกรุ๊ปเลือดระบบเอบีโอของพ่อแม่ลูกที่เป็นไปได้

พ่อและแม่จะถ่ายทอดกรุ๊ปเลือดระบบเอบีโอให้ลูกเป็นกรุ๊ปเลือดได้ดังตารางด้านล่างนี้

กรุ๊ปเลือดของพ่อแม่ กรุ๊ปเลือดของลูกที่เป็นไปได้
O + O O เท่านั้น
O + A O หรือ A
O + B O หรือ B
O + AB A หรือ B
A + A A หรือ O
A + B O, A, B หรือ AB
A + AB A, B หรือ AB
B + B B หรือ O
B +AB A, B หรือ AB
AB + AB A, B หรือ AB

กรุ๊ปเลือดที่เข้ากันได้

ความแตกต่างกันของแอนติเจนในเลือดทำให้ผู้ที่มีความแตกต่างกันของกรุ๊ปเลือดบางกรุ๊ปจะไม่สามารถรับเลือดของกรุ๊ปอื่นได้ แต่บางกรุ๊ปก็สามารถรับเลือดของกรุ๊ปเลือดอื่นได้ โดยผู้ที่มีกรุ๊ปเลือดในแต่ละกรุ๊ปหากมีความจำเป็นต้องได้รับเลือด แพทย์จะพิจารณาให้เลือดที่ตรงกับกรุ๊ปเลือดของผู้ป่วยก่อนเป็นอันดับแรก ยกเว้นในกรณีฉุกเฉินหรือไม่สามารถหาเลือดที่ตรงกับผู้ป่วยได้ แพทย์จะใช้หลักการให้เลือดที่เมื่อให้เข้าไปในร่างกายของผู้ป่วยแล้ว เม็ดเลือดแดงจะต้องไม่มีแอนติเจน (สารก่อภูมิต้านทาน) ที่ตรงกับแอนติบอดี (สารภูมิต้านทาน) ที่ผู้ป่วยมี เพราะจะทำให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างกันแล้วเม็ดเลือดแดงนั้นจะถูกทำลายไป ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยกรุ๊ปเบือดเอที่มีเอนติเจนเอและมีแอนติบอดีบี จะรับเลือดกรุ๊ปบีที่มีแอนติเจนบีไม่ได้ เพราะจะทำปฏิกิริยากับแอนติบอดีบีของผู้ป่วยจนเม็ดเลือดแดงผู้ป่วยถูกทำลาย

โดยกรุ๊ปเลือดที่สามารถให้เลือดหรือพลาสมากันได้จะเป็นไปตามตารางด้านล่างนี้

ข้อสังเกตุ : ในธนาคารเลือดทั่วไปจะมีการสำรองส่วนประกอบของเลือดที่เป็นเม็ดเลือดแดงของกรุ๊ปเลือดโอเอาไว้ไม่ให้หาด เพราะคนกรุ๊ปเลือดโอจะสามารถให้เม็ดเลือดแดงแก่คนกรุ๊ปเลือดอื่นได้ทุกกรุ๊ป แต่จะรับเม็ดเลือดแดงได้จากคนกรุ๊ปเลือดโอเท่านั้น และจะพยายามสำรองส่วนประกอบของเลือดที่เป็นพลาสมาของกรุ๊ปเลือดเอบีเอาไว้สำหรับผู้ป่วยกรุ๊ปเลือดเอบี เพราะคนกรุ๊ปเลือดเอบีจะสามารถให้พลาสมากับคนกรุ๊ปเลือดอื่นได้ทุกกรุ๊ป แต่จะรับพลาสมาจากคนกรุ๊ปเลือดเอบีได้เท่านั้น

การทราบชนิดของกรุ๊ปเลือดระบบเอบีโอและระบบอาร์เอชของตนเอง รวมทั้งของบุคคลในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากมีความจำเป็นต้องใช้เลือดในการรักษาพยาบาลก็จะสามารถช่วยเหลือกันได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในผู้มีกรุ๊ปเลือดที่หายาก

เอกสารอ้างอิง
  1. หาหมอดอทคอม.  “หมู่เลือด หมู่โลหิต (Blood group)”.  (ผศ.พญ.จินตนา พัวไพโรจน์).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : haamor.com.  [23 ส.ค. 2018].
  2. พบแพทย์ดอทคอม.  “ไขความลับเรื่องกรุ๊ปเลือด”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.pobpad.com.  [23 ส.ค. 2018].

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)

  • 1 กรุ๊ปเลือด
  • 2 ความสำคัญของการทราบกรุ๊ปเลือด
  • 3 ชนิดของกรุ๊ปเลือด
  • 4 การตรวจกรุ๊ปเลือด
  • 5 การถ่ายทอดกรุ๊ปเลือดระบบเอบีโอของพ่อแม่ลูกที่เป็นไปได้
  • 6 กรุ๊ปเลือดที่เข้ากันได้
  • 7 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ