กระดูกแข็ง (Osteopetrosis)

การเตรียมตัวก่อนพบแพทย์
กระดูกแข็ง

กระดูกแข็ง(Osteopetrosis)หรือโรคกระดูกหิน(Stone bone) คือโรคผิดปกติทางพันธุกรรมชนิดถ่ายทอดได้ที่ส่งผลให้กระดูกมีมวลกระดูกเพิ่มมากผิดปกติ กระดูกจึง หนา แข็ง และเปราะ บางท่านให้นิยามว่าแข็งเหมือนหินหรือหินอ่อน(ซึ่งเป็นที่มาของชื่อโรคนี้ คือ Stone bone หรือ Marble bone disease) แต่กระดูกที่พอกหนาและแข็งนี้ จะเปราะและหักง่าย ส่งผลให้ผู้ป่วยโรคนี้มีตัวเตี้ยแคระ และมีรูปร่างของกระดูกทุกชิ้นผิดรูป/ผิดปกติจนส่งผลกดอวัยวะ/เนื้อเยื่อต่างๆจนส่งผลต่อเนื่องให้เกิดอาการผิดปกติต่าง เช่น กะโหลก หนา แข็งผิดรูปที่ทำให้รู/ช่องต่างๆของกะโหลกที่เป็นช่องทางออกของเส้นประสาทสมองมีขนาดเล็ก ตีบแคบ รวมถึงกระดูกที่พอกหนาจะช่วยเสริมให้มีการกดเส้นประสาทสมองทุกเส้น ผู้ป่วยจึงมี หูหนวก(กดเส้นประสาทหู) ตาเห็นภาพไม่ชัดอาจถึงขั้นตาบอดกรณีมีการกดประสาทตา เป็นต้น

โรคกระดูกแข็ง พบได้ทุกอายุ ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุ และพบได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย สถิติโรคนี้ที่แท้จริงยังไม่ทราบเพราะเป็นโรคพบยากมาก รวมถึงยังไม่มีการศึกษาอย่างเป็นระบบ แต่มีรายงานพบโรคได้ประมาณ 1 รายต่อประชากร 1แสน-5แสนคน

อนึ่ง

สาเหตุและการแบ่งประเภท/หมู่โรค

โรคกระดูกแข็งประมาณ 70%เกิดจากมีพันธุกรรมผิดปกติ อีกประมาณ 30%แพทย์หาสาเหตุไม่พบ

ในส่วนพันธุกรรมผิดปกติ คือมีจีน/Gene/ยีนผิดปกติที่เป็นเหตุให้เกิดโรคนี้ได้ประมาณ10ชนิด แต่ที่พบบ่อยมี 3 จีน คือ CLCN7, TCIRG1, IKBKG

ทั้งนี้ โรคกระดูกแข็งที่เกิดจากพันธุกรรมผิดปกติแบ่งได้เป็น3 กลุ่มตามชนิดของพันธุกรรมที่ผิดปกติ คือ

ก. Autosomal recessive malignant infantile type คือ กลุ่มโรคทางพันธุกรรมที่เกิดจากพันธุกรรมผิดปกติที่ถ่ายทอดได้ชนิดจีนด้อยที่ไม่เกี่ยวกับจีน/โครโมโซมเพศ (Autosome) ซึ่งชื่ออื่นของโรคกลุ่มนี้ได้แก่ Autosomal recessive osteopetrosis /ย่อว่า ARO หรือ โรค Malignant infantile osteopetrosis หรือโรค Infantile autosomal recessive osteopetrosis หรือโรค Simply infantile osteopetrosis หรือ Osteopetrosis infantile type พบโรคนี้ได้ประมาณ 1รายต่อประชากร 200,000-300,000คน เป็นโรคแสดงอาการตั้งแต่แรกเกิด/เด็กอ่อน และจัดเป็นโรคที่รุนแรงที่สุดเด็กจะมีภาวะไขกระดูกล้มเหลว(ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดและสร้างภูมิคุ้มกันต้านทานโรคไม่ได้) เด็กโรคนี้มักเสียชีวิตภายในอายุ10ปี จากภาวะโลหิตจางรุนแรงร่วมกับการติดเชื้อรุนแรงจากการมีไขกระดูกล้มเหลว

อย่างไรก็ตามส่วนน้อยมากในกลุ่มนี้ ที่เกิดจากความผิดปกติของจีน/โครโมโซมเพศหญิง แต่ยังคงเป็นพันธุกรรมชนิดถ่ายทอดได้ที่เป็นจีนด้อย และผู้ป่วยความผิดปกติจากจีนนี้จะพบเฉพาะในเด็กชายเท่านั้น โดยจีนที่ผิดปกติคือ IKBKG

ข. Autosomal intermediate type: อีกชื่อคือ Intermediate autosomal osteoporosis ย่อว่า IAO หรือ Intermediate osteopetrosis หรือ Childhood osteopetrosis หรือ Osteopetrosis childhood type เป็นกลุ่มโรคที่พบได้น้อยมากมีรายงานเพียงไม่กี่ราย จัดเป็นโรคที่รุนแรง แต่ความรุนแรงน้อยกว่าโรคกลุ่มแรก โดยโรคมักแสดงอาการในช่วงวัยเด็กโต บางครั้งพบในวัยผู้ใหญ่ได้ แต่ไขกระดูกผู้ป่วยยังพอทำงานได้ ผู้ป่วยจึงมีชีวิตได้ยืนยาวกว่าผู้ป่วยกลุ่มแรกแต่ก็มักเสียชีวิตในวัยเด็ก จึงจัดเป็นกลุ่มอาการรุนแรงปานกลาง โรคนี้เป็นโรคผิดปกติทางพันธุกรรมถ่ายทอดได้ที่เกือบทั้งหมดเป็นจีนด้อยพบเป็นจีนเด่นได้แต่น้อยมากๆ และไม่ใช่ความผิดปกติที่จีน/โครโมโซมเพศเช่นกัน

ค. Autosomal dominant adult type หรือ Autosomal dominant osteopetrosis หรือ Osteopetrosis adult type : เป็นโรคมีความรุนแรงน้อย ผู้ป่วยอาจไม่มีอาการเลย แพทย์ตรวจพบโดยบังเอิญจากเอกซเรย์กระดูกจากโรคอื่น เช่น กรณีได้รับอุบัติเหตุ แต่เมื่อมีอาการ อาการโรคจะแสดงต่อเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เป็นกลุ่มที่มีการพยากรณ์โรคที่ดี ผู้ป่วยมีอายุเฉลี่ยเท่ากับคนทั่วไป

*อนึ่ง ประมาณ30%ของผู้ป่วยโรคกระดูกแข็ง แพทย์หาสาเหตุไม่พบ

พยาธิสรีรวิทยา

พยาธิสรีรวิทยา/กลไกการเกิดโรคกระดูกแข็งพบว่า จีนที่ผิดปกติที่เป็นสาเหตุที่ ส่งผลให้เซลล์กระดูกชนิด Osteoclast ที่มีหน้าที่สลายมวลกระดูกเพื่อให้เกิดมวลกระดูก มีสมดุลกับการสร้างมวลกระดูกโดยเซลล์กระดูกชนิด Osteoblast นอกจากการสลายมวลกระดูกเพื่อให้เกิดสมดุลกับการสร้างมวลกระดูกแล้ว Osteoclast ยังทำหน้าที่จัดรูปร่าง/รูปทรงของกระดูกที่สร้างขึ้นมาให้เหมาะสมกับหน้าที่การใช้งาน ซึ่งเมื่อ Osteoclast ทำงานผิดปกติ กระดูกที่สร้างขึ้นมาจึงขาดสมดุล เกิดการสะสม พอกหนาขึ้นเรื่อย ร่วมกับมีการเปราะ แตก/หักได้ง่าย รวมถึงกระดูกจะขาดการเจริญเติบโต และเกิดเป็นรูปร่างที่ผิดปกติ นอกจากนั้นการพอกหนาของกระดูกยังส่งผลก่อการอุดตันของช่อง/รู/โพรงต่างๆในกระดูกที่เป็นทางผ่าน/ทางออกของเส้นประสาท และหลอดเลือดต่างๆ ส่งผลให้เกิดการกด เบียดทับ เส้นประสาท และหลอดเลือดต่างๆเหล่านั้น ส่งผลต่อเนื่อง ให้เกิดเส้นประสาท หลอดเลือดเกิดการบาดเจ็บ เสียหาย ตีบแคบ การทำงานต่างๆจึงสูญเสียไป จนก่ออาการผิดปกติขึ้นได้กับทุกอวัยวะ

อาการ

ผู้ป่วยโรคกระดูกแข็งบางคนไม่มีอาการโดยเฉพาะในผู้ป่วยกลุ่ม Autosomal dominant osteopetrosis ผู้ป่วยกลุ่มนี้แพทย์ตรวจพบโดยบังเอิญจากการตรวจเอกซเรย์กระดูกสาเหตุต่างๆ เช่น เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้ ไม่จำเป็นต้องมีการรักษา ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และมีการพยากรณ์โรคเช่นเดียวกับคนทั่วไป

แต่ในกรณีมีอาการ ผู้ป่วยโรคกระดูกแข็งทั้ง3 กลุ่มจะมีอาการเหมือนกัน ต่างกันที่ความรุนแรง คือ กลุ่ม Infantile type อาการโรคจะรุนแรงที่สุด ในกลุ่ม Intermediate หรือ Childhood type อาการโรคจะรุนแรงปานกลาง และในกลุ่มAdult type ผู้ป่วยอาจแสดงอาการหรือไม่มีอาการก็ได้ แต่ถ้ามีอาการ อาการจะรุนแรงต่ำ

อาการที่พบได้ในผู้ป่วยโรคกระดูกแข็ง ได้แก่

  1. Raghunath Reddy MH. International Journal of Clinical Pediatric Dentistry 2011;4(3):232-234
  2. Zornitza Stark and Ravi Savariratyan. Orphanet Journal of rare disease 2009;4:5-17
  3. [2018,Aug4]
  4. [2018,Aug4]
  5. [2018,Aug4]