กกลังกา สรรพคุณและประโยชน์ของต้นกกลังกา 15 ข้อ (กกรังกา)

กกลังกา

กกลังกา ชื่อสามัญ Umbrella plant, Flatsedge[1],[5]

กกลังกา ชื่อวิทยาศาสตร์ Cyperus alternifolius L.[1],[2] ส่วนอีกข้อมูลระบุว่า เป็นชนิดที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cyperus involucratus Rottb. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Cyperus alternifolius subsp. flabelliformis Kük., Cyperus flabelliformis Rottb.)[4] โดยจัดอยู่ในวงศ์กก (CYPERACEAE)

สมุนไพรกกลังกา มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า กกขนาก, กกต้นกลม, หญ้าสเล็บ, หญ้าลังกา, กกดอกแดง (พระนครศรีอยุธยา),[1], กกรังกา หญ้ากก หญ้ารังกา (กรุงเทพฯ)[4], จิ่วหลงทู่จู (จีนกลาง), เฟิงเชอเฉ่า (จีนแต้จิ๋ว) เป็นต้น[3]

ลักษณะของกกลังกา

ต้นกกรังกา

ต้นกกลังกา

ใบกกลังกา

ใบกกรังกา

ดอกกกลังกา

ดอกกกรังกา

รูปกกรังกา

สรรพคุณของกกลังกา

  1. ทั้งต้นรวมทั้งรากและเหง้า มีรสเปรี้ยว หวาน ขมเล็กน้อย เป็นยา เย็น ใช้เป็นยาฟอกเลือด ทำให้เลือดลมไหลเวียนดี (ทั้งต้น)[3]
  2. เหง้ามีรสขม ใช้ต้มเอาน้ำดื่มหรือนำมาบดให้เป็นผงละลายกับน้ำร้อนดื่มเป็นยาบำรุงร่างกาย บำรุงธาตุ แก้ธาตุพิการ เป็นยาทำให้เจริญอาหาร (เหง้า)[1],[2],[4],[6]
  3. ใช้เหง้าต้มกับน้ำดื่มหรือบดเป็นผงละลายกับน้ำร้อนดื่มเป็นยาขับเสมหะ แก้เสมหะ เสมหะเฟื่อง และช่วยขับน้ำลาย (เหง้า)[1],[2],[4],[6]
  4. ดอกใช้ต้มกับน้ำดื่มหรืออมกลั้วคอ เป็นยาแก้โรคในปาก เช่น ปากเปื่อย ปากเป็นแผล ปากซีด (ดอก)[1],[2],[3],[4],[5]
  1. ใบมีรสเย็นเบื่อ ใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาฆ่าพยาธิ ฆ่าเชื้อโรคภายใน (ใบ)[1],[2],[4],[6]
  2. หลังการคลอดบุตรของสตรี หากมีอาการปวดท้องน้อยหรือตกเลือด ให้ใช้เหง้ากกลังกานำมาฝนใส่เหล้า แล้วนำไปคั่วจนเนื้อยาเป็นสีคล้ำ นำข้าวสาร 1 กำมือ และยาที่คั่วแล้วปริมาณ 60 กรัม ใส่หม้อนำไปต้ม แล้วจึงนำมารับประทานเป็นยารักษา (เหง้า)[3]
  3. ลำต้นมีรสจืด ใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้ท่อน้ำดีอักเสบ ช่วยขับน้ำดีให้ตกลำไส้ และเป็นยาทำลายดีอันผูกไว้ซึ่งพิษ (ลำต้น)[1],[3],[6]
  4. ใช้เป็นยาแก้ตัวเหลือง ตาเหลือง แก้ดีซ่าน (ทั้งต้น)[3]
  5. ใช้เป็นยาแก้พิษงู ด้วยการใช้เหง้ากกลังกาที่แช่เหล้าไว้นาน 2 อาทิตย์ขึ้นไป นำมาล้างแผลที่โดนงูกัดและใช้เหล้าที่ได้จากนี้รับประทานครั้งละ 1 แก้วยา จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดหรือถอนพิษงูได้ชั่วคราว (เหง้า)[3]
  6. ใบใช้ตำพอกเป็นยาฆ่าเชื้อโรคหรือพยาธิที่บาดแผล ซึ่งเป็นตัวนำเชื้อโรคทั้งหมด (ใบ)[1],[2],[4],[5],[6]
  7. รากใช้ต้มกับน้ำดื่ม หรือตำกับเหล้าคั้นเอาน้ำดื่ม เป็นยาแก้ช้ำในและการตกเลือดจากอวัยวะภายใน ช่วยขับเลือดเน่าเสียออกจากร่างกาย (ราก)[1],[2],[3],[4],[6]
  8. ใช้เป็นยาแก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย (ทั้งต้น)[3]

ขนาดและวิธีใช้ : การใช้ตาม [3] ยาแห้งให้ใช้ครั้งละ 20-30 กรัม ส่วนยาสดให้ใช้ครั้งละ 30-60 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน หรือใช้ตำพอกภายนอกตามต้องการ[3]

ประโยชน์ของกกลังกา

เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5.  (ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม).  “กกลังกา”.  หน้า 1-2.
  2. หนังสือสมุนไพรในอุทยานแห่งชาติภาคกลาง.  (พญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ, ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, กัญจนา ดีวิเศษ).  “กกรังกา”.  หน้า 54.
  3. หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีน ที่ใช้บ่อยในประเทศไทย.  (วิทยา บุญวรพัฒน์).  “กกลังกา”.  หน้า 16.
  4. หนังสือสมุนไพรไทย เล่ม 1.  (ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, ธวัชชัย มังคละคุปต์).  “กกลังกา (Kok Rang Ka)”.  หน้า 14.
  5. ฐานข้อมูลพรรณไม้ที่ใช้ในงานภูมิสถาปัตยกรรม ศูนย์ความรู้ด้านการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.  “กกลังกา”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : agkc.lib.ku.ac.th.  [11 ก.ค. 2015].
  6. โรงเรียนกำแพงเพชรพิทยาคม.  “กกลังกา”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.kp.ac.th.  [11 ก.ค. 2015].

ภาพประกอบ : www.flickr.com (by naturgucker.de / enjoynature.net, Lois Bravo, Penny Wang, Graeme Walker, Todd Boland, stonebird, sclereid0309, tutincommon)

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 กกลังกา
  • 2 ลักษณะของกกลังกา
  • 3 สรรพคุณของกกลังกา
  • 4 ประโยชน์ของกกลังกา
  • 5 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ