กระดูกหักในเด็ก เรื่องใกล้ตัวที่พ่อแม่ควรระวัง

เด็ก ๆ มักซุกซนจนเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ในบางรายอาจรุนแรงถึงขั้นกระดูกหัก ซึ่งเป็นเรื่องที่พ่อแม่และผู้ปกครองต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การเตรียมรับมือกับอุบัติเหตุดังกล่าวได้อย่างถูกวิธีจะช่วยลดความกังวลและป้องกันผลกระทบร้ายแรงจากกระดูกหักที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กได้

กระดูกหัก

ทราบได้อย่างไรว่าลูกกระดูกหัก

เมื่อได้รับบาดเจ็บจนถึงขั้นกระดูกแตกหรือหัก การบอกความรู้สึกหรือระบุอาการผิดปกติของตนเองอาจเป็นเรื่องยากสำหรับเด็ก ๆ โดยเฉพาะทารกที่ยังพูดไม่ได้ คุณพ่อคุณแม่ที่เป็นกังวลอาจสังเกตอาการเบื้องต้นของเด็กที่แสดงถึงการมีกระดูกหักหลังจากเกิดอุบัติเหตุได้ดังต่อไปนี้  

อย่างไรก็ตาม อาการข้างต้นเป็นเพียงสัญญาณที่พบได้บ่อย หากสงสัยว่าลูกกระดูกหักควรพาไปพบแพทย์ทันที เพราะยากที่จะสังเกตได้ด้วยตาเปล่าหรือคาดเดาจากอาการ บางรายมีอาการเล็กน้อยหรือกระดูกบิดเบี้ยวไม่ถึงกับหัก แต่อาจส่งผลต่อพัฒนาการทางด้านร่างกายเมื่อเด็กโตขึ้นหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี พ่อแม่จึงควรหมั่นสังเกตอาการผิดปกติ โดยเฉพาะหลังเกิดอุบัติเหตุ

กระดูกหักมีกี่ชนิด

กระดูกของเด็กมีความยืดหยุ่นและรองรับแรงกระแทกได้มากกว่ากระดูกของผู้ใหญ่ แต่ยังเป็นกระดูกอ่อนเจริญเติบโตไม่เต็มที่ ทำให้เปราะบางและหักได้ง่าย โดยทั่วไปแล้ว กระดูกหักในเด็กแบ่งออกเป็น 4 ชนิด ได้แก่

นอกจากนี้ กระดูกหักแบ่งประเภทได้อีกหลายแบบ เช่น

ลูกน้อยกระดูกหัก พ่อแม่ควรทำอย่างไร

เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่คาดว่าลูกอาจกระดูกหักควรนำตัวเด็กส่งโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาทันที ในระหว่างที่รอ พ่อแม่ควรให้เด็กอยู่นิ่ง ๆ พยายามอย่าเคลื่อนไหวมาก และปฐมพยาบาลเบื้องต้นตามคำแนะนำต่อไปนี้

เด็กกระดูกหักรักษาอย่างไร ฟื้นตัวนานไหม

การรักษากระดูกหักในเด็กทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับลักษณะของกระดูกที่หัก ความรุนแรง และอายุของเด็ก เมื่อส่งถึงมือแพทย์เรียบร้อย แพทย์จะสอบถามข้อมูลทั่วไป เช่น สาเหตุที่ทำให้กระดูกหัก อาการผิดปกติ ประวัติทางการแพทย์อื่น ๆ รวมทั้งตรวจดูการเคลื่อนไหวในบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บและตามข้อต่อ ก่อนจะส่งตัวไปเอกซ์เรย์ เพื่อวินิจฉัยอาการบาดเจ็บอย่างละเอียดและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม

การรักษากระดูกหักทำได้โดยการใช้อุปกรณ์พยุงชั่วคราว การใส่เฝือก และการผ่าตัด โดยทั่วไปหากกระดูกหักไม่รุนแรงมักได้รับการรักษาด้วยการใช้อุปกรณ์พยุงชั่วคราวหรือใส่เฝือก เพื่อป้องกันกระดูกขยับ ช่วยให้อาการปวดและบวมลดลงได้ หากกระดูกหักจนผิดไปจากตำแหน่งเดิมจะต้องได้รับการจัดกระดูกให้เข้าที่ก่อนใส่เฝือก บางรายที่กระดูกหักรุนแรงอาจต้องผ่าตัดใส่โลหะเพื่อยึดกระดูกที่หักไว้ด้วยกัน แพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกจะเป็นผู้แนะนำว่าควรใช้อุปกรณ์ป้องกันการเคลื่อนที่ของกระดูกแบบใดจึงจะเหมาะสมกับเด็กมากที่สุด

เด็กที่กระดูกหักแบบไม่รุนแรงอาจกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ทันทีหลังการรักษา แต่ในรายที่อาการรุนแรงจนต้องเข้ารับการผ่าตัดจะต้องนอนพักฟื้นในโรงพยาบาลเพื่อดูอาการ ทั้งนี้ ระยะเวลาในการฟื้นตัวของเด็กแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและบริเวณที่เกิดกระดูกหัก เด็กที่กระดูกหักจากแรงอัดธรรมดามักใช้เวลารักษาประมาณ 2-3 สัปดาห์ และหายสนิทภายใน 1 เดือน เพราะกระดูกของเด็กซ่อมแซมตัวเองได้เมื่อเกิดความเสียหายและสมานตัวได้เร็วกว่าผู้ใหญ่ ส่วนเด็กบางคนที่กระดูกร้าวหรืออยู่ผิดตำแหน่งเพียงเล็กน้อยก็รักษาให้กลับเป็นปกติได้ในเวลาไม่นาน

ระหว่างการพักฟื้นในช่วง 2-3 วันแรก เด็กอาจรู้สึกอึดอัดและมีอาการบวมบริเวณที่กระดูกหัก พ่อแม่ควรให้เด็กพักผ่อนมาก ๆ พยายามยกบริเวณดังกล่าวให้สูงหรือหาหมอนมารอง และจำกัดการเคลื่อนไหวของอวัยวะที่หักให้น้อยที่สุด เช่น ใส่สายพยุงแขนที่หักระหว่างเดิน หรือใช้ไม้เท้าพยุงขาข้างที่หักขณะเดิน เป็นต้น แพทย์จะติดตามผลการรักษาเป็นระยะหลังจากเด็กกลับไปพักฟื้นที่บ้าน และเอกซ์เรย์บริเวณที่กระดูกหักอีกครั้ง เพื่อดูให้แน่ใจว่ากระดูกเชื่อมต่อกันเป็นปกติ หากพ่อแม่สังเกตเห็นอาการผิดปกติใด ๆ ควรแจ้งแพทย์ผู้ดูแลทันที