กระถิน สรรพคุณประโยชน์ของกระถินไทย 26 ข้อ (กระถินบ้าน)

กระถินไทย

กระถิน ชื่อสามัญ White popinac[1], Lead tree[1], Horse tamarind[2], Leucaena[2], lpil-lpil[6]

กระถิน ชื่อวิทยาศาสตร์ Leucaena leucocephala (Lam.) de Wit จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) และอยู่ในวงศ์ย่อยสีเสียด (MIMOSOIDEAE หรือ MIMOSACEAE)[1],[2]

กระถิน มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า กะเส็ดโคก กะเส็ดบก (ราชบุรี), กะตง กระถิน กระถินน้อย กระถินบ้าน ผักก้านถิน (สมุทรสงคราม), ผักก้านถิน (เชียงใหม่), ผักหนองบก (ภาคเหนือ), กระถินไทย กระถินบ้าน กระถินดอกขาว กระถินหัวหงอก (ภาคกลาง), ตอเบา สะตอเทศ สะตอบ้าน (ภาคใต้), กระถินยักษ์ เป็นต้น[1],[2]

ลักษณะของกระถิน

ต้นกระถิน

เปลือกต้นกระถิน

ใบกระถิน

ยอดกระถิน

ดอกกระถิน

ผักกระถิน

ฝักกระถิน

เมล็ดกระถินเมล็ดกระถินแก่

สรรพคุณของกระถิน

  1. ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ (ราก[4],[5], เมล็ดแก่[6])
  2. กระถินมีฟอสฟอรัสสูง จึงช่วยเสริมสร้างและบำรุงกระดูก (ยอดอ่อน, ฝักอ่อน, เมล็ด)[3]
  3. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด (ยอดอ่อน)[5]
  4. ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง (ยอดอ่อน)[5]
  5. กระถินอุดมไปด้วยวิตามินเอ จึงช่วยบำรุงและรักษาสายตาได้ (ยอดอ่อน)[5]
  1. ช่วยบำรุงหัวใจ (ฝักอ่อน, ยอดอ่อน)[6]
  2. ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ (เมล็ดแก่)[6]
  3. ช่วยทำให้เจริญอาหาร (ฝักอ่อน, ยอดอ่อน)[6]
  4. ช่วยแก้อาการร้อนในกระหายน้ำ (ฝักอ่อน, ยอดอ่อน)[6]
  5. ช่วยแก้เกล็ดกระดี่ขึ้นตา (ดอก)[4]
  6. ช่วยแก้อาการท้องร่วง (ฝัก)[5],[6]
  7. เมล็ดกระถินใช้เป็นยาถ่ายพยาธิตัวกลม (Ascariasis) สำหรับผู้ใหญ่ให้ใช้ครั้งละ 25-50 กรัม ส่วนเด็กให้ใช้ 5-20 กรัมต่อวัน โดยใช้รับประทานขณะท้องว่างในตอนเช้าประมาณ 3-5 วัน (เมล็ด)[4],[5],[6]
  8. ช่วยขับลมในลำไส้ (ราก[2],[4],[5], เมล็ดแก่[6])
  9. ช่วยขับระดูขาวของสตรี (ราก[2],[4],[5], เมล็ดแก่[6])
  10. ช่วยลดการเกิดนิ่วในกระเพาะอาหาร (ยอดอ่อน, ฝักอ่อน, เมล็ด)[3]
  11. ดอกกระถินช่วยบำรุงตับ (ดอก)[2],[4],[6] ช่วยบำรุงไตและตับ (เมล็ดแก่)[6]
  12. ฝักกระถินเป็นยาฝาดสมาน ใช้ห้ามเลือด (ฝัก, เปลือก)[5],[6]

หมายเหตุ : ใบอ่อน ยอดอ่อน และดอกมีรสมัน เมล็ดอ่อนมีรสมันอมหวานเล็กน้อย รากมีรสจืดเฝื่อน ส่วนเปลือกมีรสฝาด[6]

ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของกระถิน

ประโยชน์ของกระถิน

  1. ยอดอ่อนกระถิน ฝักอ่อน และเมล็ดใช้รับประทานเป็นผักได้[1],[2],[3] โดยยอดใบจะใช้รับประทานร่วมกับน้ำพริก ส้มตำ หรือยำหอยนางรม[5] ส่วนเมล็ดอ่อนชาวอีสานใช้ผสมในส้มตำมะละกอหรือรับประทานกับส้มตำ ส่วนชาวใต้ใช้เมล็ดอ่อนและใบอ่อนรับประทานร่วมกับหอยนางรม[6]
  1. ใบ ยอด ฝัก และเมล็ดอ่อนสามารถนำมาใช้เป็นอาหารสัตว์ เช่น วัว ควาย ไก่ แพะ แกะ ฯลฯ[1],[2],[3],[4]
  2. ใบกระถินอุดมไปด้วยธาตุไนโตรเจนและเกลือโพแทสเซียม สามารถนำมาใช้ทำเป็นปุ๋ยหมักได้[1],[3],[4]
  3. เมล็ดสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องประดับได้หลายชนิด เช่น เข็มกลัด สายสร้อย เข็มขัด ฯลฯ[1],[2],[4]
  4. ลำต้นหรือเนื้อไม้กระถินสามารถนำมาใช้ทำด้ามอุปกรณ์เครื่องมือทางการเกษตร ทำฟืน เผาทำถ่าน และได้น้ำส้มควันไม้[1],[3],[5]
  5. เปลือกต้นกระถินให้เส้นใยที่สามารถนำไปใช้ทำเป็นกระดาษได้ แต่มีคุณภาพไม่ดีนัก[1],[2],[4]
  6. เปลือกต้นกระถินสามารถนำมาใช้ย้อมสีเส้นไหมได้ โดยเปลือกต้นแห้ง 3 กิโลกรัมจะสามารถย้อมเส้นไหมได้ 1 กิโลกรัม โดยจะให้สีน้ำตาล[8]
  7. สายพันธุ์กระถินที่ทำการปรับใหม่จะมีขนาดลำต้นสูงกว่าสายพันธุ์เดิม หรือที่เรียกว่า “กระถินยักษ์” ใช้ปลูกเพื่อเป็นแนวรั้วบ้าน แนวกันลม และช่วงบังแสงแดดให้แก่พืชที่ปลูกได้ เหมาะในพื้นที่ที่มีการดูแลรักษาต่ำ และต้นกระถินยังมีความแข็งแรง เจริญเติบโตได้เร็ว[1],[2],[4]
  8. ตามคติความเชื่อในตำราพรหมชาติฉบับหลวงกล่าวว่า กระถินเป็นไม้มงคลที่ควรปลูกไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ โดยนำมาปลูกร่วมกับต้นสารภี มีความเชื่อว่าจะช่วยป้องกันเสนียดจัญไรต่าง ๆ ได้[4]

คุณค่าทางโภชนาการของยอดอ่อนกระถิน ต่อ 100 กรัม

แหล่งที่มา : สถาบันการแพทย์แผนไทย[4]

การเลือกซื้อและการเก็บรักษากระถิน

ควรเลือกซื้อยอดกระถินหรือฝักอ่อนที่มีความสดใหม่และไม่เหี่ยว ส่วนวิธีการเก็บรักษานั้นให้นำกระถินที่ได้มาห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ให้ดี แล้วนำมาใส่กล่องพลาสติกและปิดฝาให้สนิท เก็บเข้าแช่ตู้เย็นในช่องผัก จะสามารถเก็บไว้ได้นานขึ้น[7]

โทษของกระถิน

เนื่องจากใบของกระถินมีสารที่เป็นพิษคือสารลิวซีนีน (Leucenine) หากสัตว์กระเพาะเดียวกินใบกระถินในปริมาณสูงอาจทำให้ขนร่วงและเป็นหมันได้ แต่ยังไม่มีรายงานความเป็นพิษเนื่องจากการกินกระถินในคน และยังมีรายงานว่ากระถินเป็นพืชที่มีคุณสมบัติช่วยดูดธาตุซีลีเนียมจากดินมาสะสมไว้ได้มาก จึงอาจทำให้เกิดพิษเนื่องจากธาตุนี้ได้[1]

เอกสารอ้างอิง
  1. สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี.  “กระถินไทย“.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.rspg.or.th.  [23 พ.ย. 2013].
  2. ศูนย์ความรู้ด้านการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.  “กระถิน“.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: agkc.lib.ku.ac.th.  [23 พ.ย. 2013].
  3. ระบบฐานข้อมูลทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชน สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน).  “กระถิน“.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.bedo.or.th.  [23 พ.ย. 2013].
  4. สถาบันการแพทย์แผนไทย.  “กระถิน“.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: ittm-old.dtam.moph.go.th.  [23 พ.ย. 2013].
  5. เดลินิวส์.  “กระถินกินมีประโยชน์“.  (06/12/55).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.dailynews.co.th.  [23 พ.ย. 2013].
  6. GotoKnow.  “พืชผักสมุนไพรใกล้ครัว: กระถิน“.  (ครูนาย).  อ้างอิงใน: สถาบันวิจัยสมุนไพรไทย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ (นฤมล มงคลชัยภักดิ์).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.gotoknow.org.  [23 พ.ย. 2013].
  7. เว็บสำหรับคนรักอาหาร.  “กระถิน“.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.siammoo.com.  [23 พ.ย. 2013].
  8. พันธุ์ไม้ย้อมสีธรรมชาติ กรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์.  “กระถินบ้าน“.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: qsds.go.th.  [23 พ.ย. 2013].

ภาพประกอบ : www.flickr.com (by mauroguanandi, Mauricio Mercadante, Russell Cumming, dinesh_valke, Teo Siyang, judymonkey17, camillenoir, — Green Light Images –, Shubhada Nikharge)

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 กระถินไทย
  • 2 ลักษณะของกระถิน
  • 3 สรรพคุณของกระถิน
  • 4 ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของกระถิน
  • 5 ประโยชน์ของกระถิน
  • 6 คุณค่าทางโภชนาการของยอดอ่อนกระถิน ต่อ 100 กรัม
  • 7 การเลือกซื้อและการเก็บรักษากระถิน
  • 8 โทษของกระถิน
  • 9 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ