กรวยไตอักเสบ อาการ สาเหตุ การรักษาโรคกรวยไตอักเสบ 7 วิธี

โรคกรวยไตอักเสบ

กรวยไตอักเสบ (Pyelonephritis) เป็นโรคที่พบได้บ่อยโรคหนึ่ง พบได้ในคนทุกอายุตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ แต่มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และอาจเป็นโรคแทรกซ้อนของกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในทางเดินปัสสาวะ

กรวยไตอักเสบ คือ การติดเชื้อแบคทีเรียที่เกิดขึ้นในบริเวณกรวยไต* แบ่งเป็นกรวยไตอักเสบชนิดเฉียบพลัน (Acute Pyelonephritis) ซึ่งมีอาการแสดงชัดเจน และนับว่าเป็นอาการที่ค่อนข้างรุนแรง แต่เมื่อได้รับการรักษาจะหายได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ และกรวยไตอักเสบชนิดเรื้อรัง (Chronic pyelonephritis) ที่ไม่มีอาการแสดงชัดเจน แต่จะเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง ซึ่งมักเกิดจากการรักษาหรือควบคุมสาเหตุของโรคไม่ได้ ผู้ป่วยมักเป็นโรคโดยไม่รู้ตัว จึงไม่ได้รับการรักษา เมื่อปล่อยไว้นาน ๆ เข้า ก็จะกลายเป็นภาวะไตวายเรื้อรังได้

หมายเหตุ : กรวยไต (Renal pelvis) เป็นส่วนของไตที่มีลักษณะเป็นโพรง เป็นส่วนที่ต่อกับท่อไต (Ureter) ทำหน้าที่รองรับน้ำปัสสาวะที่กรองแล้วจากเซลล์ของไตและส่งต่อไปสู่ท่อไต

กรวยไต

กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน

กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน (Acute Pyelonephritis) เป็นโรคที่พบได้ค่อนข้างบ่อย โดยพบได้ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 4-5 เท่า มักพบในผู้หญิงในวัยเด็กและวัยสาว ผู้หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ ในคนที่เป็นนิ่วในทางเดินปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ เนื้องอกหรือมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมากโต หรือผู้ป่วยที่เคยสวนปัสสาวะมาก่อน เช่น ผู้ป่วยหนักที่ต้องนอนรักษาอยู่ในโรงพยาบาล ส่วนในผู้ที่เป็นโรคเบาหวานหรือรับประทานยาสเตียรอยด์เป็นเวลานาน ๆ ก็อาจมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้ง่ายขึ้น

สาเหตุของโรคกรวยไตอักเสบ

อาการกรวยไตอักเสบกรวยไตอักเสบจัดเป็นการอักเสบของทางเดินปัสสาวะ (Urinary tract infection – UTI) ซึ่งเป็นการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะตอนบน (Upper urinary tract infection) กรวยไตอักเสบอาจเกิดขึ้นเพียงข้างเดียวข้างใดข้างหนึ่ง (โอกาสเกิดทั้งข้างซ้ายและข้างขวามีใกล้เคียงกัน) หรือเกิดพร้อมกันทั้งสองข้างก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้ออักเสบเฉียบพลันในบริเวณกรวยไต ซึ่งเชื้อที่พบได้บ่อยจะเป็นเชื้อแบคทีเรียกลุ่มแกรมลบ ได้แก่ อีโคไล (Escherichia coli), เคล็บซิลลา (Klebsiella), สูโดโมแนส (Pseudomonas), สแตฟีโลค็อกคัส (Staphylococcus) เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดอีโคไล (E.coli) ซึ่งเป็นเชื้อที่พบในอุจจาระของคนทั่วไป ส่วนในคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำอาจเกิดจากการติดเชื้อราได้ โดยเชื้อโรคมักจะแพร่กระจายมาจากบริเวณผิวหนังรอบ ๆ ท่อปัสสาวะ (จากอุจจาระ) เข้ามาในท่อปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะ และผ่านท่อไตขึ้นมาอยู่ในกรวยไต ทำให้เกิดการอักเสบของเนื้อไตรอบ ๆ กรวยไต เรียกว่า “กรวยไตอักเสบ

นอกจากนี้ ในผู้ป่วยบางราย (โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ) เชื้อโรคอาจแพร่กระจายจากส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย โดยผ่านทางกระแสเลือดก็ได้ นอกจากนั้นยังสามารถเข้าสู่ระบบทางเดินปัสสาวะในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์

ปัจจัยเสี่ยงของโรคกรวยไตอักเสบ

อาการของโรคกรวยไตอักเสบ

ผู้ป่วยส่วนมากจะมีอาการปวดที่บริเวณสีข้างหรือบั้นเอวขึ้นอย่างฉับพลัน โดยจะปวดมากที่ข้างใดข้างหนึ่ง และอาจปวดร้าวลงมาที่บริเวณขาหนีบ พร้อมกับมีไข้สูงร่วมกับมีอาการหนาวสั่นมากเป็นพัก ๆ (อาจต้องห่มผ้าหลายผืนคล้ายไข้มาลาเรีย แต่จะจับไข้ไม่เป็นเวลาแน่นอน และมีอาการหนาวสั่นได้วันละหลายครั้ง) ปัสสาวะมักมีลักษณะขุ่นขาว บางครั้งอาจเป็นเลือด หรืออาจข้นเป็นหนอง นอกจากนี้ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และบางรายอาจมีอาการขัดเบาร่วมด้วย

ผู้ป่วยอาจมีอาการปัสสาวะปวดแสบ ขัด ปัสสาวะน้อย เมื่อมีกระเพาะปัสสาวะอักเสบร่วมด้วย หรืออาจมีหนอง หรือมีสารคัดหลั่งบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อเกิดจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์

ภาวะแทรกซ้อนของโรคกรวยไตอักเสบ

การวินิจฉัยโรคกรวยไตอักเสบ

แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคนี้ได้จากประวัติอาการ ประวัติการมีเพศสัมพันธ์ การตรวจร่างกาย และจากการตรวจปัสสาวะ ซึ่งจะพบเม็ดเลือดขาวอยู่กันเดี่ยว ๆ และเกาะกันเป็นแพ (White blood cells cast) ส่วนในรายที่รุนแรงอาจมีการตรวจเชื้อ เพาะเชื้อจากปัสสาวะและ/หรือจากเลือด นอกจากนั้นยังอาจมีการตรวจอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น การถ่ายภาพไตด้วยการเอกซเรย์ หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรืออัลตราซาวนด์ หรือใช้วิธีการส่องกล้องตรวจทางเดินปัสสาวะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยและดุลยพินิจของแพทย์

แพทย์มักตรวจพบไข้สูง 39-40 องศาเซลเซียส ปัสสาวะมีลักษณะขุ่น ถ้าใช้กำปั้นทุบเบา ๆ ที่สีข้างตรงที่มีอาการปวด ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บจนสะดุ้ง ส่วนหน้าท้องอาจมีอาการกดเจ็บหรือท้องเกร็งแข็งเล็กน้อย

โรคอื่น ๆ ที่อาจแสดงอาการคล้ายโรคกรวยไตอักเสบที่พบบ่อย ได้แก่

วิธีรักษาโรคกรวยไตอักเสบ

ผู้ป่วยที่เป็นกรวยไตอักเสบเฉียบพลัน มักมีไข้สูงหนาวสั่นคล้ายไข้มาลาเรีย แต่จะมีอาการปวดและเคาะเจ็บที่สีข้างหรือบั้นเอวตรงที่มีอาการปวด และมีปัสสาวะขุ่น ดังนั้น ถ้าพบว่ามีอาการไข้หนาวสั่นมาก ๆ จนต้องห่มผ้าหนา ๆ ร่วมด้วย ควรรีบไปพบแพทย์ภายใน 24 ชั่วโมง ถ้าพบว่าเป็นกรวยไตอักเสบชนิดเฉียบพลัน แพทย์อาจรับตัวไว้รักษาที่โรงพยาบาลถ้าผู้ป่วยมีอาการรุนแรง หรืออาจให้ยากลับไปรับประทานเองที่บ้าน ในกรณีที่คนไข้ยังกินได้ ดื่มน้ำได้ และบ้านไม่ได้อยู่ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก

โรคกรวยไตอักเสบชนิดเฉียบพลันเป็นโรคที่มีอันตรายร้ายแรง หากมีไข้สูงควรสังเกตว่ามีอาการหนาวสั่นหรือมีปัสสาวะขุ่นร่วมด้วยหรือไม่ เมื่อใช้กำปั้นทุบเบา ๆ ที่สีข้างแล้วมีอาการเจ็บหรือไม่ ถ้ามีอาการข้อใดข้อหนึ่งดังกล่าว ควรรีบไปพบแพทย์และรับการรักษาอย่างจริงจัง ซึ่งโดยทั่วไปสามารถรักษาให้หายได้ง่ายเมื่อมาพบแพทย์ตั้งแต่เริ่มมีอาการ แต่ในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เชื้ออาจลุกลามเข้ากระแสเลือดกลายเป็นภาวะโลหิตเป็นพิษซึ่งอาจเป็นอันตรายร้ายแรงจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต หรือเมื่อรักษาควบคุมสาเหตุไม่ได้ก็อาจกลายเป็นโรคกรวยไตอักเสบเรื้อรัง เกิดภาวะไตวาย และเป็นเหตุให้เสียชีวิตได้เช่นกัน

วิธีป้องกันโรคกรวยไตอักเสบ

ผู้ที่เคยเป็นโรคนี้ เมื่อรักษาหายแล้วควรป้องกันมิให้กลับมาเป็นซ้ำด้วยการป้องกันมิให้มีการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะ ดังนี้

  1. พยายามดื่มน้ำให้มาก ๆ เมื่อไม่มีโรคต้องจำกัดน้ำดื่ม เพื่อช่วยล้างเชื้อโรคออกจากกระเพาะปัสสาวะและระบบทางเดินปัสสาวะ นอกจากนี้การดื่มน้ำแครนเบอร์รีหรือสารสกัดจากแครนเบอร์รียังอาจช่วยป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้ด้วย
  2. อย่ากลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน ควรฝึกถ่ายปัสสาวะในห้องน้ำนอกบ้าน หรือระหว่างการเดินทางได้ทุกที่ เพราะการกลั้นปัสสาวะจะทำให้เชื้อโรคอยู่ในกระเพาะปัสสาวะได้นานจนสามารถเจริญเติบโต
  3. หลังการถ่ายอุจจาระ ควรใช้กระดาษชำระเช็ดทำความสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลัง (ในผู้หญิง) เพื่อป้องกันมิให้นำเชื้อโรคจากบริเวณทวารหนักเข้าสู่ท่อปัสสาวะ
  4. ทำความสะอาดอวัยวะเพศทุกวันและก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ และปัสสาวะทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์
  5. รักษาอาการท้องผูก เพราะอาการท้องผูกสามารถเพิ่มโอกาสของการพัฒนาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้
  6. ควรรักษาสุขอนามัยพื้นฐานอยู่เสมอ (สุขบัญญัติแห่งชาติ) เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อต่าง ๆ
  7. เมื่อมีอาการผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ หรือมีอาการดังที่กล่าวมาแล้ว ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งจะช่วยป้องกันการอักเสบรุนแรงหรือเกิดกรวยไตอักเสบเรื้อรังได้
  8. ควรระวังอย่าให้มีการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะ ซึ่งนอกจากอย่ากลั้นปัสสาวะแล้ว ถ้าผู้ป่วยมีอาการขัดเบา (กระเพาะปัสสาวะอักเสบ), ผู้ป่วยที่เป็นนิ่วในทางเดินปัสสาวะ, ต่อมลูกหมากโต หรือเป็นเบาหวาน ควรรักษาโรคเหล่านี้ให้หายขาด เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่ส่งเสริมให้เกิดการติดเชื้อ มิฉะนั้นอาจมีกรวยไตอักเสบแทรกซ้อนได้

กรวยไตอักเสบเรื้อรัง

กรวยไตอักเสบเรื้อรัง (Chronic pyelonephritis) มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียในบริเวณกรวยไต เนื่องมาจากมีการอุดกั้นหรือมีความผิดปกติของทางเดินปัสสาวะ แต่ผู้ป่วยจะไม่มีอาการแสดงอย่างใด (ต่างจากกรวยไตอักเสบเฉียบพลัน) นอกจากการตรวจพบเชื้อแบคทีเรียในปัสสาวะ (Bacteriurea) และเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะโดยบังเอิญ หรือในบางครั้งบางคราวอาจมีอาการของกรวยไตอักเสบกำเริบเฉียบพลัน หรือมีอาการของกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้

ผู้ป่วยมักจะมีการอักเสบของกรวยไตนานเป็นแรมปี จนในที่สุดเซลล์ของไตถูกทำลาย ไตฝ่อ และเกิดภาวะไตวายเรื้อรัง โดยจะมีอาการซีด อ่อนเพลีย ความดันโลหิตสูง หากสงสัยหรือมีอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ ซึ่งแพทย์มักจะวินิจฉัยโดยการตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ เอกซเรย์ และตรวจพิเศษอื่น ๆ เพื่อหาความผิดปกติของทางเดินปัสสาวะ เช่น นิ่ว การตีบตันของทางเดินปัสสาวะ ถ้าพบอาจต้องผ่าตัดแก้ไข หรืออาจต้องให้ยาปฏิชีวนะ และติดตามดูอาการของผู้ป่วยติดต่อกันเป็นเวลานาน ด้วยการตรวจปัสสาวะและตรวจเลือดเป็นระยะ ๆ เพื่อดูว่ามีภาวะไตวายแทรกซ้อนหรือไม่

ในบางครั้ง อาจพบผู้ป่วยเป็นกรวยไตอักเสบเรื้อรังที่ดื้อต่อการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะหลายขนาน โดยที่ยังตรวจพบเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ แต่ตรวจไม่พบเชื้อจากวิธีเพาะเชื้อตามปกติ ซึ่งในกรณีนี้ ควรนึกถึงสาเหตุจากวัณโรคไต ซึ่งจะต้องวินิจฉัยโดยการส่งปัสสาวะเพาะหาเชื้อวัณโรคโดยเฉพาะและให้การรักษาด้วยยารักษาวัณโรคจึงจะได้ผล

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2.  “กรวยไตอักเสบ (Pyelonephritis)”.  (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).  หน้า 854-856.
  2. มูลนิธิหมอชาวบ้าน. นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่ 172 คอลัมน์ : แนะยา-แจงโรค.  “กรวยไตอักเสบชนิดเฉียบพลัน”.  (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.doctor.or.th.  [25 มิ.ย. 2016].
  3. หาหมอดอทคอม.  “กรวยไตอักเสบ (Pyelonephritis)”.  (ศ.เกียรติคุณ พญ.พวงทอง ไกรพิบูลย์).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : haamor.com.  [26 มิ.ย. 2016].

ภาพประกอบ : www.medicalook.com, wwikimedia.org (by Grook Da Oger), www.cancer.gov, www.aafp.org

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 โรคกรวยไตอักเสบ
  • 2 กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน
  • 3 สาเหตุของโรคกรวยไตอักเสบ
  • 4 ปัจจัยเสี่ยงของโรคกรวยไตอักเสบ
  • 5 อาการของโรคกรวยไตอักเสบ
  • 6 ภาวะแทรกซ้อนของโรคกรวยไตอักเสบ
  • 7 การวินิจฉัยโรคกรวยไตอักเสบ
  • 8 วิธีรักษาโรคกรวยไตอักเสบ
  • 9 วิธีป้องกันโรคกรวยไตอักเสบ
  • 10 กรวยไตอักเสบเรื้อรัง
  • 11 เรื่องที่เกี่ยวข้อง
  • 12 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ